15 เม.ย. เวลา 10:12 • สุขภาพ

📌คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) กับการรักษาภาวะผมร่วง

คีโตโคนาโซลเป็นยาต้านเชื้อราที่มีการนำมาใช้ *นอกข้อบ่งใช้* (off-label) ในการจัดการภาวะผมร่วง โดยเฉพาะศีรษะล้านแบบพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง
🔴กลไกการออกฤทธิ์
1. ฤทธิ์ต้านเชื้อรา:
- รักษาโรคหนังศีรษะจากเชื้อรา เช่น โรคเซบเดิร์ม (seborrheic dermatitis) และรังแค ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายรูขุมขน
- การปรับสภาพหนังศีรษะให้แข็งแรง สภาพหนังศีรษะที่สุขภาพดีขึ้น อาจช่วยลดการหลุดร่วงและส่งเสริมการงอกของเส้นผม (Choi et al., 2019)
2. ฤทธิ์ต้านการอักเสบ:
- ลดการอักเสบของหนังศีรษะที่เป็นปัจจัยเร่งให้รูขุมขนฝ่อตัว ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะผมบาง (Fields et al., 2020)
3. ฤทธิ์ต้านแอนโดรเจน:
- ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นให้เกิดศีรษะล้านแบบพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia: AGA)
- คีโตโคนาโซลอาจรบกวนการทำงานของเอนไซม์ cytochrome P450 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) (Khandpur et al., 2002)
▶️ประสิทธิภาพในการรักษา
1. ศีรษะล้านแบบพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia: AGA)
- การศึกษาพบว่าคีโตโคนาโซลชนิดทาช่วยเพิ่มความหนาแน่นและเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง (Fields et al., 2020; El-Garf et al., 2019)
 
- เมื่อเปรียบเทียบกับมินอกซิดิล: มินอกซิดิลให้ผลเร็วขึ้น แต่คีโตโคนาโซลมีผลข้างเคียงน้อยกว่า และให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงในระยะยาว (El-Garf et al., 2019)
- อย่างไรก็ตาม หลักฐานยังไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับการรักษาแบบมาตรฐานที่ผ่านการรับรองจาก FDA เช่น มินอกซิดิล หรือ ฟิแนสเทอไรด์ (finasteride)
2. ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata)
- ยังไม่มีงานวิจัยเฉพาะเจาะจง ที่ยืนยันประสิทธิภาพของคีโตโคนาโซลโดยตรง ต่อภาวะผมร่วงเป็นหย่อม
- คุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านเชื้อราอาจมีประโยชน์ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะติดเชื้อราแทรกซ้อน (Choi et al., 2019)
❗ผลข้างเคียงหลัก:
- ผื่นแพ้สัมผัส (allergic contact dermatitis)
- อาการคันหรือหนังศีรษะแห้ง (พบได้บ่อยหากใช้เกินสัปดาห์ละ 3 ครั้ง)
⏩การใช้ร่วมกับยาอื่น: มีความปลอดภัย เช่น ใช้คีโตโคนาโซลแชมพู ร่วมกับ มินอกซิดิล หรือฟิแนสเทอไรด์ เพื่อเสริมฤทธิ์การรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม (Wei et al., 2024)
⭕รูปแบบและวิธีใช้
- แชมพูความเข้มข้น 1% หรือ 2%
- โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง การใช้บ่อยเกินไปอาจทำให้หนังศีรษะแห้งหรือระคายเคือง
⁉️ข้อจำกัด
1. การใช้นอกข้อบ่งใช้ (off-label) : ไม่ได้รับการรับรองจาก FDA สำหรับการรักษาผมร่วงโดยตรง หลักฐานยังมีจำกัดและมาจากการศึกษาขนาดเล็ก
2. ประสิทธิภาพ:
- หากใช้เดี่ยวๆ อาจได้ผลน้อยกว่ามินอกซิดิลหรือฟิแนสเทอไรด์
- มีประโยชน์เมื่อใช้ร่วมกับการรักษาอื่นในแผนการรักษาร่วม (combination therapy)
📌คีโตโคนาโซลเป็นตัวเลือกเสริมที่มีศักยภาพสำหรับผู้ที่มีภาวะผมร่วงจากศีรษะล้านแบบพันธุกรรม โดยเฉพาะเมื่อมีภาวะหนังศีรษะอักเสบหรือเชื้อราแทรกซ้อน แม้จะไม่ใช่การรักษาหลัก แต่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาเมื่อใช้ร่วมกับยามาตรฐานอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
.
.
💢อ้างอิง
Effectiveness of Chuzhi Shengfa Tablets Combined with Ketoconazole Shampoo and Chuzhi Shengfa Tablets Combined with 5% Minoxidil Foam in the Treatment of Male Androgenetic Alopecia (Wei et al., 2024)
Topical ketoconazole for the treatment of androgenetic alopecia: A systematic review (Fields et al., 2020)
Trichogenic effect of topical ketoconazole versus minoxidil 2% in female pattern hair loss: a clinical and trichoscopic evaluation (El-Garf et al., 2019)
Topical ketoconazole: a systematic review of current dermatological applications and future developments, (Choi et al., 2019)
Comparative Efficacy of Various Treatment Regimens for Androgenetic Alopecia in Men (Khandpur et al., 2002)
💢เรียบเรียงข้อมูลโดย
SCISPACE AI
DEEPSEEK AI
.
ภาพ​ Cover จาก
BETTERCM 2025.04.15
บทความอื่น
🥸อาหารเสริมสำหรับผู้ชายผมร่วง
ผมร่วงผมบางแก้ไขได้ไหม ? เปิด 3 วิธีช่วยกู้คืนสุขภาพหนังศีรษะ
โฆษณา