16 เม.ย. เวลา 03:05 • ปรัชญา
1. โปรดจำไว้ว่า ทุกการให้อภัยเป็นเรื่องดีเสมอ หาไม่แล้วเราคงไม่คิดที่จะพากเพียรปฏิบัติ "อภัยทาน" ซึ่งเป็นทานมัยอย่างหนึ่งใน 3 ประการ และการที่เราให้อภัย คนที่จะได้อานิสงส์แห่งทานไปเต็มๆ คือ "ตัวเราผู้ให้อภัย" ซึ่งจะช่วยยกระดับจิตวิญญาณเราให้สูงขึ้น นี่คือทางธรรม ซึ่งเป็นเพียงหนทางเล็กๆ ในการดับเหตุแห่งทุกข์
2. เมื่อพิจารณาถึงทางโลก หากคำว่า "นอกใจ" หมายถึง "การลักลอบออกเดท จูบปากนัวเนีย จับมือถือแขน ไปจนถึงมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเพศสภาพใด" กรณีนี้นับเป็น "การกระทำอย่างผิดปกติ" เพราะศีลแปลว่า "ปกติ" ซึ่งเมื่อได้ "ลงมือกระทำกรรมที่ผิดปกติ" แล้ว ย่อมจะมี "ผลแห่งกรรม" ตามมาเสมอ
3. ผลแห่งกรรมที่ตามมาคือ ผู้กระทำเหตุ จะรู้สึกอึดอัด ร้อนรุ่มใจ อยู่ไม่เป็นสุข เพราะติดสุขอันเร่าร้อนจากการเสพกามกับบุคคลนั้น จนแสดงผลออกมา อาทิเช่น ละเมอหาตอนกลางคืน เบื่อหน่ายกิจกรรมทางเพศกับคู่รักคนเดิม ร้อนรนทนอยู่ไม่ได้ พฤติกรรมจะต่างออกไป ในขณะที่หากคู่รักเดิม ไม่ได้ให้อภัยอย่างแท้จริง คือไม่สามารถจะละคลายการยึดข้องได้ ยังคงต้องการเอาชนะ ยึดจับผู้กระทำเหตุไว้ ก็จะเกิดความรู้สึกแห่งผลไม่ต่างกัน นั่นคือ ว้าวุ่นใจ ต้องคอยวิ่งไล่ตาม "เหมือนสุนัขตัวผู้หวงสุนัขตัวเมีย"
คนที่ให้อภัยคนอื่นได้จริงๆ คือผุู้ฉลาดมีสติปัญญา
แต่คนที่เอาแต่พูดว่า "ตนเป็นคนดีให้อภัย แต่ยังคงยึดไว้"
คือทั้งโง่เง่าและเต่าตุ่น ไม่ต่างกับสัตว์ที่เป็นอาหารกุ้งหอยปูปลา
......................
ความต่างจึงอยู่ตรงนี้แล
และหากเราสามารถปฏิบัติได้แบบข้อ 1
อานิสงส์นั้น จะทำให้คุณได้พานพบคู่ที่เหมาะควรกัน
โฆษณา