งบ Q1/68 ของ TISCO
ถึงไม่ได้สนใจหุ้นกลุ่มธนาคาร ก็แนะนำให้อ่าน คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ เพื่อเข้าใจภาวะเศรษฐกิจ
TISCO ประกอบด้วย 2 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์และธุรกิจตลาดทุน สินเชื่อของ TISCO เป็นสินเชื่อรายย่อย ซึ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ และจำนำทะเบียนเป็นหลัก และมีธุรกิจ บลจ. และ บล. ด้วย
ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 1/68
- เศรษฐกิจไทยเติบโตในระดับต่ำ
- ในไตรมาส 1 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศกว่า 9.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- ส่งออกขยายตัวตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้า แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากสงครามการค้าและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เริ่มเมื่อเดือนเมษายน
- การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายประจำและการลงทุนภาครัฐ
- การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ได้แก่ Easy E-Receipt และการเงินโอนเฟส 2
- ยอดขายรถยนต์ในประเทศในช่วง 2 เดือนแรก ปี 2568 อ่อนแอ ลดลง 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการชะลอการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในภาวะที่หนี้ครัวเรือนยังสูง และเศรษฐกิจ่ฟื้นตัวช้า
- อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไตรมาส 1 ปี 68 เพิ่มขึ้น 1.1% จากราคาอาหารที่สูงขึ้น
- ภาวะตลาดทุนในไตรมาส 1 ปี 68 ผันผวนรุนแรง จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ความไม่แน่นอนทางการเมือง และความกังวลเกี่ยวกับมาตรการการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลง 242.12 จุด หรือ -17.3% จากสิ้นปี 67
ผลประกอบการ Q1/68 ของ TISCO
กำไรสุทธิ 1,643.38 ลบ. ลดลง 89.64 ลบ. หรือ 5.2% เมื่อเทียบกับ Q1/67 จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 2.0% จากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ และการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง และสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.7% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย
เงินให้สินเชื่อ 231,190.32 ลบ. ลดลง 0.4% จากสิ้นปี 67 จากการชะลอตัวของสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ธุรกิจธนาคารได้รับผลกระทบจากตลาดรถยนต์ในประเทศที่อ่อนแอ ส่งผลให้รายได้ ค่าธรรมเนียมนายหน้าประกันภัยยังไม่ฟื้นตัว ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 0.9% จากการควบคุมค่าใช้จ่าย
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 3.4% จากการเติบโตของ รายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน และค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) อยู่ที่ 4.88% จาก Q4/67 ที่ 4.93% จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้สอดคล้องกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ
ค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) 385.73 ลบ. เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า โดยค่าใช้จ่ายสำรองคิดเป็น 0.7% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ดำเนินนโยบายการขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวังและการเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามทวงถามหนี้
สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (NPLs) อยู่ที 2.42% และยังคงรักษาอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) ที่ 153.8%
กำไรต่อหุ้น (earnings per share) 2.05 บาทต่อหุ้น ลดลงจาก 2.13 บาทต่อหุ้นในไตรมาสก่อนหน้า และจาก 2.16 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 1 ปี 67 ROE อยู่ที่ 15% (ROE ปี 67 อยู่ที่ 16.1%)
เศรษฐกิจในประเทศยังอ่อนแอ ตลาดหุ้นผันผวน ถึงแม้มีมาตรากระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐและการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว และมีความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐ ธนาคารระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ เงินให้สินเชื่อลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 67 รายได้ดอกเบี้ยลดลง ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุด EPS ลดลง ROE ลดลง
#หมอยุ่งอยากมีเวลา #งบการเงิน #ธนาคาร #TISCO
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
