5 อันดับหุ้นเครื่องดื่มไทยที่น่าจับตาปี 2024 ที่ทำผลงานได้ดี
ตลาดหุ้นเครื่องดื่มในประเทศไทยมีการแข่งขันที่น่าสนใจในปี 2024 โดยมี 5 บริษัทที่โดดเด่นตามภาพดังนี้:
1. Carabao Group (CBG)
คาราบาวกรุ๊ปครองอันดับ 1 ในกลุ่มเครื่องดื่ม โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่มียอดขายสูง โดยเฉพาะคาราบาวแดง บริษัทมีการขยายตลาดต่างประเทศอย่างก้าวกระโดด ทำให้มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์การตลาดและการสร้างแบรนด์ผ่านการสนับสนุนกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลในระดับนานาชาติช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์อย่างมีนัยสำคัญ
2. Osotspa (OSP)
โอสถสภา ผู้ผลิตเครื่องดื่ม M-150 มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานาน นอกจากเครื่องดื่มบำรุงกำลังแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายในพอร์ตโฟลิโอ รวมถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ การขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโต
3. Sappe (SAPPE)
เซ็ปเป้เป็นผู้นำในกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องดื่มบิวตี้ดริ้งค์ และเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล บริษัทมีการเติบโตในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะเอเชีย และมีความคล่องตัวในการตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
4. Thai Beverage (THBEV)
ไทยเบฟเวอเรจเป็นบริษัทเครื่องดื่มขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ แม้จะอยู่ในอันดับ 4 แต่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม ความได้เปรียบด้านขนาดและการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องช่วยเสริมความมั่นคงให้กับบริษัทในระยะยาว
5. Siam Natural Products (SNNP)
สยามเนเชอรัล โปรดักส์ ผู้ผลิตเครื่องดื่มเจเล่และเบนโตะ เป็นผู้เล่นที่น่าจับตาในตลาดเครื่องดื่มไทย บริษัทมีการเติบโตด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคสมัยใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ มีช่องทางการเติบโตอีกมากจากการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ในปี 2024 นี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด-19 การปรับตัวตามเทรนด์สุขภาพและความยั่งยืน รวมถึงความสามารถในการรับมือกับต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวนและการปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
# หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มไทยที่น่าสนใจเพิ่มเติม
# บริษัทเครื่องดื่มหลักในตลาดหลักทรัพย์ไทย
1. **บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) - TBEV**
- เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดในไทย
- ผลิตภัณฑ์หลัก: เบียร์ช้าง, เบียร์อาชา, น้ำดื่มคริสตัล, โซดาและน้ำอัดลม
- มีการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน
2. **บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) - CBG**
- ผู้ผลิตเครื่องดื่มบำรุงกำลังชั้นนำ
- ผลิตภัณฑ์หลัก: คาราบาวแดง, คาราบาวสปอร์ต, วูดดี้ซี+
- มีการขยายตลาดต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย
3. **บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) - ICHI**
- เน้นตลาดชาพร้อมดื่ม
- ผลิตภัณฑ์หลัก: ชาเขียวอิชิตัน, ชาเย็นไทยแลนด์เบสท์, ชูโรส
- มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
4. **บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) - SAPPE**
- เน้นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและฟังก์ชันนัล
- ผลิตภัณฑ์หลัก: เซ็ปเป้ บิวติดริ้งค์, อโลเวร่า, เซ็ปเป้ ฟรุ๊ตทรี
- มีความเชี่ยวชาญในการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์
5. **บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) - OISHI**
- ธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารญี่ปุ่น
- ผลิตภัณฑ์หลัก: ชาเขียวโออิชิ, น้ำผลไม้, ชาพร้อมดื่มอื่นๆ
- อยู่ภายใต้กลุ่มไทยเบฟเวอเรจ
6. **บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) - TIPCO**
- เน้นน้ำผลไม้และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
- ผลิตภัณฑ์หลัก: น้ำผลไม้ทิปโก้, น้ำผักผลไม้รวม, น้ำแร่ออรา
7. **บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) - MALEE**
- ผู้ผลิตน้ำผลไม้และเครื่องดื่มชั้นนำ
- ผลิตภัณฑ์หลัก: น้ำผลไม้มาลี, เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล
- มีการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์อื่นด้วย
ปัจจัยที่มีผลต่อธุรกิจเครื่องดื่มในไทย:
- การเติบโตของตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
- การแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคหลังสถานการณ์โควิด-19
- ความท้าทายด้านต้นทุนวัตถุดิบและการขนส่ง
- กฎระเบียบและภาษีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและแอลกอฮอล์
##ผู้ลงทุนควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน การเติบโตของยอดขาย กลยุทธ์การขยายธุรกิจ และความสามารถในการปรับตัวต่อแนวโน้มตลาดของแต่ละบริษัทก่อนการตัดสินใจลงทุน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
