18 เม.ย. เวลา 10:10 • ข่าวรอบโลก

ทำให้มัน “อยู่ไม่ได้”

แรกๆผมสงสัยนะ ว่าอิสราเอลจะถล่มอะไรกันเยอะแยะ
อีกรอบในกาซ่า เพราะมันไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้งตัวฮามาส
ที่หนีออกนอกพื้นที่เกือบหมด และที่มั่นทางทหารของพวกเขา
ก็พังจนราบคาบ แม้แต่ระบบอุโมงค์ ที่เคยโม้ว่าเจ๋งนักหนา
คือ ถ้ามองในแง่การทหารอย่างเดียว ฮามาสและพื้นฐาน
ที่เหลืออยู่ในกาซ่า มันแทบไม่ได้เป็นอันตรายกับอิสราเอลแล้ว
ที่จริงมันไม่มีความจำเป็นอะไร ที่พวกเขาจะต้อง
ถล่มซากให้เปลืองระเบิด เปลืองเงินเลย
แต่พอเวลาผ่านไป มันชักเข้าเค้าแล้วล่ะ
ว่าอิสราเอลกำลังสร้างสิ่งที่เรียกว่า no man land ในกาซ่า…
มีการประเมินว่าถ้าจะฟื้นฟูกาซ่าให้”พอจะ”อยู่อาศัยได้
ต้องใช้เงินมากกว่า 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
เงินมากขนาดนี้ สุดปัญญาที่ชาวปาเลสไตน์จะจ่ายได้แน่ๆ
และประเด็นที่เพิ่งโผล่มาอีกตามข่าว คือ ระเบิดด้านในกาซ่า
ที่อิสราเอลทิ้งเอาไว้นั้น มีมากถึง 1 ใน 20 ที่อิสราเอลใช้โจมตี
ลองคิดดู อิสราเอลถล่มกาซ่ามาปีกว่าแล้ว อาวุธนับหมื่นยูนิต
ที่ถล่มเข้าไป แล้วตกค้างอยู่เอาแค่ 5% ของทั้งหมด มันก็เยอะมากแล้วล่ะ
และการเก็บกู้ ต้องใช้เงินจำนวนมากมายมหาศาลเช่นกัน
และยาก ที่จะมีหน่วยงานไหนในโลกจะเข้าไปรับผิดชอบได้
สิ่งที่ตามมา คือความเสี่ยงในการฟื้นฟู สร้างเมืองใหม่
มันยากนะ ที่จะมีใครกล้าเข้าไปในพื้นที่ ที่มันมีระเบิด
ตกค้างมากมายขนาดนั้น และประสิทธิภาพของพวกมัน
รุนแรงกว่าระเบิดตกค้างในลาว จากยุคสงครามเย็นมาก
เอาแค่ไปรื้อซากเนี่ย ใครจะกล้า รื้อไม่ดีไปโดนระเบิด
ก็ตูมตามขึ้นมาอีก
ผมมองว่าบริษัทสัญชาติอาหรับ ที่แม้จะอยากช่วยชาวกาซ่า
ก็คงคิดหนักแหละที่จะรับงานแบบนี้ ใครๆก็กลัวตาย
ยังจะงานวางระบบสาธารณูปโภคใหม่ต่างๆอีก
ใครล่ะ จะกล้าไปวางท่อประปาในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยละเบิด
ใครล่ะ จะกล้าไปตอกเสาเข็มสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล
เมื่อไม่มีสิ่งต่างๆเหล่านี้ อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ
ใช่ครับ มันคือ no man land ที่จะไม่มีใครอาศัยได้นั่นเอง
…เมื่อเป็นแบบนั้น ชาวปาเลสไตน์ ก็จะถูกสภาพความเป็นอยู่
บีบให้ออกจากพื้นที่ในท้ายที่สุด ตามที่อิสราเอลต้องการนั่นเอง
และผมก็ไม่คิดว่าอิสราเอล ก็คงไม่มาเปลืองงบฟื้นฟูเช่นกัน
พวกเขาจะปล่อยให้มันร้างแบบนั้นแหละ เพื่อไม่ให้เป็นเป้าอีก…
1
ช่วงต้นหลังเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ผมเห็นด้วยกับ
อิสราเอลที่จะจัดการกับฮามาสนะ
เพราะครั้งนั้น ฮามาสเล่นใหญ่และแรงเกินไป
แต่ฮามาสจะรู้หรือไม่ ว่านั่นคือข้ออ้างชั้นดี ที่จะกำจัด
ชาวปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่ในท้ายที่สุด
ฮามาส คือผู้ยื่นดาบให้อิสราเอลเอง ถ้ามองที่จุดเริ่มต้น
พวกเขาเขาคือผู้ทำลายชาวปาเลสไตน์ ไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย
แต่มาวันนี้ ผมมองว่าอิสราเอลทำเกินไปแล้ว
นี่ไม่ใช่การไล่ล่าปราบฮามาสอีกต่อไป
แต่มันคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในระดับที่ไม่อาจรับได้
สิ่งที่เกิดขึ้นในกาซ่า มันยิ่งกว่าดอนบาสในยูเครนเสียอีก
การมาของทรัมป์ ก็ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง
ทรัมป์อาจพยายามโทษไบเดนว่าเป็นต้นเหตุสงครามยูเครน
แล้วมีคนตายหลายแสนคน
แต่เขาเองกลับให้ท้ายเนทันยาฮู ให้การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ
ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเลวร้ายกว่าในยูเครนหลายเท่า
ถ้ามองจากสภาพชีวิตของผู้คน แม้จะตายน้อยกว่า
เพราะที่ตายส่วนมากคือพลเมือง ไม่ใช่ทหารจากทั้งสองฝ่ายแบบที่เกิดขึ้นในยูเครน และคนที่เหลืออยู่ก็อยู่ในสภาพอนาถา
ในยูเครนนั้น ไม่ว่าผลของสงครามจะจบอย่างไร
ชาวยูเครนก็ยังจะมีโอกาสได้เกิดใหม่ จากสิ่งที่เหลืออยู่
แต่กับชาวปาเลสไตน์ในกาซ่านั้นไม่ใช่
พวกเขาไม่มีอะไรเหลือแล้วจริงๆ แม้แต่แผ่นดินเกิด
…และไม่มีใครรู้ด้วย ว่าเนทันยาฮูจะทำแบบนี้กับเวสต์แบงค์
อีกหรือไม่ ถ้าทรัมป์ยังหนุนเขาแบบนี้ ….
…ฮามาสไม่ควรเริ่มสงครามครั้งนี้ นั่นก็จริงส่วนหนึ่ง…
…แต่สิ่งที่อิสราเอลทำ มันก็มากเกินกว่าที่ใครจะรับได้จริงๆ….
ถ้าพระเจ้าของพวกเขามีจริง ทำไมพระองค์ไม่หยุดสิ่งนี้เสียที ?
…พระเมตตาของพระองค์ มันเหือดแห้งไปหมดแล้วงั้นเหรอ?…
ข่าว
โฆษณา