16 เม.ย. เวลา 05:49 • ข่าว

ทรัมพ์เล็งปิดสถานทูตเกือบ 30 แห่งทั่วโลก

ตัดลดค่าใช้จ่าย ไม่ขยาย Soft Power
เปิดแนวคิดใหม่ในนโยบายด้านการต่างประเทศที่สร้างความฮือฮาอีกแล้ว เมื่อ โดนัลด์ ทรัมพ์ ผู้นำสหรัฐ กำลังพิจารณาปิด/ปรับ/ลด สถานทูต และ สถานกงสุลของสหรัฐ ในต่างแดนเกือบ 30 แห่ง ไม่เว้นแม้แต่สำนักงานที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอเมริกาในอิรัก และ โซมาเลีย
สื่อใหญ่ของอเมริกัน อ้างอิงถึงเอกสารชิ้นหนึ่งของทีมรัฐบาลทรัมพ์ที่ได้ร่างแผนที่จะปรับ ลด ไปจนถึงขั้นปิดสำนักงานสถานทูตของสหรัฐในต่างประเทศร่วม 30 แห่ง ในจำนวนนั้นมีสถานทูต 10 แห่งและสถานกงสุลอีก 17 แห่ง ที่อยู่ในยุโรป อาฟริกา และ เอเชีย
1
ซึ่งประเทศที่ถูกระบุอยู่ในแผนแน่ๆแล้ว ได้แก่ สถานทูตใน มอลตา ลักเซมเบิร์ก เลโซโท คองโก แอฟริกากลาง และซูดานใต้ กับสถานกงสุลในฝรั่งเศส 5 แห่ง เยอรมนี 2 แห่ง บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 2 แห่ง อังกฤษ 1 แห่ง แอฟริกาใต้ 1 แห่ง และที่เกาหลีใต้อีก 1 แห่ง โดยจะควบรวมหน้าที่รับผิดชอบกับสำนักงานอื่นที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน มาดูแลแทน
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้ "ปรับลด" ขนาด และ งานต่างประเทศในสถานทูต 2 แห่งที่เป็นเหมือนจุดยุทธศาสตร์สำคัญของสหรัฐในนโยบายต่อต้านการก่อการร้าย ได้แก่ อิรัก และ โซมาเลีย และลดภารกิจด้านการทูตในต่างแดนลงอีกด้วย
ในเอกสารยังระบุว่า การปิด - ปรับ - ลด สถานทูต และ กงสุลของสหรัฐ จะพิจารณาจากความเห็นของสำนักงานระดับภูมิภาค/ ปริมาณงานของแต่ละสำนักงาน/ ต้นทุนค่าใช้จ่าย/ สภาพของสำนักงาน และ ระดับความปลอดภัย ประกอบการตัดสินใจ
และยังมีการเสนอให้ใช้สถานกงสุลในญี่ปุ่น และ แคนาดา เป็นโมเดลสำหรับสำนักงานของประเทศอื่น ๆ อีกทั้งปรับรูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้านการทูตให้มีความ "ยืดหยุ่น" ทำให้เกิดทักษะ "ภาวะผู้นำแบบหมวก 2 ใบ" คือ สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หลากหลาย ดูแลงานมากกว่า 1 ตำแหน่ง อาทิ การควบงานขององค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และ UNESCO ในสำนักงานที่ปารีส
อะไรยุบได้ ก็ยุบ อะไรลดได้ ก็ลด ให้ใช้กำลังคนน้อยลง แต่ทำงานได้มากขึ้น เป็นหนึ่งในแผนการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐ ของ หน่วยงาน DOGE ที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลให้ได้ถึง 3 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2026
1
DOGE เคยเสนอให้ตัดงบประมาณด้านการทูต และ เงินช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐลงให้ได้ 1 ใน 3 ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ ลดงบประมาณสนับสนุนด้านงานพัฒนาต่างประเทศจาก 3.83 หมื่นล้าน ให้เหลือเพียง 1.7 หมื่นล้านเหรียญในปี 2026 ซึ่งกำลังรอการพิจารณาเห็นชอบจากสภาคองเกรซ
1
แน่นอนว่า การปรับลดงบประมาณช่วยเหลือประเทศ และ ยุบสำนักงานสหรัฐในต่างแดน มีผลต่ออิทธิพลของสหรัฐในต่างประเทศ ที่เคยถูกมองว่าเป็น "Soft Power" อันแข็งแกร่งของอเมริกามาตลอดหลายสิบปี
1
แต่ทรัมพ์กลับให้ความสำคัญน้อยลงมาก ซึ่งเขาหันกลับมามองเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า และคิดว่าต่างชาติหาประโยชน์จากความอยากได้หน้าของรัฐบาลสหรัฐชุดที่แล้วๆมา เอาเปรียบชาวอเมริกันมานานพอแล้ว และเขาจะไม่ยอมจ่ายอีกต่อไป ถ้าไม่ได้กำไรคืนมา
5
ก็นับว่าเป็นแนวคิดที่มีหลากหลายข้อดี-ข้อเสีย บนทาง 2 แพร่งที่ต้องเลือกเอาอย่างใด อย่างหนึ่ง ว่าจะยอมจ่ายหนัก เพื่อรักษาหน้า หรือ ประหยัดเงินไว้ดีกว่า หน้าไม่ต้องใหญ่มากก็ได้
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
2
แหล่งข้อมูล
โฆษณา