สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.3 ได้สืบสวนพบเว็บไซต์พนันออนไลน์รายใหญ่ เครือข่าย Fun586 จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบเงินหมุนเวียนตลอดปี 2568 จำนวนกว่า 3,200 ล้านบาท จากข้อมูลการสืบสวน เบื้องต้นพบว่า เว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว มีเจ้าของ หรือ ผู้รับผลประโยชน์เป็นบุคคลสัญชาติจีน จำนวน 2 ราย และ สัญชาติอินโดนีเซีย จำนวน 1 ราย โดยเมื่อเครือข่ายดังกล่าวได้เงินจากสมาชิกผู้เล่นแล้ว จะถูกนำไปอำพรางเส้นทางการเงินด้วยการซื้อทองคำ โดยใช้บัญชีธนาคารประเภท
นิติบุคคลในการฟอกเงิน จากพยานหลักฐาน เจ้าหน้าตำรวจพบว่า นิติบุคคลดังกล่าวถูกเปิดเป็นบริษัทโดยจดทะเบียนแตกต่างกันไป เช่น ทำธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกพืชตระกูลถั่ว การผลิตกระดาษ เป็นต้น โดยที่ตั้งบริษัทต่างๆ พบเป็นเพียงบ้านสำหรับพักอาศัยธรรมดา ไม่ได้เปิดเพื่อดำเนินธุรกิจจริงแต่อย่างใด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้แล้ว จำนวน 31 ราย เป็นชาวต่างชาติ จำนวน 10 ราย คนไทยจำนวน 15 ราย และนิติบุคคล จำนวน 6 ราย ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังเพื่อลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน 6 ราย ได้แก่
1. นายกร (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี กรรมการบริษัทที่ใช้เปิดบัญชีนิติบุคคลสำหรับฟอกเงิน จับกุมตัวได้ที่ จ.กาญจนบุรี
2.นายอัง (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี กรรมการบริษัทที่ใช้เปิดบัญชีนิติบุคคลสำหรับฟอกเงิน จับกุมตัวได้ที่ จ.สงขลา
3. นายกัน (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี เจ้าของบัญชีม้าฟอกเงิน (หมุนเวียน) จับกุมตัวได้ในพื้นที่ กทม.
4. นายสัน (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี เจ้าของบัญชีม้าฟอกเงิน (หมุนเวียน) จับกุมตัวได้ในพื้นที่ที่ จ.ปทุมธานี
5. น.ส.วิ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี เจ้าของบัญชีรับโอนเงินเล่นพนันออนไลน์ จับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี
6. นายเพชร (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เจ้าของบัญชีรับโอนเงินเล่นพนันออนไลน์ จับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.สงขลา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือ ทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่น ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน"
โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้รับผลประโยชน์ชาวต่างชาติ ซึ่งพบว่ายังใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ โดยจะประสานหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อติดตามตัวกลับมาดำเนินคดี และเร่งติดตามผู้ต้องหาในเครือข่ายที่ร่วมขบวนการรายอื่นๆ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป