Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1minsmana
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 00:22 • ไลฟ์สไตล์
“เมื่อคุณแสวงหาความสุข คุณกำลังหนีจากความทุกข์
…ทั้งสองนี้เป็นสิ่งเดียวกัน” คือคำกล่าวของ จิดดูกฤษณามูรติ (Jiddu Krishnamurti) เป็นนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงระดับโลก
แก่นแท้ของปรัชญาตามแบบ กฤษณมูรติ คือ การไปให้ถึงอิสรภาพจากทุกสิ่งที่ยึดโยงและพันธนาการ เกือบคล้ายนิพพานของพุทธ แต่ง่ายและเคร่งครัดน้อยกว่ามาก
กฤษณามูรติมองว่าการพยายามตามหาความสุขเป็นกับดัก เพราะทำให้คาดหวัง ความคาดหวังที่จะมีความสุข นำไปสู่ความผิดหวังและความทุกข์ที่ไม่สิ้นสุด ทว่า… ความสุขที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อจิตใจหยุดต่อสู้หรือหนีจากความเป็นจริง
ความสุขที่แท้เกิดขึ้นเมื่อจิตใจเป็นอิสระจากความกลัว ความยึดติด เมื่อจิตใจได้รับการปลดปล่อยจากสถานการณ์ภายนอก ความสำเร็จ เงินทอง การยอมรับจากผู้อื่น กรอบความคิดทางสังคม ความเชื่อทางศาสนา ทุกความคิด ทุกสิ่งทุกอย่าง กระทั่งถึงจิตใต้สำนึก
หนทางสู่ความสุขที่ยั่งยืนและลึกซึ้ง เราต้องเรียนรู้ที่จะปลดปล่อยจิตใจจากกรอบจำกัด ทั้งกรอบที่เราพอจะรู้ตัว และที่เราไม่รู้ตัว การถอดรื้ออคติที่สั่งสมมานาน อาจสร้างความเจ็บปวดในโครงสร้างจิตระดับหนึ่ง ปรัชญาของกฤษณมูรติ ท้าทายให้มนุษย์สำรวจตนเองอย่างกล้าหาญเพื่อค้นพบสภาวะนี้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล ที่ไม่อาจลอกเลียนกันได้
และนี้คือตัวอย่างคำถาม ที่ออกแบบมาเพื่อให้ฉุกคิด ใคร่ครวญทบทวนจิตใจของ จิดดูกฤษณามูรติ โดยเชื่อมโยงกับสถานการณ์ในชีวิตจริง โดยจะเป็นคำถามที่ช่วยกระตุ้นให้คุณผู้อ่านสำรวจจิตใจ และเริ่มต้นค้นหาอิสรภาพทางความคิด ซึ่งนำไปสู่ความสุขที่ยั่งยืนและลึกซึ้ง
1. “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าการขาดความสนใจจากเขาทำให้ฉันมีค่าน้อยลง? ความรู้สึกมีค่าของฉันขึ้นอยู่กับผู้อื่นจริงหรือ?”
2. “ความโกรธของฉันเกิดจากความปรารถนาที่จะให้เขาเห็นด้วยกับฉันหรือไม่? ถ้าฉันยอมรับมุมมองที่ต่างกันได้ ฉันจะยังโกรธอยู่หรือเปล่า?”
3. “ความอิจฉานี้สะท้อนความกลัวว่าฉันจะสูญเสียอะไร? ถ้าฉันมีความสุขด้วยตัวเอง ความสำเร็จของเขาจะยังรบกวนฉันหรือไม่?”
4. “การถูกปฏิเสธจะเปลี่ยนความเป็นตัวฉันจริงหรือ? ความกลัวนี้มาจากความคิดที่ฉันเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเองหรือไม่?”
5. “ทำไมฉันถึงเชื่อว่าความสมบูรณ์แบบจะทำให้ฉันปลอดภัย? ถ้าฉันยอมรับข้อจำกัดของตัวเอง ฉันจะยังรู้สึกกดดันอยู่หรือไม่?”
6. “ฉันเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นเพราะอะไร? ความสำเร็จของเขาลดคุณค่าของฉันจริงหรือ?”
7. “ความกลัวล้มเหลวนี้มาจากความคิดเกี่ยวกับอนาคตหรือไม่? ถ้าฉันทำเต็มที่โดยไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ ฉันจะยังกลัวอยู่หรือเปล่า?”
8. “ฉันพยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อใคร? ถ้าไม่มีใครตัดสินฉัน ฉันจะยังรู้สึกว่าต้องพิสูจน์อะไรหรือไม่?”
9. “ฉันกลัวการถูกตัดสินเพราะมันกระทบภาพลักษณ์ที่ฉันสร้างไว้หรือไม่? ถ้าฉันไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์นี้ ฉันจะยังรู้สึกไม่มั่นใจหรือเปล่า?”
10. “ทำไมจำนวนไลค์ถึงกำหนดความรู้สึกของฉัน? ความสุขของฉันขึ้นอยู่กับการยอมรับจากผู้อื่นจริงหรือ?”
11. “แนวคิดว่า ‘ไม่ดีพอ’ นี้มาจากไหน? ฉันจะยังรู้สึกแบบนี้หรือไม่ถ้าฉันหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนในโซเชียล?”
12 “ทำไมคำพูดของผู้อื่นถึงมีอำนาจเหนือความรู้สึกของฉัน? คุณค่าของฉันขึ้นอยู่กับคำชมหรือคำวิจารณ์จริงหรือ?”
13.“ความกังวลนี้เกิดจากความเป็นจริงในปัจจุบัน หรือจากความคิดที่ฉันจินตนาการเกี่ยวกับอนาคต? ถ้าฉันอยู่กับปัจจุบันขณะ ฉันจะยังกังวลอยู่หรือไม่?”
14.“ความเศร้านี้เกิดจากเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว หรือจากความคิดที่ฉันยึดติดกับมัน? ถ้าฉันปล่อยอดีตไปได้ ฉันจะยังเศร้าอยู่หรือเปล่า?”
15. “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าต้องควบคุมทุกอย่าง? ถ้าฉันยอมรับความไม่แน่นอน ฉันจะยังรู้สึกเครียดหรือไม่?”
16. “ความโกรธนี้เกิดจากพฤติกรรมของเขา หรือจากความคาดหวังของฉันว่าทุกคนต้องทำตามกฎ? ถ้าฉันปล่อยความคาดหวังนี้ ฉันจะยังโกรธอยู่หรือเปล่า?”
17.“ฉันทำตามค่านิยมนี้เพราะมันสอดคล้องกับตัวฉัน หรือเพราะฉันกลัวการขัดแย้งกับครอบครัว? ถ้าฉันเป็นอิสระจากความคาดหวังนี้ ฉันจะเลือกอะไร?”
18.“นิยามของความสำเร็จนี้เป็นของฉันเอง หรือมาจากสังคม? ถ้าฉันกำหนดความสำเร็จด้วยตัวเอง ฉันจะยังรู้สึกกดดันหรือไม่?”
19.“ฉันยอมรับคำสอนนี้เพราะฉันเข้าใจมันอย่างแท้จริง หรือเพราะมันช่วยลดความกลัวในความไม่แน่นอน? ถ้าฉันเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนได้ ฉันจะยังยึดติดหรือไม่?”
20.“ฉันเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้คนอื่นยอมรับเพราะอะไร? ถ้าฉันยอมรับตัวเองอย่างที่เป็น ฉันจะยังรู้สึกว่าต้องทำให้คนอื่นพอใจหรือไม่?”
ไม่เป็นไร หากระหว่างการพยายามตอบคำถามจะนำไปสู่ความรู้สึกไม่สบายใจ ให้ยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ถ้าคิดไม่ออกหรือชักจะตื้อๆก็วางทิ้งไว้ ไม่จำเป็นต้องรีบหาคำตอบทันที
ถึงตอบได้ตอนนี้ แต่อย่ายึดติดกับคำตอบ มันอาจเปลี่ยนก็ได้ ตามแนวคิดของกฤษณามูรติ คำตอบที่ตายตัวอาจกลายเป็นกรอบใหม่
การยึดติดกับวิธีการหรือเป้าหมายใดๆ ก็ตาม (เช่น จากนี้ ฉันต้องไม่ยึดติด ฉันต้องเป็นอิสระ ฉันต้องไม่ถูกครอบงำโดยกรอบใดๆ ฉันจึงจะมีความสุขแท้จริง มันอาจกลายเป็นกรอบจำกัดใหม่ที่มาขังเราโดยไม่รู้ตัว
ต้องเริ่มแบบสบายๆ ง่ายๆ ไม่คาดหวัง เลือกคำถาม 1-2 ข้อที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และค่อยๆ ขยายไปยังสถานการณ์อื่น
การถอดรื้อกรอบจำกัดเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความกล้าหาญ เพราะบางครั้งเราจะเจอความจริงที่ไม่สบายใจเกี่ยวกับตัวเอง แต่การให้เวลาตัวเองเผชิญหน้ากับความว่างเปล่า ความเศร้า ความละอาย หรือความกลัวที่ซ่อนอยู่
หากวันนี้เริ่มแค่ยอมรับได้อย่างผ่อนคลาย วันหน้า อาจเริ่มยอมรับตนเองได้ทุกอย่าง วันหนึ่ง อาจยอมรับตนเองอย่างไร้เงื่อนไข และเมื่อวันนั้นมาถึง เราจะเป็นสุขจากอิสระที่แท้จริง
ไลฟ์สไตล์
ปรัชญา
จิตวิทยา
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย