21 เม.ย. เวลา 01:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จากกาแฟถ้วยหนึ่ง...สู่จักรวาลของ Starbucks: หุ้นที่ไม่ใช่แค่เรื่องของคาเฟอีน

ถ้าพูดถึง Starbucks เรานึกถึงอะไร?
บางคนอาจนึกถึงลาเต้ร้อนในเช้าวันจันทร์ บางคนอาจนึกถึงกลิ่นกาแฟลอยล่องในร้านบรรยากาศอบอุ่น หรือบางคนอาจนึกถึงสัญลักษณ์นางเงือกสีเขียวที่กลายเป็นเหมือน "แบรนด์แห่งไลฟ์สไตล์" ไปแล้ว
แต่ในมุมของนักลงทุน... Starbucks ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ
มันคือ "ธุรกิจเปลี่ยนวัฒนธรรม" ที่เริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ในซีแอตเทิลเมื่อปี 1971 จนกลายเป็นอาณาจักรระดับโลกที่มีมากกว่า 30,000 สาขาในกว่า 80 ประเทศ
---
อดีต: กาแฟธรรมดาในวันที่ไม่มีใครสนใจ
ย้อนกลับไปช่วงเริ่มต้น Starbucks เป็นเพียงร้านขายเมล็ดกาแฟคุณภาพดี แต่ไม่มีบริการกาแฟพร้อมดื่ม
จนกระทั่งปี 1987 ชายคนหนึ่งชื่อ Howard Schultz มองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น—ไอเดียการสร้าง "Third Place" หรือ "สถานที่ที่สาม" สำหรับคนเมือง ที่ไม่ใช่บ้าน และไม่ใช่ที่ทำงาน
เขาพัฒนา Starbucks ให้กลายเป็นพื้นที่ของประสบการณ์:
กาแฟคุณภาพ บรรยากาศดี เพลงเบาๆ Wi-Fi ฟรี และชื่อของคุณที่ถูกเขียนลงบนแก้ว
ใครจะคิดว่าแค่เขียนชื่อบนแก้ว...จะกลายเป็นกลยุทธ์ที่เปลี่ยนลูกค้าให้เป็น “เจ้าของเรื่องราว” ทุกครั้งที่ซื้อกาแฟ
---
ปัจจุบัน: หุ้นที่แข็งแกร่งท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
ในมุมของตลาดหุ้น Starbucks (NASDAQ: SBUX) เติบโตมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายทศวรรษ แม้จะเจอทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ โรคระบาด และการแข่งขันที่ดุเดือด
รายได้ต่อปีหลายหมื่นล้านดอลลาร์
โมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ + ร้านที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง
ขยายสาขาอย่างหนักในจีน (ตลาดใหญ่รองจากอเมริกา)
Starbucks ไม่เคยหยุดอยู่แค่ "ขายกาแฟ"
แต่ขยายไปถึง App, ระบบสะสมแต้ม, เมนูตามเทศกาล, การร่วมมือกับศิลปิน ไปจนถึงการพัฒนาสายกาแฟพิเศษอย่าง Reserve เพื่อจับกลุ่มคนรักกาแฟตัวจริง
---
ชวนคิด: ธุรกิจแบบไหน...ที่สามารถกลายเป็น "วัฒนธรรม"?
สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่แค่ราคาหุ้นของ Starbucks
แต่คือ "วิธีคิด" ที่อยู่เบื้องหลัง
เพราะ Starbucks ไม่ได้ขายแค่กาแฟ...
แต่ขาย “ประสบการณ์ ความรู้สึก และการมีส่วนร่วม”
นี่คือธุรกิจที่เปลี่ยน "พฤติกรรม" คนทั้งโลก
จากเดิมที่กาแฟเป็นแค่เครื่องดื่ม ถูกมองใหม่ว่าเป็น "ช่วงเวลาสำคัญ" ในแต่ละวัน
วิกฤตครั้งใหญ่: ปี 2008 ที่เกือบทำให้กาแฟเย็นสนิท
ปีนั้นโลกเจอ วิกฤตการเงินแฮมเบอร์เกอร์ สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลาง
ธุรกิจฟุ่มเฟือยได้รับผลกระทบเต็มๆ รวมถึง Starbucks
คนเริ่มเลิกซื้อกาแฟราคาแพงทุกวัน
สาขาขาดทุนหลายแห่ง
ราคาหุ้นตกจาก $40 เหลือต่ำกว่า $10
แต่ที่น่ากลัวกว่าตัวเลขคือ…
Starbucks เริ่ม “หลงทาง” จากตัวตนที่เคยเป็น
พนักงานเหมือนหุ่นยนต์ สาขาเหมือนสายพานอุตสาหกรรม
กาแฟรสชาติด้อยลงจากการเร่งขยายแบบไม่ลืมหูลืมตา
---
การกลับมาของ Howard Schultz: กลับสู่รากเหง้า
ในปี 2008 Howard Schultz กลับมานั่งเก้าอี้ CEO อีกครั้ง
พร้อมภารกิจ “ชุบชีวิตจิตวิญญาณ” ของ Starbucks
สิ่งแรกที่เขาทำคือ…
> “สั่งปิดร้าน Starbucks ทุกสาขาในอเมริกา 8,000 แห่งชั่วคราว เพื่ออบรมพนักงานให้ ‘ชงกาแฟ’ อย่างใส่ใจอีกครั้ง”
ฟังดูเล็กน้อย แต่นั่นคือสัญญาณสำคัญว่า...
Starbucks ไม่ได้แค่ขายกาแฟ แต่ขาย ความรู้สึกดีๆ ที่แนบมากับแก้วกาแฟแต่ละแก้ว
---
แนวคิดที่เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส
สิ่งที่ Howard Schultz ทำในช่วงนั้น กลายเป็นบทเรียนทองของโลกธุรกิจ
1. “เติบโตเร็วเกินไป อาจทำลายจิตวิญญาณของแบรนด์”
ขยายสาขาโดยไม่รักษาคุณภาพ = สูญเสียความไว้วางใจ
2. “การฟังพนักงานกับลูกค้า เป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้น”
Schultz เดินทางไปพูดคุยกับพนักงาน frontline จริงๆ เพื่อฟังปัญหาที่ HQ มองไม่เห็น
3. “จงกล้าหยุด เพื่อกลับไปเริ่มอย่างถูกต้อง”
การปิดร้านทั่วประเทศเป็นเหมือนการกดปุ่มรีเซ็ต และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้หุ้น SBUX กลับมาโตอีกครั้ง
1
---
ชวนคิด: เรากำลังเร่งเดิน…จนลืมหยุดฟังเสียงข้างในหรือเปล่า?
เรื่องราวของ Starbucks สะท้อนบางอย่างได้ดีมากสำหรับทั้งคนทำธุรกิจและนักลงทุน
บางครั้ง “การเติบโต” อาจไม่ใช่การขยายอย่างบ้าคลั่ง
แต่มันคือการรักษา “หัวใจ” ของสิ่งที่เราทำไว้ให้มั่นคงต่างหาก
> ในวันที่ทุกอย่างดูดี…เราอาจต้องถามตัวเองว่า “เรายังชัดในสิ่งที่เรายืนอยู่หรือเปล่า?”
และในวันที่เจอวิกฤต…คำตอบนั้นจะกลายเป็นเข็มทิศที่พาเรากลับมา
1
---
ไม่มีการชักชวนให้ลงทุนหรือทำธุรกิจใดๆ
การลงทุนมีความเสี่ยงนักลงทุนหรือนักธุกิจควรศึกษาและวางแผนก่อนลงมือทำ
โฆษณา