รีวิว Travis Scott in Coachella 2025
(ขอโทษทีหายไปนานครับ เกือบเดือน)
(ภาพจาก : Billboard)
ปล.พิมพ์หลังจบวันที่ 2 ทันที
บอกตามตรงว่า Coachella ปีนี้ ผมกลับไม่ตื่นเต้นเท่าปีก่อนๆ เมื่อเทียบกับปีก่อน (ไม่ใช่ไม่ตื่นเต้นเพราะไม่ค่อยมี Rapper ไปเล่นนะ ผมก็ฟังศิลปินท่านอื่นในงานนี้เหมือนกัน อย่าง d4vd, Charli XCX, Post Malone, Zedd เป็นต้น แต่แรงจูงใจอาจจะยังไม่เท่า)
จำได้ว่า ผมไปกินส้มตำที่ร้านๆนึง กลางแดดร้อนๆ ในช่วงวันสงกรานต์ แบตโทรศัพท์ก็จะหมด แต่ก็ยังยืม Powerbank ของคุณแม่มา เพื่อมาดูคอนของ "Metro Boomin" ดูทั้งเครื่องร้อนๆนั่นน่ะแหละ แต่ผมรู้สึกคุ้มค่ามากที่ได้ดู รวมถึงคอนของศิลปินท่านอื่นๆ
แต่ปีนี้ผมกลับมีคนที่ผมอยากดูแค่ไม่กี่คน คือ Jennie, Lisa, และ Mustard แต่ Travis Scott ทำให้ผมตื่นเต้นมากที่สุดที่จะได้ดู และผมได้มีโอกาสดูเต็มทั้ง 2 วัน
ในฐานะ Diehard Travis Scott Fan ดูเกือบทุก Performance เดาเพลงต่อไปได้ ย้อนดูตั้งแต่สมัยที่พี่แกยังมี Dollar Sign ในชื่อ, คอนร่วมกับ Young Thug สมัย Rodeo ยังไม่ปล่อย, Coachella 2016, ตอนดราม่าปี 2021 ก็ดู รวม Tour ต่างๆ จนมาถึง Coachella ปี 2025 นี้ วันนี้ผมจะมาสรุป Travchella Ver.2025 นี้กันครับ
'สิ่งที่ Travis Scott ยังไม่เคยทำ'
ในช่วงก่อนการแสดงนั้น มีข่าวลือว่า Travis จะทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อนในการแสดง สองสิ่งแรกที่ผมนึกถึงเลยก็คือ 'Orchesta' และ 'Gospel'
บอกตามตรงว่าภาพที่ Travis ไปเป็น Conductor ในเพลง 'CHopstix' ลอยเข้ามาในหัวเลย 5555
Trav Perform ด้วยตัวคนเดียวและ 'Chase B' DJ คู่ใจมาโดยตลอดทั้งอาชีพ แต่ให้นึกดีๆ ถึงองค์ประกอบของการแสดงของ Travis ที่ยังไม่เคยทำ มันก็คือการเอาวงดนตรีมาเล่น Trumpet, Saxophone และเครื่องดนตรีอื่นๆ มาเล่นในคอนเสิร์ตของ Travis (นอกเหนือจาก Synth ของ Mike Dean)
ด้วยเหตุผลที่ Travis เป็น Performer ที่ใช้พื้นที่มาก เดินไปทั่วเวที ทั้งซ้ายสุดหรือขวาสุดของเวที หรือจะเล่นบนลำโพง หรือตรงกลางที่พร้อมให้เหล่า Rager มากระโดดลงจากเวทีไปสู่หมู่มหาชน ยิ่งเป็นเวทีที่มี Stage ย่อยยื่นออกมา Travis ก็เลือกที่จะใช้ตรงนั้นมากขึ้น (ไม่นับที่ไปโหนต้นไม้และปีนเสาไฟ)
'Circus Maximus Tour' หรือทัวร์ล่าสุดของ Travis สำหรับอัลบั้ม 'Utopia' Design Stage ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้พื้นที่ตรงกลางของสถานที่ มีลักษณะเป็นแนวยาว คล้ายๆ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถ้าให้เห็นภาพ ซึ่ง Travis ใช้หมดแหละ แต่ผมก็มองว่ามันไม่กว้าง หรือมันแคบไป Travis ก็เลยใส่ลูกเล่น 'Floating Stage' เข้ามาสำหรับแสดงเพลง 'MAFIA' และ 'I KNOW' รวมไปถึงการยกพื้นที่ขึ้นสูงสำหรับเพลง 'My Eyes' และ Stage ที่จัดให้สูงอยู่แล้ว สำหรับเพลง 'MODERN JAM' เป็นต้น
ปีนี้ Travis Scott ได้แสดงที่ 'COACHELLA Stage' หรือ Stage ที่ใหญ่ที่สุดในงาน นั่นหมายความว่า เวทีจะมีพื้นที่ให้ Travis ได้สรรค์สร้างอะไรเพิ่มได้มากกว่าเดิม จะใส่ Element อื่นๆ ทั้ง Part โชว์และ Part ดนตรีหรืออะไรก็ได้
Travis ก็เลยเลือกที่จะใส่วง 'Orchesta' เพราะมีพื้นที่เหลือๆ และนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยใส่มาก่อนในการแสดงตลอด 10 กว่าปี
Weekend 1 : For People
เปิดหัว Act 1 ด้วยการเปิดตัววง Orchesta ที่จะบรรเลงไปตลอดการแสดงทั้ง 2 สัปดาห์ Intro และ Intro ของ 4x4 ที่ไม่เล่นสักที ต่อด้วย Medley 4 เพลงที่ไปฟีทกับคนอื่นอย่าง CRUSH, Aye, Backrooms และ Type Shit คั่นด้วยสองเพลงที่ยังไม่ปล่อยจาก 'Jackboys 2' หลังจากนั้นก็แสดงเพลงตาม Set ปกติของ Trav
หลังจากคั่นด้วย Intro ของเพลง 'SIRENS' อยู่นาน ผมก็นึกว่าจะไปแล้ว ต่อจากนั้น 'Skyfall' ก็ได้เล่นขึ้น พร้อมกับ Travis ที่โหนสลิงเดินลงมาจากกำแพง Transition สู่ 'Act 2 : Floating Stage' และมี Prop เป็นคนที่กำลังห้อยโหนลอยตัวกลางอากาศลงมา ดึงขึ้นดึงลง เหมือน Trav กำลังยืนอยู่บนเมฆ เล่นแค่ 4 เพลง ก็กลับลงมา Perform ที่ Stage ตรงกลางเหมือนเดิม
มี Orchesta มาเล่นให้ตลอดหลังจากนี้ ทั้งเล่น Intro และ Outro ของ 'SKELETONS', FE!N, SICKO MODE และ Telekinesis
ผมชอบการที่พี่แกยังมีการ Keep list เพลงที่เคยเล่นสดไว้ ทำให้คนที่ไปที่ดู Travis มาก่อนสามารถเข้าใจว่าเพลงๆ นี้เป็นอย่างไร หรืออาจจะเดาเพลงต่อไปได้เลย
แต่ในส่วนของ Performance ผมกลับรู้สึกมันขัดหูยังไงไม่รู้ ไม่เกี่ยวกับการที่ Travis ไม่เคยใช้นะ แต่มันอาจจะมีบางช่วงที่ผิดคิว อาจทำให้เกิด Deadair ด้วย Scale ของการแสดงและเวทีที่ใหญ่ขึ้น
โดยรวมผมว่าสร้างสรรค์ดี ได้เห็นมุมมองอะไรใหม่ๆ ของ Trav และหวังว่าอาทิตย์ต่อไปจะพัฒนา
6.5/10
Weekend 2 : FOR RAGERS!!!!!!!!!!!
เพิ่งดูจบ บอกเลยว่า โคตรมัน
วันนี้เหมือนเป็นวันที่ทดสอบความเดือดของคนดู ว่ามีการ Moshpit หรือกระโดดกันมากแค่ไหน สังเกตได้จากบรรยากาศที่ถ่ายจากบนฟ้าใน Youtube และผมว่านี่แหละ วันนี้คือวันของเหล่า Ragers หรือสาวก No Bystanders ตัวจริง
ยังคงใช้วงเหมือนเดิม แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้ถูกใช้แบบให้รู้ว่ากำลังใช้อยู่ หรือใช้ให้มันเด่นมากเกินไป อันนี้คือชมนะครับ เพราะมัน Seamless มากๆ สำหรับโชว์วันนี้
โชว์วันนี้ไม่ดัดแปลงอะไรมากเหมือนอาทิตย์ก่อน เล่นเพลงตัวเองพร้อม Energy ที่เป็นแบบเดียวกับที่แสดงในคอนหรือทัวร์ตัวเอง ผมรู้สึกได้ ผมมาทันดูตอน Antidote เพลงที่ 3 คือปกติเพลงนี้จะเป็นเพลงท้ายๆ ของโชว์ แต่ทำไมเอามาเล่นก่อน เพราะมันต่อด้วย 'Mamacita' ที่มาจาก 2 โปรเจคแรกๆ ที่ทำให้ Travis เป็นที่รู้จัก อย่างที่ผมบอก วันนี้มันคือวันที่พิสูจน์ Ragers จริงๆ
มีการเอาศิลปินในค่ายอย่าง 'Sheck Wes' และ 'Don Toliver' มาแสดงคั่นเพื่อไปเตรียมตัวสำหรับ Act 2
Sheck Wes มีไมค์หอนไปช่วงนึง ไงละ 'Off the music, b****, I got rich, left you n****s clueless (ching-ching) Got a couple cribs, got a couple whips, I don't wanna do shit (no)' พอกลับมา Perform เวทีใหญ่ก็ทำไมค์หอนเลย
Don Toliver ก็เล่นเพลง 'BANDIT' และนี่คือ Performer ตัวจริง (Sheck ดูไว้) และทั้งคู่ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี
Act 2 ของ Travis ดูเหมือนพี่แกจะโมโหใครสักคน 'นี่คือคอนสุดท้ายแล้ว Scott' 'มึงมีอาชีพเดียว Scott' เหมือนบ่นตัวเองหรือบ่นถึงใครไม่รู้ และ Set ก็ดูเร่งไปเรื่อยๆ STARGAZING ก็เล่นครึ่งหลังแต่ยังไม่ถึงท่อนตัวเองด้วยซ้ำ ตัดท่อนที่ตัวเอง 'เคย' เล่น ชิกกะชิกกะอ้า* อยู่หลายเพลงตัดจบโคตรเร็ว เหมือนตัวเองกำลังจะเผื่อเวลาไว้เล่น 'FE!N' สัก 30 รอบ
* 'ชิกกะชิกกะอ้า' คือ สัญญาณที่เป็นการบอกให้ Chase B เล่นเพลงถัดไปแทนที่จะใช้การบอกตรงๆ ในการแสดงสดของ Travis
หลังจากนี้ก็เหมือนเดิมครับ แต่มันเดือดกว่าอาทิตย์ก่อน ด้วยมันเป็นจังหวะการรับส่งที่คุ้นเคยกัน, ไปโดดกับวง Orchesta, เน้น Beat Drop เหมือนที่เคยทำ ด้วย Elements เหล่านี้ มันส่งให้ตอนจบของงาน มันสวยงามอย่างที่ทุกคนเคยดูมา
โดยรวมมันคือ 'ความเดือดที่คุ้นเคย' สำหรับใครที่เสพติดการรับชมโชว์ของ Travis Scott อยู่แล้ว นั่นรวมถึงผมด้วย มันกลับทำให้ผมใจฟูว่า นี่คือหนึ่งใน Best Performer ในวงการเพลงยุคนี้
8/10 (หักในฐานที่บ่นอะไรไม่รู้ออกไมค์ 0.5)
ถ้าให้เปรียบเทศกาล Coachella เป็นประเภทดนตรี มันคงเปรียบเสมือนดนตรี Pop ที่ทุกคนสามารถเข้ามารับชมได้ทุกเพศทุกวัย โดยกลับกันศิลปินที่มาแสดง ต่างต้องแบกรับความกดดันมหาศาลในฐานะ Performer ของเทศกาลอันดับ 1 ที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่จะมารับชมศิลปินทั้งที่ตัวเองชอบอยู่แล้วหรือสนใจที่จะรับชมเป็นครั้งแรก
การออกแบบโชว์ที่ 'เข้ากับทุกคน' จึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าจะมา Perform อย่างที่เคยทำ ไม่ว่าจะในคอนหรือทัวร์ของตัวเอง แต่ถ้าคนอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มแฟนคลับไม่เก็ท ก็อาจทำให้โชว์ของศิลปินแป้กได้เหมือนกัน
ในมุมมองของผม Travis อาจจะเอียงมาทางเอาใจแฟนคลับมากกว่าคนนอกด้อม แต่การใส่ Element อื่นๆ มันอาจทำให้คนอื่นๆ ที่อาจมาชมศิลปินท่านอื่น หันมาสนใจ Trav ก็ได้
And it ain't a mosh pit if ain't no injuries
STARGAZING - Travis Scott
writer : net
somethingtorapabout, SORRY 4 DA WAIT
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
