16 เม.ย. เวลา 23:50 • การศึกษา

“ถ้า AI ทำวิจัยแทนเราได้จริง... แล้วเราจะยังเหลือหน้าที่อะไร?”

เมื่อวานผมนั่งดูวิดีโอเดโมของ o3 กับ o4 mini high ที่เขาว่ากันว่า “ชิงบัลลังก์ที่ 1 จาก Google” ไปได้เรียบร้อยแล้ว — ไม่ใช่แค่ในแง่ของ performance แต่ในแง่ของ "vision" ด้วย
สิ่งที่เห็นคือภาพของโมเดล AI ที่ไม่เพียงแค่ “เข้าใจ” ข้อมูลมหาศาลในครั้งเดียว แต่ยัง “คิดต่อ” ได้เอง แก้โจทย์โปรแกรมได้ละเอียดถึงระดับแข่ง Codeforces Elo 2710 (ระดับ Top 0.1%) หรือแม้กระทั่ง "เขียนงานวิจัยต่อให้เสร็จ" แบบที่นักศึกษาปริญญาเอกบางคนยังต้องอึ้ง
แล้วเราล่ะ?
ตอนที่ดูมัน zoom เข้าไปที่กราฟใน paper แล้วเขียนโค้ด Python เพื่อวิเคราะห์ภาพกราฟนั้น แล้วอธิบายผลออกมาเป็นภาษาคนปกติ... ผมเผลอพูดออกมาว่า “เฮ้ย แบบนี้ consult อย่างพวกเราไม่ต้องทำละมั้ง?”
นี่คือการมาถึงของโมเดลที่ไม่ใช่แค่สรุป... แต่ “สานต่อ” ความคิดได้จริง
---
ทำไมเรื่องนี้ถึง “เขย่าโลก” ได้ขนาดนี้?
1. ขนาด context ใหญ่จนอ่านได้ทั้งโลก
256,000 tokens — ใหญ่พอจะใส่ทั้งเล่มวิทยานิพนธ์, โค้ดโปรเจกต์, และภาพผลลัพธ์การทดลองพร้อมกัน แล้ว AI ยังเข้าใจว่าอะไรเชื่อมโยงกับอะไร
2. มัน “ลงมือทำ” ได้ ไม่ใช่แค่บอก
มี Tool use ในตัว: วิ่ง Python, วิเคราะห์ PDF, แก้โค้ด, สร้างรูป
ยกตัวอย่าง: อัปโหลด Excel แล้วบอกว่า “สรุปกราฟ + วิเคราะห์ให้หน่อย” มันก็ทำทั้งกราฟทั้ง insight ได้ในไม่กี่วินาที
3. มัน “คิดเป็นขั้นตอน” แบบมนุษย์จริงๆ
ใช้ scratchpad reasoning — คือสามารถเล่าให้ฟังได้ว่า “ทำไมถึงคิดแบบนี้” ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่ฉลาด แต่ “อธิบายได้” ด้วย
4. มันถูกสอนให้ “ระวัง” แล้ว
ถามวิธีสร้างไวรัส = ปฏิเสธ พร้อมเสนอทางเลือกตาม WHO
ใช้ข้อมูลจริงจาก red team 1.2 ล้านชุด เพื่อสอนว่าอะไร “ควร” หรือ “ไม่ควร”
---
ในทางกลับกัน… เราจะยังทำอะไรอยู่?
ผมว่าต่อจากนี้ อาชีพที่ “อยู่ได้” จะไม่ใช่คนที่รู้เยอะที่สุด แต่เป็นคนที่ถามคำถามเก่งที่สุด
ใครที่มองออกว่าโจทย์ที่แท้จริงคืออะไร
ใครที่เชื่อมโยงเรื่องไม่เกี่ยวกันได้
ใครที่ตีความผลลัพธ์เพื่อเล่า “เรื่อง” ออกมาให้คนฟังอิน
เราจะกลายเป็น “ผู้กำกับความคิด” มากกว่า “คนลงมือทุกขั้น” — ให้ AI ทำ draft ให้ แล้วเราคือคน refine, curate, และตัดสินใจ
---
และพูดตรงๆ... เรากำลังเข้าใกล้ AGI อย่างมีสติและเร็วมาก
ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ถูก” ด้วย — เพราะราคาต่อการใช้งานของ o3 ต่ำกว่ารุ่น o1 เดิมถึง 33% (นี่คือสิ่งที่ทำให้สั่นจริงๆ)
---
สุดท้ายนี้
AI ที่ฉลาดที่สุดในโลก ไม่ได้แปลว่าเราจะหมดประโยชน์
แต่มันคือการเตือนว่า “ต่อจากนี้ ความเฉียบคมในการคิด การตั้งคำถาม และการเล่าเรื่อง จะเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุด”
เราอาจไม่ได้แข่งกับ AI ด้วยความรู้...
แต่แข่งกับมันด้วย "ปัญญา" และ "หัวใจ"
#AGI #AIในชีวิตจริง #o3 #GPT4NextGen #อนาคตของการทำงาน
โฆษณา