อาโอะ ทานากะ : ดีลสุดคุ้มของลีดส์ ที่ปีหน้าพรีเมียร์ลีกอาจได้รู้จัก | Main Stand
ลีดส์ ต้องการอีก 7 แต้มจาก 4 เกมที่เหลือในแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2024-25 พวกเขาก็จะเลื่อนชั้นกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
และถ้าคุณถามว่าในทีมยูงทองชุดนี้มีนักเตะคนไหนที่น่าจับตามองบ้าง คุณอาจจะเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ว่านักเตะที่ดีที่สุดของพวกเขาในปีนี้ คือนักเตะชาวญี่ปุ่น
นี่คือเรื่องราวของเขา "อาโอะ ทานากะ" นักเตะที่สื่ออย่าง BBC ถึงกับเคยพาดหัวว่า "ดีลที่คุ้มที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร"
ติดตามกับ Main Stand
พื้นฐานของนักเตะญี่ปุ่น
อาโอะ ทานากะ คือผลผลิตของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ รุ่นราวคราวเดียว แถมสนิทสนมกับ คาโอรุ มิโตมะ (มิโตมะ อายุมากกว่า ทานากะ 1 ปี) ที่ปัจจุบันอยู่กับ ไบรท์ตัน เพียงแต่ความโดดเด่นของ ทานากะ มักไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก เพราะด้วยตำแหน่งและวิธีการเล่น เนื่องจากเขาเป็นกองกลางสายเชื่อมเกม เปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุก เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นตัวปิดทองหลังพระมาโดยตลอด
ช่วงที่เล่นในญี่ปุ่น เชื่อว่าแฟนบอลไทยก็คงจะได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขาบ้างจากการถ่ายทอดสดเจลีก และเราก็เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าเขาโดดเด่นอย่างไร เพราะมองผ่าน ๆ เหมือนกับแค่เป็นตัวที่จ่ายบอลไป-มา เท่านั้น
ดังนั้นการที่จะมีใครคนหนึ่งมาบอกว่าอะไรทำให้เขามาถึงจุดนี้ ก็คงไม่พ้นตัวเขาเอง โดย อาโอะ ทานากะ เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับ GOAL เมื่อปี 2016 และอธิบายจุดมุ่งหมายของนักเตะญี่ปุ่นทุกคนคือการฝันที่จะไปเล่นในยุโรป ไปเล่นในลีกใหญ่ ๆ ให้ได้ ส่วนจะถึงฝันหรือไม่ ไม่มีใครรู้ เพียงแต่ว่าระหว่างทางพวกเขาจะต้องแน่ใจว่าตัวเองได้ทุ่มสุดตัว ชนิดที่ว่าต่อให้ไม่ถึงฝัน มันก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจ เพราะเชื่อว่าตัวเองได้ทำเต็มที่แล้ว
ทานากะ ลงเล่นให้ ฟรอนตาเล่ ชุดใหญ่ครั้งแรกและยิงประตูได้ทันที และประตูนั้นมันเป็นเหมือนการจุดไฟให้ตัวเขา ในแบบที่ว่าเมื่อมีโอกาสต้องคว้าทันที และต้องเล่นด้วยความกล้าหาญ พยายามพิสูจน์ตัวเองให้เต็มที่ และในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความถ่อมตัวเพื่อพัฒนาตัวเองไปด้วย
"ผมคิดว่าทุกอย่างมันเริ่มจากตรงนี้ ผมเคยได้ลงเล่นในหลายระดับ แต่เมื่อมาถึงระดับชุดใหญ่ ผมคิดว่าตัวเองมาถึงเส้นชัยแล้ว ส่วนต่อไปคือคาดหวังพยายามเพื่อไปสู่เส้นชัยเส้นใหม่ที่ตั้งไว้ ผมคงเริ่มจากการลงเล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ และจากนั้นเราจึงค่อยมาดูกันว่าฝันของผมจะไปหยุดที่ตรงไหน"
ทานากะ เล่นให้ ฟรอนตาเล่ ถึงปี 2021 ช่วยทีมคว้าแชมป์เจลีก 3 สมัย, เอ็มเพอร์เรอร์คัพ 1 สมัย, เจลีกคัพ 1 สมัย ขณะที่รางวัลส่วนตัว เคยได้รางวัล รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ ในปี 2019 และติดทีมยอดเยี่ยมในปี 2020 ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพิชิตทุกอย่างในประเทศ เป้าหมายการไปเล่นในยุโรปของเขาก็เริ่มขึ้น ... และป้ายแรกคือ เยอรมนี ดินแดนที่นักเตะดีกรีทีมชาติญี่ปุ่นค้าแข้งที่นี่มากที่สุด
ก้าวกระโดด
ทานากะ ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวให้ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ในปี 2021 แบบยืมตัว (เล่น เจลีก ครึ่งซีซั่น 2021 ก่อนไปยุโรปช่วงพรีซีซั่นฤดูกาล 2021-22) ก่อนจะทำผลงานโดนใจจนทีมต้องจัดการซื้อขาดเขาในทันทีเมื่อฤดูกาลจบลง ตัวของ ทานากะ เองก็เด่นในระดับหนึ่งแต่ก็ยังไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก เนื่องจากด้วยความที่ทีมเล่นในลีก 2 เท่านั้น บวกกับตำแหน่งดังที่กล่าวไปในข้าง ทำให้ไม่ค่อยมีใครออกมาวิเคราะห์ หรือเจาะลึกการเล่นของเขามากนัก
ทว่าไม่มีลีกใดอีกแล้วที่จะทำให้โลกรู้จักคุณได้ดีกว่าลีกอังกฤษ ผู้เล่นคนไหนที่ย้ายมาเล่นที่นี่และเริ่มโดดเด่น เนื้อหา บทความทั้งเชิงเบื้องหลัง หรือเชิงแท็คติกของผู้เล่นคนนั้นจะถูกนำเสนอแบบแพร่หลาย และในซีซั่น 2024-25 กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด อาโอะ ทานากะ คือนักเตะญี่ปุ่นที่สำนักข่าวใหญ่ ๆ ในอังกฤษแทบทุกเจ้านำเสนอเรื่องราวของเขามากกว่า มิโตะมะ เสียด้วยซ้ำไป อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เป็นแบบนั้น ?
ประการแรก ไม่มีใครคิดว่านักเตะญี่ปุ่นที่มาด้วยราคาแค่ 2.5 ล้านปอนด์ จะก้าวขึ้นมาเป็น 11 ตัวจริงของทีมอย่าง ลีดส์ ซึ่งแม้จะเป็นทีมที่เล่นใน แชมเปี้ยนชิพ แต่ศักยภาพโดยรวมของทีมก็นับว่าแทบอยู่ในระดับเดียวกับทีมกลาง ๆ ตารางของ พรีเมียร์ลีก เลยด้วยซ้ำ เหนือสิ่งอื่นใดคือ แม้แต่ตัว ทานากะ เองก็ทำให้ทุกคนเซอร์ไพรส์ โดยเฉพาะเรื่อง "ขีดจำกัดที่ไร้เพดาน" ดังที่กล่าวไปว่าไม่ว่าเขาจะถูกส่งไปอยู่ที่ไหน เขาจะพยายามเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในแบบของตัวเองให้ได้ และที่ ลีดส์ อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
"ผมมาที่นี่เพื่อจะเป็นนักเตะที่ดีขึ้น ในการซ้อมผมได้เห็นนักเตะที่เก่ง ๆ ที่อยู่ในทีม ๆ นี้มากมาย และการได้เล่นกับพวกเขาเหล่านี้จะทำให้ผมสามารถพัฒนาตัวเองได้ และผมแน่ใจว่าผมจะสนุกกับอาชีพนักฟุตบอลเมื่อได้เป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อนร่วมทีมเหล่านี้" อาโอะ กล่าว
เดิมที ทานากะ ถูกซื้อเข้ามาเพื่อเป็นตัวเลือกอันดับที่ 3 ของทีมในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง เพราะ ดาเนี่ยล ฟาร์เก้ กุนซือของทีมอยากจะได้ เดยัน ลูบิซิช จาก โคโลญจน์ เป็นเป้าหมายแรก ส่วนเบอร์ 2 คือ กุสตาโว่ ฮาเมอร์ เพียงแต่ 2 ดีลแรกไม่เกิดขึ้น และ ฟาร์เก้ ก็เล่าว่าเมื่อเขาได้เห็นวีดีโอการเล่นของ ทานากะ เขาก็เดินทางไปดูฝีเท้าของนักเตะด้วยเอง และประทับใจทันที สุดท้ายเขาก็บอกให้ทีมปิดดีล ทานากะ มาร่วมทัพในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย
ทานากะ ลงเล่นเกมแรกให้ ลีดส์ ในการเจอกับ คาร์ดิฟฟ์ ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2024 ด้วยการเป็นตัวสำรอง ทว่าหลังจากนั้นเป็นดีของเขา และเป็นโชคร้ายของ อีธาน อัมปาดู กองกลางตัวรับดีกรีทีมชาติเวลส์ ที่ได้รับบาดเจ็บราว 1-2 เดือน ทำให้ ฟาร์เก้ ต้องให้โอกาส ทานากะ ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงในช่วงต้นเดือนตุลาคม และจากนั้นกองกลางที่ดีที่สุดใน แชมเปี้ยนชิพ ก็ได้ถือกำเนิด
นับตั้งแต่วันที่ ทานากะ ได้ลงเล่นเป็นครั้งแรก จนถึงวันที่ 21 มกราคม 2025 ไม่มีนักเตะคนไหนใน 4 ดิวิชั่นสูงสุดของอังกฤษ ที่จ่ายบอลสำเร็จเกิน 1,000 ครั้ง และเข้าปะทะสำเร็จเกิน 50 ครั้งเลย ยกเว้นห้องเครื่องชาวญี่ปุ่นคนนี้
นอกจากสถิติการจ่ายและตัดบอลแล้ว สิ่งที่ ทานากะ เข้ามาเพิ่มมิติให้กับ ลีดส์ ก็คือการยิงประตู ตอนนี้เขายิงในลีกไปแล้ว 4 ลูก ซึ่งในซีซั่นที่แล้ว ไม่มีนักเตะกองกลาง (ตัวกลาง) ของลีดส์คนไหนเลยที่ทำประตูได้ และความดุดันรอบด้านนี้เองที่ทำให้ ฟาร์เก้ ตั้งฉายาเขาว่า "ไทเกอร์ ทานากะ" ซึ่งแน่นอนว่า ณ ตอนนี้เขากลายเป็นเหมือนลูกรักของ ฟาร์เก้ ไปแล้ว
พูดให้น้อย ทำให้เยอะ
ทานากะ ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษคล่องและเก่งมากนัก อีกทั้งการปรับตัวกับลีกอังกฤษก็เป็นเรื่องยากและมีนักเตะญี่ปุ่นไม่กี่คนที่มาที่นี่และทำผลงานได้ดีในทันที แต่สำหรับ ทานากะ ที่เป็นหนึ่งในนั้น เขาใช้วิธีทำงานหนักแทนการพูด เพื่อให้ตัวเองยกระดับตัวเองให้เร็วที่สุด ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ถูกต้อง นอกจาก ฟาร์เก้ ผู้เป็นเจ้านายของเขาจะกดไลก์แล้ว ทานากะ ยังเข้ามาเป็นขวัญใจของแฟน ลีดส์ ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยคาแร็ตเตอร์นักสู้แบบเขาด้วย
"นักเตะอย่าง ไทเกอร์ ทานากะ ทำได้ทุกอย่าง คุณคิดดูแล้วกัน แม้แต่ซ่อมนาฬิกาของกรรมการในสนามเขายังทำได้ ผมไม่รู้จะเรียกร้องอะไรจากเขาอีกแล้ว ผมคิดว่านี่คือการเซ็นสัญญาที่เหลือเชื่อจนถึงตอนนี้ คุณภาพของเขามันพร้อมใช้งานมาก ๆ ทุกอย่างยอดเยี่ยมทั้งตอนมีบอลและไม่มีบอลก็ตาม"
"ก่อนที่เขาย้ายมา ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่าผมไม่กล้าการันตีอะไรเพราะเขาไม่เคยเล่นในลีกระดับสูงมาก่อน แต่เขามาที่นี่เล่นกับสโมสรใหญ่ด้วยวิธีการรับมือกับแรงกดดันทั้งในและนอกสนามได้ดีมาก เขาทำงานหนักในสนาม แต่นอกสนามนั้นเขาเป็นคนที่มีบุคลิกผ่อนคลาย ๆ สบาย ๆ นั่นอาจจะเป็นคำที่ผมอธิบายถึงเขาได้ดีที่สุด" ฟาร์เก้ กล่าว
หนึ่งในความลับที่หลายคนไม่รู้ก็คือ ทานากะ นั้นลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษได้จนคล่องภายในเวลาไม่กี่เดือน และนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาขึ้นมาเป็นตัวหลัก และปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม สกิลภาษาอังกฤษที่เพิ่มขึ้นนั้น เขามักจะไม่ได้ป่าวประกาศให้ใครทราบ โดยเก็บไว้เงียบ ๆ เอาไว้ใช้พูดกับเพื่อนร่วมงานเท่านั้น เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้านักข่าวหรือสื่อ เขาจะแสร้งทำเป็นพูดไม่ได้ (หรือได้น้อย) เพราะเขาต้องการพูดผ่านสื่อให้น้อยที่สุด ไม่อยากจะให้สื่อเอาคำพูดของเขาไปยกยอจนเกินเหตุ เนื่องจากเขาเชื่อว่าตัวเองยังคงต้องพัฒนาขึ้นเสมอ และเพื่อจะไปให้ถึงจุดนั้นเท้าของเขาต้องติดดินเอาไว้
“บางครั้งคุณประเมินเขาต่ำไป เมื่อคุณพยายามไปสัมภาษณ์เขา เขาจะแสร้งทำเป็นว่าพูดไม่เก่ง และก็ตอบแบบว่า 'ใช่ ไม่' มากกว่า เขาแค่มีความสุขที่ได้อยู่เงียบ ๆ และแสร้งทำเป็นว่าพูดไม่ได้ ถ้าคุณอยากจะรู้จักเขา ผมแนะนำให้ไปดูในสนามดีกว่า" ฟาร์เก้ ช่วยยืนยันเรื่องนี้อีกเรื่อง
ณ ตอนนี้ อาโอะ ทานากะ ในวัย 26 ปี ไม่ใช่ดาวรุ่งแล้ว ทว่าแม้ไม่ใช่ดาวรุ่ง แต่เป้าหมายของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือการหาวิธีไต่ระดับขึ้นให้สูงสุด ซึ่งแน่นอนว่าอนาคตของเขาจากนี้น่าสนใจ เพราะมีโอกาสที่เจ้าตัวจะได้มาเล่นในพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า
ถ้าเขาทำได้ดี นั่นก็แปลว่าเพดานบินของเขายังคงไร้ขีดจำกัด แต่ถ้าเขาทำได้แย่จนต้องเป็นผู้แพ้ อย่างน้อย ๆ เราก็มั่นใจได้ว่าเขาได้ทุ่มสุดฝีมือแบบไม่มีอะไรติดค้าง ตามที่เขาได้ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
บทความโดย : ชยันธร ใจมูล
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
