15 เม.ย. เวลา 04:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เห็นข่าวเมื่อวานแล้ว ผมรู้สึกตลกดี
มีข่าว NATO จะใช้แพลตฟอร์มของ PLTR ในศูนย์บัญชาการใหญ่ของ NATO ชื่อโปรเจคว่า Maven Smart System
โดยโปรเจคนี้ เคยเป็นโปรเจคที่ PLTR ทำร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ มาก่อน โดยระบบนี้เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม แล้วระบุตำแหน่งสำคัญเชิงยุทธศาสตร์
จากนั้นเมื่อ AI สามารถระบุตำแหน่งที่ต้องโจมตีได้ ก็จะส่งคำสั่งไปที่เรือรบสหรัฐฯ ที่อยู่ใกล้เป้าหมายที่สุด ผู้บัญชาการที่ประจำอยู่บนเรือลำนั้นมีหน้าที่แค่ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วอนุญาตให้ระบบสั่งยิงจรวดได้โดยอัตโนมัติ
ซึ่งถ้าใครอยากรู้รายละเอียด และความล้ำยุคของโปรเจคนี้ สามารถอ่านได้ที่ Bloomberg เคยทำสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับโปรเจคนี้ไว้ (พิมพ์ว่า Maven Bloomberg ก็น่าจะเจอ)
จริงๆสำหรับคนอื่น หุ้นตัวนี้เข้าใจยากมาก แต่สำหรับผมเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะผมชอบเล่นเกมวางแผนการรบบ่อย โดยเฉพาะเกม wargame red dragon พอยิ่งได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับโปรเจคนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าซอฟต์แวร์แบบนี้เหมือนเกมที่ผมเล่นเลย
แล้วก่อนมาเจอหุ้นตัวนี้ ผมยังเคยคิดเล่นๆกับตัวเองอยู่ว่า ถ้ามันมี software ที่ช่วยให้เราวางแผนการรบได้แบบเห็นทั้งกระดานแบบนี้ เราคงได้เปรียบในการรบมากๆ
แล้วถ้าเขามีฐานลูกค้าเป็นกองทัพด้วยแล้ว ผมว่านี้คือจุดแข็งของบริษัท เพราะภาษาอังกฤษ มันมีคำว่า “Military Grade” อยู่ พอเราเห็นคำๆนี้ เราจะรู้สึกว่าสินค้านี้มันน่าจะคุณภาพสูงนะ อันนี้คือหลักจิตวิทยาธุรกิจ
แล้วผมเชื่อว่าเวลาบริษัทนี้มันไป pitch งานลูกค้าเอกชน เขาก็น่าจะโม้ว่า ซอฟต์แวร์ของเขาเป็น Military Grade
ซึ่งถ้าบริษัทแค่ขี้โม้ ลูกค้าเก่าคงไม่จ่ายเงินบนแพลตฟอร์มของ PLTR เพิ่ม
ตัวเลขสำคัญที่ผมใช้วัดความขี้โม้ของบริษัทนี้คือ net retention rate ซึ่งแสดงว่าลูกค้าเก่าจ่ายเงินเยอะขึ้นไหม
ถ้ามากกว่า 100% ก็แปลว่า จ่ายเยอะขึ้น
ถ้าน้อยกว่า 100% ก็แปลว่า จ่ายน้อยลง
เท่าที่ติดตามดู ลูกค้าเก่าจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20% ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่แม้ราคาหุ้นจะขึ้นมาสูงมากแล้ว ผมก็ยังตัดสินใจถือต่อไป
กลับมาที่เรื่องที่ผมเกริ่นไว้ตอนแรก ว่าผมรู้สึกตลกดี
ที่ผมตลกคือ ก่อนหน้านี้ผมได้ข่าวว่า อเมริกาตัดงบช่วยเหลือ NATO ทำให้ NATO ต้องเพิ่มงบด้านกลาโหมกันมากขึ้น
หลายคนคิดว่าบริษัทผลิตอาวุธของยุโรปน่าจะได้ประโยชน์ แต่กลายเป็นว่าบริษัทสหรัฐฯ อย่างเช่น บริษัทนี้กลับได้ประโยชน์แทน
จริง ๆ ยังมีอีกหลายบริษัทในสหรัฐฯ ที่น่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ เช่น GE ที่เคยเขียนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
เพราะ Supplychain ของหลายอุตสาหกรรมบนโลกใบนี้ ล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลของบริษัทอเมริกัน
และจากการวิเคราะห์ supplychain อย่างละเอียด ผมเลยมั่นใจว่ายังไง สหรัฐฯ ก็ยังคงความเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้อยู่ดี
- Visa ยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของระบบการเงินโลก
- Synopsys ยังคงเป็นซอฟต์แวร์ออกแบบชิป ที่ต่อให้จีนจะคิดโมเดลอะไรที่ดีกว่า deepseek ออกมา ก็ยังต้องใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทนี้ออกแบบชิปอยู่ดี
- PLTR ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการหลักของการทหารของโลกตะวันตกอยู่ดี ไม่ว่ายุโรปกับสหรัฐฯ จะยังคงช่วยเหลือกันอยู่หรือไม่
- GE ก็ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินพาณิชย์ และเครื่องบินรบ ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 75% ของโลกอยู่ดี
- ARM ก็ยังเป็นเจ้าของสถาปัตยกรรมชิป CPU ที่ใช้กันทั่วโลกอยู่ดี (แม้ ARM จะไม่ใช่บริษัทอเมริกันก็เถอะ)
พอเห็นข่าวเมื่อวาน ผมก็เลยรู้สึกตลก ที่เห็นคนแตกตื่นกันในช่วงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงไปแรงๆ แล้วมโนกันไปต่างๆนาๆว่าอเมริกาแย่แล้ว
แต่ก็ต้องขอบคุณเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เปิดโอกาสให้ผมได้ซื้อของดีๆ ในราคาที่มีส่วนลด
รอเก็บอีกรอบอยู่นะครับ อิอิ
โฆษณา