17 เม.ย. เวลา 15:07 • หุ้น & เศรษฐกิจ
"Embotelladora Andina หาดทิพย์แห่งชิลี"
อย่างที่ผมเคยพูดบ่อย ๆ ว่า ผมมองตัวเองเป็น Global Investor ครับ ที่ไหนมีความคุ้มค่า ที่นั่นก็จะมีผม
อย่างที่ผมก็เคยเขียนไปในโพสต์ MEDEZE ว่า ผมมีพฤติกรรมคือ จะอ่านบทความของเพจอย่าง ลงทุนแมน, MONEY LAB, BrandCase, MarketThink, และลงทุนเกิร์ล รวมถึงเพจอื่น ๆ บ้าง ที่ผมคิดว่า ควรค่าแก่การเสียเวลาไปอ่าน
ผมก็พยายามจะอ่านให้ได้อย่างน้อยวันละ 3 บทความ ผมก็คิดเอาง่าย ๆ ว่า ถ้าทำได้แบบนี้ไปอีก 365 วัน เท่ากับ 1 ปี ก็จะมีความรู้มากขึ้น 1,000 เรื่องแล้ว ทำได้แบบนี้สะสมไปยาว ๆ ผมจะกลายเป็นคนที่แก่ขึ้น แต่มีความรู้ในหัวสะสมมากขนาดไหนกันนะ
ซึ่งผมก็ใช้ Process คล้าย ๆ กันแบบนี้ ในการหาหุ้นที่น่าลงทุนด้วย
ผมก็ทำสะสมมาด้วยการ อ่านแบบคร่าว ๆ เพื่อทำความรู้จักหุ้นที่อยู่ในตลาดหุ้นทั่วโลก วันละ 3 บริษัท โดยอ่านว่ามันทำธุรกิจอะไรนะ
1
ถ้าผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ ผมก็ใส่เป็น "น่าจะ Too Hard เกินไปสำหรับผม"
ถ้าอ่านแล้วไม่น่าสนใจ ก็จะใส่เป็น "ไม่น่าสนใจเท่าไร"
ถ้าอ่านแล้วคิดว่า น่าสนใจ ก็จะใส่เป็น "น่าสนใจ"
ผมก็จะเลือกตัวที่ "น่าสนใจ" มาทำการบ้านต่อ ซึ่งมันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาค่อนข้างมากพอสมควร
คือผมสามารถอ่านรายงานประจำปีบริษัทไทย วันละ 1 ฉบับได้ครับ แต่ผมทำกับ 10-K ไม่ไหวครับ
พอต้องวิเคราะห์หุ้นโลก มันใช้เวลามากกว่าหุ้นไทยเยอะมากครับ มันต้องคิด ต้องอ่าน ต้องหาข้อมูลเยอะกว่า
ผมรู้เลยว่า ชีวิตนี้ ผมไม่มีทางรู้จักหุ้นทุกตัวในโลกนี้เป็นแน่
แต่ไอ้การค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ ศึกษาไปแบบนี้ มันก็สนุกดีครับ มันทำให้ผมถ่อมตัวมากขึ้น พร้อมกับยอมรับความจริงของชีวิตได้ว่า สิ่งที่ผมไม่รู้นั้น มีมากกว่าสิ่งที่ผมรู้อยู่เยอะมาก และจะไม่มีวันที่ ผมจะได้รู้ได้เข้าใจในทุกสิ่ง
เอาล่ะ ไอ้กระบวนการที่ว่ามา มันก็ทำให้ผมได้เจอกับ "คุณลุง Embotelladora Andina"
(ผมเรียกคุณลุงเพราะ บริษัทนี้อายุ 79 ปีแล้วครับ)
ถามว่าบริษัทนี้ทำอะไร ผมสามารถตอบแบบยาว ๆ ได้ แต่ผมจะขอเลือกตอบแบบสั้น ๆ เข้าใจง่าย ๆ เลยก็คือ
"ถ้าคุณรู้จักหาดทิพย์ของคนใต้ ที่ผมเขียนถึงบ่อย ๆ
ผมก็จะบอกว่า มันคือหาดทิพย์แห่งประเทศชิลีครับ"
โดยพื้นที่ขายสินค้าของบริษัทนี้ จะอยู่ในบางส่วนของ 4 ประเทศครับ ประกอบด้วย
- ชิลี
- อาร์เจนตินา
- บราซิล
- ปารากวัย
ซึ่งสเน่ห์ของโมเดลธุรกิจบริษัท Coca-Cola เปรียบเสมือน Cartel ของพวกพ่อค้ายาเม็กซิโกในซีรี่ย์ Narcos เลยครับ
คือจะแบ่งให้ Bottler โค้กแต่ละเจ้า ดูแลพื้นที่บางส่วนตลอดไป โดย Bottler เจ้าอื่น ๆ จะไม่เข้าไปแข่งขันเด็ดขาด อาจจะมีบางส่วนที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ถ้าบางเจ้าที่อยู่ติดกัน เกิดมีปัญหาในการทำธุรกิจขึ้นมาบ้าง Bottler ข้าง ๆ ก็จะคอยช่วยเหลือ เหมือนที่หาดทิพย์เคยช่วยไทยน้ำทิพย์ ในช่วงเมื่อไม่นานมานี้ครับ
โมเดลธุรกิจนี้มันเจ๋งมาก เพราะทำให้ Bottler แต่ละเจ้า จะผูกขาดพื้นที่นั้นตลอดไป อยู่กันไปยาว ๆ ตลอดกาล เก็บกินผลประโยชน์ที่ทำได้ ไม่มีวันหมด
และด้วยความสามารถทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนของแบรนด์ Coke ก็เป็นที่น่าชัดเจนที่พวกเราเห็นกันเป็นอย่างดีแล้วว่า บนผืนปฐพีนี้ มีที่ไหนบ้างครับ ที่ไม่มีโค้กขาย..
นี่แหละครับ โมเดล Cartel แบบพ่อค้ายาเม็กซิโกของ Coca-Cola ครับ 5555
เอาล่ะ กลับมาที่ Embotelladora Andina
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นในงบการเงินของบริษัทนี้ ประกอบด้วย
- รายได้ เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาหลายปี
- มีการลงทุน ปรับปรุง และขยายกำลังการผลิต อยู่ตลอด
- ธุรกิจยังพอเติบโตต่อไปได้ ผมให้ในระดับค่อนข้างกลาง ๆ แบบ Conservative ไว้ก่อนครับ
- สร้าง Free Cash Flow ได้ดี ต่อเนื่องมาเป็น 10 ปี
- จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ทุกปี และอยู่ในแนวโน้มที่ จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้มากขึ้นในระยะยาวด้วย
- หนี้สินที่มีดอกเบี้ย ไม่ได้เยอะเท่าไร เมื่อเทียบกับเงินสดและสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดที่บริษัทมี รวมถึงความสามารถในการสร้าง FCF ของบริษัทในแต่ละปีด้วย
- ปีล่าสุด คือ 2024 บริษัทมี CFROI เท่ากับ 22.17%
ผมลองคิดแบบง่ายที่สุด โดยให้ Generative AI ช่วยคำนวณให้ ด้วยสมมติฐาน 2 แบบคือ
1. กรณีมีการปรับ P/E จากปัจจุบัน 12 เท่า ไปเป็น 15 เท่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า
- ถ้าตอนนี้บริษัทมี Dividend Yield ปัจจุบันอยู่ที่ 9% ต่อปี โดยสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราเท่านี้ไปได้ตลอดในระยะยาว
- กำไรสามารถโตได้เฉลี่ยปีละ 5% (เอาแบบ Conservative มากไว้ก่อน)
- เงินปันผล จะเติบโตตามกำไรที่เพิ่มขึ้น
ถ้าเราซื้อหุ้นบริษัท ณ ราคาปัจจุบัน โดยถือไว้ 10 ปี ในกรณีนี้ เราจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 12.2% ต่อปี
2. กรณีที่ ในอีก 10 ปีข้างหน้า P/E ก็จะเท่ากับ 12 เท่าเหมือนเดิม
ถ้าเป็นแบบนี้ ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นตัวนี้ ก็จะเหลือเฉลี่ย 10.7% ต่อปีครับ
อย่าเชื่อผมครับ ผมแค่หัวแล่น วันนี้ได้กินสเต็กอร่อย ๆ มา บางเมนูก็มีคาร์บเยอะดี มันเลยทำให้ผมดีด (อีกแล้ว) เลยมาเขียนเล่าสนุก ๆ ครับ
อย่าเชื่อผมนะครับ ถ้าสนใจ ก็ลองไปทำการบ้านต่อกันเอาเองครับ
ปล ผมเชื่อว่า ในโลกนี้ยังมีหุ้นดี ๆ อยู่มากมาย ที่ยังรอให้เหล่านักลงทุนผู้มีความมุ่งมั่น ค้นพบพวกมันอยู่ครับ
ผมได้เจอกับ Hidden Gems จำนวนมาก ที่ซ่อนอยู่ในทุกทวีปทั่วโลกครับ หลายตัวเหล่านี้ มีราคาที่ไม่ได้แพง หากลองเจาะเข้าไปอย่างลึกซึ้งจริง ๆ ก็จะพบว่า หลายบริษัทมีคุณภาพธุรกิจที่ดีมาก พอที่สักวันจะเติบโตใหญ่พอ
พร้อมกับสร้างผลตอบแทนจำนวนมหาศาล ให้กับนักลงทุนที่ค้นพบมัน และอดทนถือมัน จนถึงวันแห่งการพิพากษาครับ..
หมายเหตุนิดหน่อย: Dividend Yield 9% นี้ ผมเอาข้อมูลมาจาก Yahoo Finance ครับ โดยมันเป็นแบบ Forward ครับ
แต่ trailing dividend yield จะอยู่ที่ประมาณ 6% ครับ
ดังนั้นถ้าปรับ 2 กรณีข้างต้น โดยใช้ trailing dividend yield เป็นฐาน ก็จะได้
กรณีที่ 1: ผลตอบแทนเฉลี่ย 10.8% ต่อปี
กรณีที่ 2: ผลตอบแทนเฉลี่ย 9.1% ต่อปี
โฆษณา