20 เม.ย. เวลา 03:56 • ความคิดเห็น

ประเทศมิกกี้เมาส์

ท่ามกลางความวุ่นวายป่วนโลกที่โดนัลด์ ทรัมป์ก่อขึ้น มีเรื่องราวใหม่ไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ใช่แค่ยังไม่รู้จะจบยังไงแต่ดูจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ
6
คำถามของชาวบ้านชาวช่องที่ไม่ได้เป็นนักเศรษฐศาสตร์หรือเข้าใจการเมืองอะไรนักก็จะมีคำถามว่าที่ทรัมป์ทำแล้วดูจะเชื่อมั่นมากๆ ว่าเป็นไอเดียที่ถูกต้องนั้นถูกจริงหรือ
4
แล้วทำไมถึงทำอะไรได้ตามอำเภอใจแบบวันต่อวันเหมือนเผด็จการที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ อยากทำอะไรก็ทำเหมือนเทียบกับไทยคือมี ม 44 อยู่ในมือ อเมริกาไม่มีสภาแล้วหรือไง คนเดียวถึงป่วนได้อย่างไม่มีใครยั้งอะไรได้ขนาดนี้
2
คำถามเหล่านี้จะอธิบายก็ไม่ง่ายนัก
ถ้าจะมีใครซักคนที่อธิบายเรื่องนี้ได้กระจ่างก็น่าจะเป็นโปรเฟสเซอร์เจฟฟรีย์ แซคส์ (Jeffrey Sachs) แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ผู้เขียนหนังสือดีๆหลายเล่ม ปัจจุบันยังเป็น director of Sustainable development Solution network ของ UN อีกด้วย โปรเฟสเซอร์แซคส์เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ทั้งโลกยอมรับแม้กระทั่งโดนัลด์ ทรัมป์เองก็ยังเคยแชร์บทสัมภาษณ์ของโปรเฟสเซอร์อยู่หลายครั้ง เวลาพูดอะไรทีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจก็จะฟังเสมอ
ล่าสุดโปรเฟสเซอร์ไปขึ้นเวที Antalya Diplomacy Forum ที่ตุรกี แล้วเล่าสรุปภาพรวมแบบป่าทั้งป่าได้อย่างน่าสนใจมาก
1
ผมก็เลยอยากจะกึ่งแปลกึ่งสรุปไว้ให้อ่านเพื่อเห็นภาพป่าทั้่งป่าในมุมเศรษฐศาสตร์และอำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐที่เราไม่เข้าใจกันเผื่อจะติดตามเรื่องนี้ที่น่าจะยังลากยาวอีกหลายปีได้สนุกและเข้าใจขึ้นนะครับ..
โปรเฟสเซอร์เริ่มด้วยการเล่าให้เห็นภาพง่ายๆว่า
“เหมือนกับเราเอาบัตรเครดิตไปชอปปิ้งแล้วก่อนหนี้ก้อนใหญ่ แล้วเราไปโทษเจ้าของร้านที่เราไปช้อปว่าทำแบบนี้คือทำให้ตัวเองขาดดุล พวกเอ็งเอาเปรียบๆๆๆ …นั่นคือความเข้าใจแบบตื้นๆ ของประธานาธิบดีสหรัฐในตอนนี้
5
การขาดดุลไม่ใช่นโยบายการค้าแต่มันบอกถึงการใช้จ่ายเมื่อเทียบกับเงินที่หาได้ ผม(โปรเฟสเซอร์) สอนเรื่องนี้ซึ่งเป็นวิชาการเงินระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่สองของนักศึกษาปีหนึ่ง ถ้าทรัมป์เป็นนักศึกษาก็คงตกตั้งแต่วันที่สอง เพราะเขาไม่เข้าใจและเที่ยวไปบอกว่าทุกคนโกงหมด แท้จริงก็คือสหรัฐใช้เงินเกินรายได้ที่มี ที่เราเป็นเพราะเรามีบัตรเครดิตใบใหญ่มากที่เรียกว่ารัฐบาลสหรัฐ เพราะรัฐบาลใช้เงินมากกว่ารายได้ไปถึงสองล้านล้านเหรียญต่อปี
แล้วทำไมถึงไม่เก็บภาษีมากขึ้นเอามาชดเชย? ก็เพราะผู้แทนทั้งหลายในสภาเวลาเลือกตั้งก็มีผู้สนับสนุนเป็นคนรวยๆที่ไม่ชอบจ่ายภาษีเยอะ เวลาจะต้องโหวตเรื่องภาษีก็ไม่กล้า ระบบการเมืองสหรัฐก็คือการใช้เงินเยอะๆแต่อย่าเก็บภาษีเยอะ ก็เลยบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่โดนัลด์ ทรัมป์แทนที่จะไปโทษระบบตัวเอง กลับไปโทษประเทศอื่นว่าเป็นต้นเหตุ
5
ถ้าโดนัลด์ ทรัมป์เป็นนักเรียนผมจริงๆก็คงสอบตกไปแล้ว แต่นี่เขาเป็นประธานาธิบดี ก็เลยยิ่งประหลาดเข้าไปใหญ่ แค่สองวันที่เขาประกาศ มูลค่าตลาดหุ้นทั้งโลกหายไป 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในพริบตา แล้ว 10 ล้านล้านนี้มันย้ายจากไหนไปไหนรึเปล่า เปล่าเลย มันหายวับไปเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ไม่เข้าใจว่าการค้านั้นถ้ามันหยุดค้าขาย มันเสียทั้งสองฝั่ง ไม่ใช่มีฝั่งหนึ่งเสียแล้วอีกฝั่งจะได้
1
ไม่ใช่โลกตังหายแล้วสหรัฐมั่งคั่งขึ้น มันหายไปเลยจากระบบ เพราะระบบเศรษฐกิจโลกเป็นระบบแบ่งงานกันทำ (division of labor) ใครเก่งอะไรก็ผลิตอันนั้นจึงเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทรัมป์ทุบทีเดียวพังหมด
2
ตอนนี้พวกคนรวยที่เลือกช่วยทรัมป์ก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่เมคเซ้นส์แล้ว แม้แต่อีลอน มัสค์ก็คิดแบบนั้น ตลาดทุนก็คิดแบบนั้น หุ้นก็เลยตกระเนระนาด ดอกเบี้ยก็บอนด์ของสหรัฐก็ขึ้นเพราะคนขายบอนด์ออกมามหาศาล ตอนนี้ทรัมป์เลื่อนออกไป 90 วันยกเว้นจีน ก็เพราะสหรัฐมีความพารานอยด์ต่อจีน กลัวจีน เกลียดจีนมากเพราะจีนสำเร็จมากเกินไปจนเป็นหอกข้างแคร่ เป็นคู่แข่ง เป็นศัตรู ซึ่งก็จะยิ่งทำให้เละตุ้มเป๊ะไปอีก เพราะถ้าสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐเกิดขึ้นจริง จีนก็จะชนะเพราะจีนพึ่งสหรัฐแค่ 12% ของการส่งออกทั้งหมดเอง
8
มันไม่มีคำอธิบายอื่นเลยว่า มันคือแค่นโยบายโง่ๆ (dumb policy) เท่านั้นเอง..มันไม่เมคเซนส์อะไรเลย
1
แล้วความไม่เมคเซนส์นี้เกิดขึ้นได้ยังไง ต้องเข้าใจก่อนว่าระบบการเมืองสหรัฐเป็นระบบให้อำนาจคนคนเดียวปกครอง (one person rule ) ระบบการเมืองสหรัฐก็เลยพังทลายเพราะที่ทรัมป์ใช้อำนาจตู้มๆนี้ก็คือการใช้จากสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งสิ้น (emergency decree) ประกาศทุกอันอ้างถึงว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งหมด
4
ทรัมป์ทำตัวเป็นพระราชา ตีความเข้าข้างตัวเองทั้่งๆที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจผ่านสภา แต่สหรัฐมาถึงวันนี้และมีช่องให้ประธานาธิบดีอ้างสถานการณ์ฉุกเฉินได้โดยง่ายก็คือหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐให้ความสำคัญกับความมั่นคงจนเป็นเสมือนรัฐทหาร ก็เลยให้สิทธิกับความฉุกเฉินกับประธานาธิบดีโดยไม่ต้องพิสูจน์เลยด้วยว่าฉุกเฉินหรือไม่ ทรัมป์ก็เลยใช้ตรงนี้อย่างเต็มที่ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองมั่วอะไรอยู่
4
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าตั้งข้อสังเกตก็คือ ตอนที่ทรัมป์เลื่อนการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน ตลาดหุ้นฟื้นกลับมาประมาณ 4 ล้านล้าน ลองคิดดูว่าถ้ามีใครรู้ก่อนซักห้านาที ก็จะทำเงินได้มหาศาลมากๆ รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลที่สะอาด โปร่งใสแน่ๆ ผมจะแปลกใจมากถ้าไม่มีใครรู้ก่อน เริ่มๆ จากพวกสมาชิกสภานี่แหละ…
5
ผมเองไม่เชื่อว่าอัตราภาษีที่ทรัมป์ประกาศแล้วเลื่อนไปนั้นจะกลับมาเป็นอัตรานั้นอีกหลัง 90 วัน แล้วอัตราบ้าๆบอๆที่ประกาศนั้นมาจากไหน มันมาจากเรื่องที่ซื่อบื้อมากๆที่แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีประเทศไหนทำแบบนี้
3
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นผม (โปรเฟสเซอร์) เป็นลูกจ้างมหาวิทยาลัย ก็จะได้ดุลจากมหาวิทยาลัยเพราะได้รับเป็นเงินเดือนแต่ไม่ได้จ่ายอะไรกลับให้มหาวิทยาลัย แต่จะไปขาดดุลกับร้านขายของชำเพราะไปซื้อของเขาบ่อยๆ ไอเดียของทรัมป์ไม่ใช่ดูแค่ตัวเองว่าเสมอตัวหรือไม่โดยรวม แต่จะต้องไปสมดุลกับทุกที่ตั้งแต่มหาวิทยาลัยยันร้านของชำ
3
หมายถึงว่าผมนอกจากจะจ่ายซื้อของให้ร้านชำแล้ว ยังต้องพยายามไปขายอะไรให้ร้านชำด้วยเช่นเป็นอาจารย์ก็อาจจะต้องไปพยายามขายงานวิชาการให้เพื่อไม่ให้ขาดดุล …ซึ่งมันบ้ามาก
อย่างประเทศเล็กจิ๋วแบบเลโซโท (ประเทศในอาฟริกา) ขายของให้สหรัฐมากกว่าซื้อ ทรัมป์ก็บอกเลยว่าเลโซโทโกง! ซึ่งมันเพี้ยนมากๆ อัตราภาษีก็คำนวณดื้อๆจากว่าต้องขึ้นภาษีจนกว่าการค้ากับเลโซโทจะเท่ากันทั้งฝั่งซื้อฝั่งขาย แล้วมั่วสูตรขึ้นมาแบบที่นักเรียนปีหนึ่งเทอมแรกยังไม่ทำกัน มันมาจากออฟฟิศของผู้แทนการค้าที่อาจจะทำแค่คืนเดียวเพราะนายสั่งให้ทำแบบด่วน แล้วออกมาเป็นชาร์ตที่ไร้สาระมากๆ
3
นี่มันประเทศมิกกี้เมาส์ (mickey mouse) ชัดๆ ผมต้องขออภัยต่อมิกกี้ เมาส์ด้วย เพราะเอาจริงๆมิกกี้ เม้าส์น่าจะฉลาดกว่าพวกนี้และไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ ผมไม่คิดว่าเราจะเห็นตัวเลขแบบเดิมอีกหลังจาก 90 วัน แต่จะเห็นอะไรบ้าง… ก็ขอให้พระคุ้มครองเราละกัน
เราจะไม่สามารถเจรจาอะไรที่เป็นหลักการที่ใช้กับทุกประเทศได้เลย 60 ประเทศที่ติดต่อมาเจรจาแล้วประธานาธิบดีสหรัฐใช้คำหยาบคายในระดับที่ไม่มีผู้นำคนไหนใช้มาก่อน ( they come to kiss my ass) เราใช้เวลาสองร้อยปีกว่าจะสร้างการค้าเสรีแบบนี้ขึ้นมาในโลก และสร้างระบบการค้าแบบนี้มา 80 ปี ใช้เวลา 31 ปีสร้าง WTO เราจะใช้เวลาแค่นี้มาทำให้เหตุการณ์แบบนี้เป็นระบบใหม่ไม่ได้แน่
1
ปัญหาตอนนี้มันใหญ่กว่าการค้าไปมาก สหรัฐเป็นรัฐนอกคอก อันตรายและอันธพาล จะไปยึดโน่น เกเรนี่ หาเรื่องประเทศอื่นไปทั่ว ถ้าโลกนี้จะยังคงรักษาเสถียรภาพไว้ได้ ประเทศที่เหลือจะต้องร่วมมือกันแล้วพยายามจะไม่ไปตามแนวทางบ้าๆ นี้ มีอะไรก็ต้องใช้เวที UN หรือ WTO เป็นเวทีหารือและแก้ปัญหา อย่าให้ความอันธพาล ตัวใครตัวมันเป็นเรื่องปกติใหม่ของโลกให้ได้เพราะจะไม่มีทางออกเหลืออีก..
5
ฟังโปรเฟสเซอร์แซคส์พูดแล้ว ผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่ายังเป็นแค่บทแรกของจุดเริ่มต้น (end of beginning) เท่านั้น เพราะอำนาจในระดับเผด็จการที่มี ม 44 ที่ระบบสหรัฐออกแบบมาให้ผู้นำที่เด็ดขาดนั้น ตอนนี้ตกอยู่ในมือคนบ้าที่ไม่มีเหตุผลใดๆที่พร้อมจะทำอะไรก็ได้ การปลดก็ทำไม่ได้ง่ายๆ จะไป impeach ก็แทบเป็นไปไม่ได้ เราจะยังต้องเจอความบ้าของทรัมป์กันต่อไปอีกสามปี ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการค้าแต่เป็นทุกเรื่องที่จะเฉียดไปถึงสงครามเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
4
ผลกระทบของนโยบายต่างๆรวมถึงภาษีจะทำให้หลายประเทศเข้าสู่สภาวะถดถอย การส่งผู้อพยพเป็นล้านกลับเม็กซิโกแล้วไม่มีงานทำก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับด้านยาเสพติด ของที่ล้นตลาดจากการค้าที่น้อยลงจะไปไหน ในสหรัฐเองข้าวของต้องแพงขึ้นมากแน่ๆ แล้วพอเงินเฟ้อขึ้นมากๆ ความไม่พอใจทุกหย่อมหญ้า ทรัมป์จะออกอะไรบ้าๆมาอีก หรือไปจนถึงหาเรื่องทำสงครามเพื่อกลบปัญหาภายในเหมือนที่ฮิตเลอร์เคยทำ
มีผู้เชี่ยวชาญต่างๆ วาดภาพไว้หลายสถานการณ์ แต่ละอันก็ไม่มีอะไรบวกเลย ส่วนพวกเราชาวไทยเองที่ปัญหาในประเทศก็มากพออยู่แล้วก็คงได้แต่เตรียมตัว เตรียมใจและติดตามด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆกันต่อไป
ยังไม่ทันขาดคำ นอกจากที่จะพยายามปลดประธานเฟด (เทียบกันก็คือจะปลดผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย) ทรัมป์เพิ่งให้สัมภาษณ์ปฏิเสธที่จะฟังศาลด้วยประโยคเด็ดที่อาจจะสรุปความคิดในหัวทุกอย่างของทรัมป์ว่า..
1
“A judge wasn’t elect to do that, I was”
8
The end of the beginning ในยุคของทรัมป์ และอาจจะเป็น the beginning of the end ของความสุขสงบรุ่งเรืองของโลกสมัยใหม่ก็เป็นได้นะครับ…
1
โฆษณา