ยูเครนจะยอมเซ็น “ข้อตกลงแร่ธรรมชาติ” กับสหรัฐแล้ว
ความคืบหน้าเส้นทาง “การเจรจาหยุดยิง” โดยมีตัวแทนฝั่งยุโรปเข้าร่วม
ตัวแทนของยูเครนและสหรัฐได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เพื่อแสดงความตั้งใจที่จะสรุปข้อตกลงเรื่องการให้สิทธิ์แก่สหรัฐในการเข้ามาสำรวจทรัพยากรใต้ดินในยูเครน “ยูเลีย สวีรีเดนโก” รัฐมนตรีเศรษฐกิจของยูเครนระบุโดยเธอโพสต์บนโซเชียลเมื่อ 18 เมษายน 2025 [1]
“เรากำลังเตรียมจัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนในการฟื้นฟูยูเครน ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องจะเปิดโอกาสให้มีการลงทุนที่มีความสำคัญ การปรับปรุงฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างยูเครนและสหรัฐอเมริกา นี่คือจุดประสงค์ที่ทีมงานกำลังดำเนินการจัดทำเอกสารฉบับนี้” รัฐมนตรีเศรษฐกิจของยูเครนกล่าว
ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการต่อเพื่อ “สรุป” เนื้อหาของข้อตกลงและลงนามตามคำกล่าวของสวีรีเดนโก โดยข้อตกลงดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้หลังจากรัฐสภาของทั้งสองประเทศให้การอนุมัติแล้ว
ยูเลีย สวีรีเดนโก รัฐมนตรีเศรษฐกิจของยูเครน เครดิตภาพ: Reuters
มาดูกันที่ฝั่งสหรัฐบ้างว่ามีการประกาศหรือแถลงอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง “สหรัฐและยูเครนจะลงนามข้อตกลงว่าด้วยทรัพยากรแร่ยูเครนในวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายนที่จะถึงนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ [2]
“เรามีข้อตกลงการทำเหมืองแร่ในยูเครนที่ผมคิดว่าจะได้ลงนาม... ในวันพฤหัสบดีหน้า อนาคตอันใกล้นี้… และผมคาดว่าพวกเขาจะนำข้อตกลงนั้นไปปฏิบัติ เราคงต้องรอดูกันต่อไป” ทรัมป์กล่าวขณะการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี ที่ได้เดินทางมาเยือนวอชิงตันเพื่อเจรจาเรื่องภาษีนำเข้า (อ้างอิงจาก European Pravda) [3]
“สก็อตต์ เบสเซนต์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมและลงนามเอ็มโอยูกับตัวแทนฝั่งยูเครนในครั้งนี้ กล่าวว่า “รายละเอียดต่างๆ ยังอยู่ในระหว่างการหารือ… ตอนนี้เรามีบันทึกความเข้าใจแล้ว และเรามุ่งไปที่ข้อตกลงโดยตรง ดูเหมือนว่าข้อตกลงจะมีเนื้อหาทั้งหมดราว 80 หน้า และนั่นคือสิ่งที่จะต้องลงนามกัน” เขากล่าวเสริม
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (กลาง) เครดิตภาพ: Facebook - Yulia Svyrydenko
ในระหว่างการประชุมกับนายกอิตาลี ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าเขาไม่ถือว่าประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนต้องรับผิดชอบต่อสงครามครั้งนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยกล่าวหาเซเลนสกีเป็นต้นตอของสงครามในยูเครนมาแล้วก็ตาม (ตอนคุยกับประธานาธิบดีบูเคเลแห่งเอลซัลวาดอร์) [4]
“ผม [ทรัมป์] ไม่ถือว่าเซเลนสกีต้องรับผิดชอบ แต่ผมไม่พอใจที่สงครามครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น… ดังนั้นผมจึงไม่พอใจเขา [เซเลนสกี] และผมไม่พอใจใครก็ตามที่เกี่ยวข้องทำให้สงครามยูเครนเริ่มขึ้น” ทรัมป์กล่าว [5]
เครดิตภาพ: X @RapidResponse47
ยูเครนและสหรัฐได้เคยเตรียมลงนามข้อตกลงเรื่องการเข้าถึงเหมืองแร่โลหะหายากในยูเครนก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามข้อตกลงดังกล่าวล้มเหลวหลังจากเกิดการโต้เถียงอย่างดุเดือดต่อหน้าสื่อที่รายงานไปทั่วโลกระหว่างเซเลนสกี กับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ในทำเนียบขาว
เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐฯ ได้จัดทำข้อตกลงฉบับใหม่เกี่ยวกับทรัพยากรใต้ดินเสนอให้ยูเครน ซึ่งเอกสารฉบับนี้ได้กล่าวถึงการเข้าถึงทรัพยากรแร่ทั้งหมดของยูเครนไปแล้ว (เข้มข้นกว่าข้อตกลงแร่หายากฉบับแรก) ทางการยูเครนกล่าวว่านี่เป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งเท่านั้น และไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในข้อตกลงที่ดูเอารัดเอาเปรียบทางยูเครนอย่างมาก อย่างไรการหารือเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปถึงตอนนี้ซึ่งมีความคืบหน้าล่าสุดตามที่ระบุข้างต้น
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ “แทมมี บรูซ” กล่าวในแถลงการณ์ต่อสื่อว่า วอชิงตันได้นำเสนอแนวทางสันติภาพที่เข้มแข็งและยั่งยืนสำหรับแก่ทุกฝ่าย [6]
ในแถลงการณ์กระทรวงต่างประเทศระบุว่า “มาร์โก รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับ “เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย “รัฐมนตรีต่างประเทศได้ส่งสารถึงชาวรัสเซียเช่นเดียวกับที่คณะผู้แทนสหรัฐฯ ส่งถึงคณะผู้แทนยูเครนและพันธมิตรยุโรปของเราในปารีส นั่นคือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสหรัฐฯ ต้องการให้สงครามครั้งนี้ยุติลง และได้เสนอแนวทางของสันติภาพที่เข้มแข็งและยั่งยืนแก่ทุกฝ่าย” แถลงการณ์ระบุ
ในแถลงการณ์ไม่มีการระบุว่ามีการหารือเกี่ยวกับ “ขอบเขต” เฉพาะเรื่องใดบ้าง
ข้อเสนอนี้ได้รับการตอบรับอย่างน่าพอใจในกรุงปารีส โดยกระทรวงการต่างประเทศระบุว่าทัศนคติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า “สันติภาพสามารถเกิดขึ้นได้หากทุกฝ่ายมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลง”
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียรายงานว่า ลาฟรอฟและรูบิโอได้หารือทางโทรศัพท์เกี่ยวกับการเจรจาระหว่างตัวแทนของสหรัฐฯ กับยูเครน ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่กรุงปารีส “ลาฟรอฟยืนยันความพร้อมของมอสโกในการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานชาวอเมริกันต่อไปเพื่อแก้ที่สาเหตุหลักของวิกฤตในยูเครน”
รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองประเทศตกลงที่จะรักษาการติดต่อซึ่งกันและกันไว้ รวมถึง “ผลติดตามจากการประชุมที่สหรัฐฯ และยุโรปวางแผนไว้กับฝ่ายยูเครนในสัปดาห์หน้า” กระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าว
ฟังดูมันก็เป็นการแถลงการณ์ที่เป็นภาษาทางการทูตทั้งสองฝ่าย
เครดิตภาพ: Ukrainska Pravda
มีรายงานจากฝรั่งเศสว่า ผู้แทนของฝรั่งเศส สหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี และยูเครนตกลงที่จะเดินหน้าเจรจาหยุดยิงในสัปดาห์หน้าที่กรุงลอนดอน ทางการฝรั่งเศสเรียกการประชุมที่กรุงปารีสว่าเป็น “รูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน” ซึ่งจะมีการหารือเรื่อง “เงื่อนไขการหยุดยิง” (อีกครั้ง) [7]
เมื่อ 17 เมษายน 2025 มีการประชุมหลายเซสชันที่กรุงปารีส โดยมีคณะผู้แทนจากสหรัฐอเมริกาและยูเครน รวมถึงผู้แทนจากประเทศในยุโรปเข้าร่วม [8]
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มาร์โก รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ตลอดจนผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ “สตีฟ วิทคอฟฟ์” และ “คีธ เคลล็อกก์” ได้หารือทวิภาคีกับผู้แทนของยูเครน ได้แก่ “อังเดรย์ เยอร์มัค” หัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครน “อังเดรย์ ซิบีฮา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน และ “รุสเตม อูเมรอฟ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน
จากนั้นคณะผู้แทนจากสหรัฐอเมริกาและยูเครนได้เข้าพบผู้แทนจากกลุ่มประเทศยุโรปที่เข้าร่วม “Coalition of the willing” หรือ “กลุ่มพันธมิตรสนับสนุนยูเครน”
เครดิตภาพ: Telegram - Andriy Yermak
เรียบเรียงโดย Right Style
18th Apr 2025
- ■อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: CNBC-TV18>
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
