18 เม.ย. เวลา 04:00 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทาน : สงครามใหญ่ 1/4

[1/4] บทนำ – ไต้หวัน: เสียงเบากว่าระเบิด
โลกไม่ได้ระเบิดในวันเดียว
มันแค่เงียบลง…ทีละวัน ทีละระบบ
เสียง API ที่เคยเชื่อมข้ามทวีป ไม่ตอบกลับ
แบรนด์ที่เคยปรับซอฟต์แวร์ข้ามระบบ เริ่มเขียนโค้ดเฉพาะฝั่ง
นักการทูตพบว่า เอกสาร “ความร่วมมือ” ฉบับล่าสุดลงนามเมื่อ 3 ปีก่อน — แล้วก็ไม่มีอะไรต่อ
มันไม่ใช่เพราะใครอยากทำสงคราม
แต่เพราะ ไม่มีใครอยากอธิบายความกลัวตัวเองอีกต่อไป
---
แนวรบที่ 1: ไต้หวัน — สงครามที่เริ่มจากจังหวะลมหายใจ
Week 0–2
จีนเปิดฉากด้วยชื่อยุทธการ: “หมอกเงียบ” (Silent Fog)
ไม่ใช่การยิง แต่คือการ “ทดสอบขีดจำกัดของการไม่ตอบโต้อย่างชัดเจน”
กองเรือเคลื่อนเข้าใกล้ช่องแคบไต้หวันจากทิศตะวันตก
ผู้นำยุทธการคือ เรือพิฆาต Type 055 — เรือรบผิวน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของจีน
ติดตั้งระบบเรดาร์ขั้นสูง AESA, ระบบยิงแนวตั้ง (VLS) ได้มากกว่า 100 ท่อ
ทำหน้าที่เป็นทั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศและเรดาร์ลอยน้ำสำหรับฝูงบิน
เทียบได้กับเรือพิฆาต Aegis-class ของสหรัฐในแง่ระบบเซ็นเซอร์
ตามมาด้วย Shandong — เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่จีนสร้างเอง
บรรทุก J-15 เครื่องบินรบประจำเรือที่ขึ้น–ลงจากดาดฟ้าโดยใช้ทางลาด
แม้จะไม่ทันสมัยเท่า F-35 แต่มี payload หนัก และสามารถรบระยะใกล้ได้ดี
เสริมด้วย เรือสะเทินน้ำสะเทินบก Type 071 สำหรับลำเลียงพลขึ้นฝั่ง
พร้อมโดรนขนาดเล็กที่ปล่อยจากดาดฟ้าเรือในภารกิจซ้อนข้อมูลเรดาร์
ฝูง UAV WZ-7 "Soaring Dragon" ขึ้นบินสูงระดับ 20 กม.
ใช้ปีกแบบลู่เข้าหลัง (forward-swept) เพื่อลดการตรวจจับ
เชื่อมต่อกับระบบ Beidou ซึ่งเป็น GPS และ data-link ของจีน
> “พวกเขาไม่ยิง…แต่กำลังยื่นมือมาขวางหายใจของไต้หวัน”
---
Week 3–4: สหรัฐฯ ตอบ แต่ยังไม่รุก
ฝั่งอเมริกาไม่ปล่อยให้ความเงียบเดินต่อโดยลำพัง
USS Ronald Reagan เคลื่อนตัวจาก Yokosuka, ญี่ปุ่น
เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Nimitz ขนาดกว่า 100,000 ตัน
รองรับเครื่องบิน 70–80 ลำ พร้อมศูนย์บัญชาการเต็มรูปแบบ
จุดเด่นคือสามารถปฏิบัติการได้นานนับสิบปีโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง
คุ้มกันด้วยเรือพิฆาต Arleigh Burke-class 2 ลำ
ใช้ระบบ Aegis Combat System, radar SPY-1D, และระบบสกัดขีปนาวุธ SM-6
พร้อมยิงขีปนาวุธ Tomahawk จากแนวตั้งได้หลากหลายรูปแบบ
คล่องตัวสูง และทำหน้าที่เสมือน “โล่เคลื่อนที่ของเรือบรรทุก”
เครื่องบิน F-35B Lightning II บินขึ้นจากฐาน Okinawa
เป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นที่ 5 แบบขึ้น–ลงแนวดิ่ง (VTOL)
จุดเด่นไม่ใช่แค่ความเร็วหรืออาวุธ แต่คือ “การเชื่อมต่อ”
F-35B สามารถส่งภาพและข้อมูลจริงจากสนามรบไปยังเรือรบ, บินร่วมกับ drone, หรือแม้แต่ทำหน้าที่เป็นเรดาร์กลางให้กับระบบภาคพื้นดิน
ขณะเดียวกัน, สหรัฐส่ง B-21 Raider เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนใหม่ล่าสุดเข้าสู่ภูมิภาค
บินไกลกว่า 9,000 กม., หลบเรดาร์ได้สูงสุดในหมู่เครื่องบินที่ยังมีประจำการ
สามารถบรรทุกอาวุธได้ทั้งแบบธรรมดาและนิวเคลียร์
และทำหน้าที่ “เจาะทะลวงเชิงโครงสร้าง” โดยไม่ต้องเปิดการรบเชิงปริมาณ
---
ภาพสงครามที่ยังไม่มีเสียงปืน
ในอากาศ:
ฝูงบินล่องหนของทั้งสองฝ่ายบินเลียบเส้นขอบเรดาร์
โดรนจีนบินเหนือแนวเรดาร์
F-35 ส่งสัญญาณ data-link แบบข้ามหน่วยรบ
UAV สหรัฐกำลังบินเหนือมหาสมุทรโดยไม่ประกาศ flight path
ในทะเล:
เรือบรรทุกเคลื่อนเข้าใกล้กันแต่ไม่ยิง
เรือตรวจการณ์เล็ก ๆ ของไต้หวันซ่อนตัวใต้คลื่น
Type 055 และ Arleigh Burke ต่างรู้พิกัดกัน…แต่ไม่มีใครยกเรดาร์ขึ้นจนเต็มระยะ
> นี่คือสงครามที่ไม่มีใครกล้าพูดว่ามันเริ่ม
แต่ทุกคำสั่งยิง…ถูกโหลดไว้ในระบบแล้วเรียบร้อย
---
โฆษณา