21 เม.ย. เวลา 03:00 • ไลฟ์สไตล์

ชีวิตดีขึ้นด้วย 40 นิสัยเล็กๆ ที่ทำได้วันนี้เลย | Rawit’s Thought

วันนี้จะมาชวนคุยถึงบทความอันหนึ่งที่ผมไปเจอใน Medium มาครับ
ผมรู้สึกว่าบทความนี้น่าสนใจดี เอาไปใช้ง่ายมาก สามารถใช้ได้เลยวันนี้ แล้วก็ช่วยให้เรามองอะไรในชีวิตต่างไปเยอะจริงๆ
1
บทความนี้มาจากผู้เขียนชื่อ Thomas Oppong ชื่อว่า "40 Short Habits That Solve Life's Most Common Problems" คือนิสัยง่ายๆ ที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาเกือบทุกอย่างในชีวิตคุณได้ แล้วเรื่องพวกนี้มันเล็กมาก
1. สิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาคือเริ่มที่สมอง
สิ่งสำคัญที่สุดในการจะแก้ปัญหามันเริ่มต้นที่สมองของเราก่อน เราต้องมีวิธีการเปลี่ยนมุมมอง แล้วการเปลี่ยนมุมมองนี่แหละจะทำให้คุณเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ แล้วจะทำให้คุณเติบโตขึ้นด้วย
เช่น สมมุติว่าเราเคยมองว่า เวลาเราหิว แล้วเราหาร้านอาหารกินไม่ได้ รู้สึกโมโหหิวมากๆ ซึ่งผมก็เป็นปัญหานี้ ตอนนี้มุมมองผมเปลี่ยนใหม่ ทุกครั้งที่หิวจะรู้สึกว่า “ร่างกายกำลังเข้าสู่กระบวนการ Autophagy” คือเวลาที่ Fasting นานๆ แล้วมันจะเกิด Process นี้ ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ทุกครั้งหรอก มันต้องผ่านไป 20 กว่าชั่วโมงถึงจะเริ่ม Autophagy แต่ว่าช่วงที่เราหิวเรารู้สึกว่า “เฮ้ย เรากำลัง Fasting ได้ผลอยู่” นี่คือมุมมองใหม่ จะถูกจะผิดไม่รู้ แต่ว่าผมรู้สึกว่ามันช่วยแก้ปัญหาเรื่องโมโหหิวไปได้เยอะเลยทีเดียว
1
2. หาความรู้ใหม่ๆ เข้าตัวทุกวัน
เราไม่สามารถที่จะเป็น Lifelong Learner ได้ ถ้าเราไม่หาของใหม่ๆ เข้าตัวตลอดเวลา คำว่าตลอดเวลาไม่ได้หมายถึงทุกเวลาขนาดนั้น แต่อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง หนังสือ Podcast ต่างๆ พวกนี้ช่วยมาก แม้แต่ Newsletter ที่เข้ามาใน E-mail คุณ ซึ่งเราก็ไม่ได้ค่อยได้ใส่ใจมาก ผมได้เรียนรู้อะไรจากพวกนั้นเยอะมาก เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้ผมจึง Subscribe Newsletter เยอะมาก
3. ถามตัวเองว่าอะไรสำคัญที่สุดในวันนี้
ทุกวันก่อนเริ่มทำงานให้ถามตัวเองเสมอว่า ของที่เรากำลังจะเริ่มลงมือทำ มันเป็นของที่มีความสำคัญมากที่สุดในวันนั้นหรือเปล่า คำถามนี้สำคัญจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเสียเวลาไปทั้งวัน แล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย
4. ออกกำลังกายเมื่อรู้สึกแย่
ถ้าคุณรู้สึก Down เมื่อไรก็ตาม แล้วหาสาเหตุไม่เจอ การออกกำลังกายคือวิธีการที่ดีที่สุด ผมยืนยันเลย ไม่ว่าคุณจะรู้สึก Down ปวดหัวนอนไม่พออะไร ลองไปออกกำลังกายสั้นๆ ไม่ต้องนาน 20 นาที แล้วความรู้สึกคุณจะดีขึ้นทันที
2
5. เดินเพื่อเคลียร์สมอง
เขาเรียกว่า Soil Walk คือการเดินผ่อนคลาย แล้วก็เคลียร์สมอง การเดินเป็นหนึ่งใน Process ที่ดีที่สุด ยิ่งอยู่ในธรรมชาติ เจอแดดยิ่งดี
6. ใช้ช่วงเวลาพลังงานสูงให้เกิดประโยชน์
มนุษย์เรามีช่วงเวลาที่มีพลังงานเต็มเปี่ยม เรียกว่าเป็นช่วง Peak Hour ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น จงใช้เวลานั้นให้ดีที่สุด
7. ใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อความคิดสร้างสรรค์
ถ้าคุณรู้สึกว่าความคิดสร้างสรรค์ของคุณมันช่างแย่เหลือเกินช่วงนี้ โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้พวกนี้เยอะๆ ให้ลองไปทำกิจกรรมที่อยู่ในธรรมชาติ เป็นเวลาสักระยะหนึ่ง คำว่ากิจกรรมที่อยู่ในธรรมชาติ ก็อันนี้แล้วแต่จะจินตนาการเลย จริงๆ การไปสวนก็เรียกว่าใช่แล้ว หรือปลูกต้นไม้ก็ได้ เล่นกับหมาแมวอะไรพวกนี้สักระยะหนึ่ง ให้มันเหมือนหัวมันโล่ง แล้วค่อยกลับมาทำต่อ ไม่อย่างนั้นมันก็จะติดขัดอยู่อย่างนั้น
8. ฟังเพลงขณะทำงาน
ลองฟังเพลงเวลาทำงานดู บางคนถูกจริตกับการฟังเพลงมาก แล้วมันช่วยให้มีพลังมากขึ้นด้วย แต่ถ้าเกิดคนที่ไม่ถูกจริตก็ไม่ต้องพยายามฝืน
9. ทำ Desk Exercise
เขาบอกว่าทำ Desk Exercise เช่น การ Stretch คอ การยืนทำงาน การยืดขาอะไรพวกนี้ ซึ่งมันทำได้ที่โต๊ะทำงานเลย แล้วก็ไม่ได้ดูประหลาดอะไรด้วย อันนี้สามารถช่วยลดความเครียดด้วย แล้วก็ลด Office Syndrome ด้วย และมันจะทำให้ Posture หรือว่าท่านั่ง ท่ายืนของคุณดีขึ้น
10. มี Routine ก่อนนอน
เขาบอกว่าให้มี Routine ก่อนนอนเสมอ โดยเฉพาะสำหรับคนที่นอนยาก การมี Routine ก่อนนอนจะช่วยให้นอนง่ายขึ้น แล้วก็พยายามนอนให้ตรงเวลา
11. เปลี่ยนงานหรือหาความท้าทายใหม่
ถ้าคุณรู้สึกว่างานของคุณ ณ ตอนนี้ มันไม่ทำให้คุณเก่งขึ้นเลย คุณต้องคิดหน้าที่ของคุณใหม่ มันมี 2 Options หนึ่ง คือคุณเปลี่ยนงาน หรือสอง คุณไปคุยกับเจ้านายคุณว่า คุณรู้สึกว่างานมันไม่ท้าทาย มันไม่ทำให้คุณเก่งขึ้น
1
12. เขียนแทนการคิดมาก
การคิดมากเกินไป หรือว่า Over Thinking เป็นสิ่งที่แย่ต่อสุขภาพจิตมากๆ เมื่อไรรู้สึกคิดมากปุ๊บ ให้หยิบปากกามาแล้วเขียน เขียนได้ทุกอย่างเลย ลงไปใน Journal เขียนความเครียด สิ่งที่คุณ Worry อยู่ สิ่งที่คุณคิดตอนนี้ ยังไม่ต้องหา Solution ด้วยซ้ำ เขียนไปก่อน
13. ฟังมากกว่าพูด
ในการสนทนาใดๆ ก็ตาม ให้คุณฟังมากกว่าพูด มันมีสาเหตุที่ทำให้เรามี 2 หู และปากเดียว ในทุกวันที่คุณรู้สึกว่างานมันเยอะจนทำไม่ทัน ให้ทำงานสำคัญที่สุด 3 งานพอจบ ที่เหลือเดี๋ยวไปทำวันรุ่งขึ้นได้
14. ทำงานสำคัญที่สุด 3 อย่างให้เสร็จก่อน
ในวันที่รู้สึกว่างานเยอะจนทำไม่ไหว ให้เลือกงานสำคัญที่สุด 3 อย่างและทำให้เสร็จก่อน ส่วนงานที่เหลือค่อยทำในวันถัดไป
15. เริ่มวันด้วยงานยากที่สุด
ถ้าพรุ่งนี้เป็นวันที่คุณรู้สึกว่า เครียดมากยุ่งมาก ลองดูว่างานอะไรที่รู้สึกว่ามันยากที่สุดสำหรับที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ เราก็ทำอันนั้นก่อนเลย ตื่นเช้ามาทำให้เสร็จก่อนเลย แล้วชีวิตวันนั้นคุณจะดีขึ้นเยอะ
16. ระวังอีโก้และความโกรธ
เมื่อคุณรู้สึกว่าความโกรธหรือว่าอีโก้ของคุณกำลังทำให้คุณนิสัยไม่ดี ให้เตือนไว้เสมอว่า “คนเราใช้เวลา 20 ปี ในการสร้างชื่อเสียงตัวเองขึ้นมา แต่ 5 นาที ในการทำลาย”
คำพูดนี้มาจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องใช้มันในชีวิต เป็นเหมือนกับคาถาและ Mantra เพราะสิ่งที่ทำลายชื่อเสียงของคนเราได้มากที่สุดก็คือ อีโก้กับความโกรธ
17. เปลี่ยน Routine บ้าง
คุณจะต้องเบื่อวิถีชีวิตของคุณสักวันหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ ลองเปลี่ยน Routine ใหม่ๆ ลองหาอะไรใหม่ๆ ทำสักเดือนละครั้งหนึ่ง
18. ลดการใช้ Social Media
มนุษย์เราแทบทุกคนใช้ Social Media เยอะเกินไป เพราะฉะนั้นคุณหาวิธีอะไรก็ได้ให้คุณใช้ Social Media น้อยลง เช่น เอามันไปซ่อนอยู่ในแอป ซ่อนอยู่หลายๆ อัน หรือว่าพยายามควบคุมตัวเอง หรือไม่ก็ลบแอปทิ้งไปเลย อะไรก็ได้
19. ให้ความสำคัญกับการนอน อาหาร และออกกำลังกาย
1
สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับสุขภาพกาย มี 3 อย่างเท่านั้น คือนอน ออกกำลังกาย แล้วก็ของที่คุณกินเข้าไป ขอให้นึกแบบนี้ทุกวัน
20. เริ่มวางแผนเกษียณตั้งแต่วันนี้
ทุกคนต้องมีแผนการเกษียณ ถ้าคุณยังไม่มี ตอนนี้ เริ่มวันนี้ ไม่รู้สายไม่สายเกินไป แต่ก็ต้องเริ่มแล้ว ถ้าไม่เริ่มวันนี้ถือว่าสายเกินไปแน่ๆ
21. ค้นหาความหมายของชีวิต
ถ้าเกิดว่าคุณตั้งคำถามตัวเองบ่อยๆ ว่า เป้าหมายของชีวิตของเราคืออะไร เขาบอกว่าบางทีไม่ต้องตั้งคำถามเยอะ เพราะถามไปก็คิดไม่ออก ลองเขียนสิ่งที่เราชอบไม่ชอบมาดู แล้วสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีพลังในชีวิต หรือว่าสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าพูดปุ๊บเราแบบมันกระตุ้นความอยากทำอะไรสักอย่าง อยากลงมือทำอะไรสักอย่างนี่ แล้วเดี๋ยวคุณอาจจะประกอบจิ๊กซอว์เรื่อง Life Goal ของคุณขึ้นมาเองได้
22. อย่าใช้ชีวิตแบบ Autopilot
อย่าใช้ชีวิตอยู่ในโหมด Autopilot คำว่าโหมด Autopilot ก็คือก็เมื่อวานทำแบบนี้ วันนี้ก็เลยทำแบบเดิม ลองดูสิว่า “เอ๊ะ วันนี้เราจะทำอะไรให้ดีขึ้นได้บ้าง”
23. เรียนรู้การปฏิเสธ
1
ให้ปฏิเสธคนให้เป็นนิสัย คนที่ปฏิเสธคนไม่เป็นจะใช้ชีวิตกับ Priority ของคนอื่น แต่ไม่ใช่ Priority ของตัวเอง เราจะต้องปฏิเสธคนให้เป็น ซึ่งการปฏิเสธคนให้เป็นนี่เป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตเลย
ผมเคยได้ยินว่าคนที่ประสบความสุขสำเร็จมากๆ ในชีวิต เขาปฏิเสธเกือบทุกเรื่องเลย เขาทำน้อยมากๆ แต่สิ่งที่เขาทำมีผลเยอะมากๆ นั่นเอง
24. สอนคนอื่นในสิ่งที่คุณเรียนรู้
ถ้าคุณกลัวว่าคุณจะลืมสิ่งที่คุณเรียนมา ให้สอน เมื่อไรที่คุณสอน มันจะทำให้คุณแทบไม่ลืมสิ่งที่คุณเรียนมาเลย
25. ใช้เงินกับประสบการณ์มากกว่าวัตถุ
ใช้เงินในสิ่งที่สร้างความสุขให้กับคุณจริงๆ เขาบอกว่าให้โฟกัสกับ Experience หรือว่าประสบการณ์มากกว่าของ มันช่วยลดความเครียดด้วย
26. ลดการตัดสินใจในช่วงเช้า
เพื่อทำให้คุณไม่ต้องตัดสินใจมากเกินไปในช่วงเช้า คำว่าตัดสินใจมากเกินไป คือเวลาสมองเราต้องตัดสินใจโน่นนี่เยอะมากๆ มันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า Decision Fatigue
เขาถึงบอกว่าในช่วงเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่สมองเราใส พยายามตัดสินใจเรื่องต่างๆ ให้น้อย เช่น ให้เตรียมชุดที่จะใส่วันนี้เตรียมตั้งแต่เมื่อคืน ถ้าจะมีอาหารก็เตรียมไว้ แล้วก็ค่อยอุ่นตอนนั้น คือเตรียมทุกอย่างไว้ก่อน คุณจะได้ไม่ต้องตัดสินใจอะไรเยอะในตอนเช้า ไม่อย่างนั้นคุณจะหมดพลังไปกับเรื่องพวกนี้ ยังไม่ถึงที่ทำงานเลย
27. เพิ่ม Endorphins ด้วยการออกกำลังกาย
พาราเซตามอลของสมองหรือว่ายาแก้ปวดของสมองคือ Endorphins
Endorphins นี่มาจากการออกกำลังกายเยอะมาก และมาจากกิจกรรมอื่นๆ เช่น การกิน Dark Chocolate หรือการดูละครตลกก็ทำให้คุณมี Endorphin ด้วยเช่นกัน
28. เลือกอาหารเช้าอย่างชาญฉลาด
ถ้าคุณต้องการที่จะมีพลังในช่วงเช้า ถ้าคุณกินอาหารเช้า ให้งดอาหารเช้าที่มีน้ำตาลเยอะ ให้กินอาหารเช้าที่เน้นโปรตีนกับไฟเบอร์ เช่น ไข่ หรือว่าพวกถั่วพวกนี้ อย่าไปกินซีเรียลอะไรที่มันน้ำตาลเยอะๆ พวกนี้ยิ่งทำให้คุณไม่มีพลังสมอง
29. เพิ่ม Dopamine
Dopamine มันช่วยเรื่องความรู้สึกของเรา ในการเพิ่ม Dopamine คุณสามารถทำได้ด้วยการนอนให้ดี ฟังเพลงเพราะๆ ที่คุณชอบ หรือว่าหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทำ
30. จัดระเบียบเทคโนโลยีของคุณ
ให้ลอง Declutter Your Tech เช่น ไปปิด Notification ซึ่งจริงๆ แล้วผมไม่เปิด Notification อะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกทุกคนเสมอว่า ถ้ามีอะไรด่วนให้โทรมา เพราะว่ามันเป็น Notification เดียวที่ผมเปิดอยู่ ไม่ได้ปิดไว้
หรือไปดูเรื่องของสิ่งที่คุณ Subscribe อยู่ทุกวันนี้เรา Subscribe ของเยอะมาก เยอะจริงๆ ไปดูว่ามันยังจำเป็นอยู่ไหม แล้วก็ลบแอปที่คุณไม่ใช้มาเป็นปีแล้วทิ้งบ้าง
31. พูดในเชิงโอกาสแทนการขอ
คนชอบโอกาส เพราะฉะนั้นเวลาคุณจะพูดกับใคร แทนที่จะเป็นการ Request คือการขอ ลองพูดกับเขาในมุมว่า มันเป็นโอกาสที่เขาจะทำอะไรได้บ้าง คนที่ฝึกเรื่องนี้บ่อยๆ จะมีความสามารถในการที่จะปิด Project หรืออะไรอย่างนี้ได้มากขึ้น
32. ลดความคาดหวัง
เขาบอกว่าเพื่อลดความผิดหวังในชีวิต ก็อย่าคาดหวังเยอะ เพราะความคาดหวังนี่แหละเป็นตัวที่ทำให้เราไม่มีความสุข โดยเฉพาะการคาดหวังกับคนอื่น เป็นสิ่งที่คาดหวังแล้วยากมาก เพราะบางครั้งเรายังทำไม่ได้สำเร็จทุกอย่าง เพราะฉะนั้นการไปคาดหวังกับคนอื่น มันยิ่งไปเหมือนฝากความสุขของคุณไว้กับคนอื่น
33. คิดถึงทางออกมากกว่าปัญหา
เวลาเจอปัญหาให้คิดก่อนเลยว่า “ทางออกหรือว่าวิธีการแก้ปัญหามันคืออะไรบ้าง” บางคนไปกังวลแต่กับปัญหา แต่ลืมคิดเรื่องทางออก
ให้ลองคิดเป็นฉากๆ เลยว่า Worse Case จะเป็นอย่างไร แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าคุณฝึกแบบนี้ คุณจะไม่วิตกกังวลกับปัญหา แต่ถ้าเกิดคุณกังวลหรือว่าไปคอยตีโพยตีพายว่า ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับฉัน ก็จะหาทางออกไม่เจอ
34. อยู่กับคนที่คุณมีความสัมพันธ์ดีเพื่อลดความเครียด
วิธีการที่จะช่วยลดความเครียดได้เร็วที่สุด คือการอยู่กับคนที่คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย เช่น เพื่อนหรือว่าครอบครัว แล้วความเครียดจะค่อยๆ ลดลง
35. ชีวิตที่ดีเกิดจากนิสัยเล็กๆ
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่คุณต้องการในชีวิต มันมาจากสิ่งเล็กๆ ที่คุณทำทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นต้องระวัง Habit หรือนิสัยต่างๆ ให้ดี
36. ฝึก Small Talk
Small Talk คือการพูดคุยเรื่องเบาๆ ทั่วไป เทำให้เราสนิทกันมากขึ้นและเร็วขึ้น ดังนั้นการฝึก Small Talk จึงสำคัญมาก
37. มีแผนสำหรับวันหยุด
อย่าปล่อยให้วันหยุดกลายเป็นวันที่นอน ดูซีรีส์ แล้วก็กินของที่ไม่มีประโยชน์ ให้มีแผนสำหรับวันหยุด ซึ่งคุณจะมีแผนในการดูซีรีส์วันหยุดก็ได้ แต่ขอให้วางแผนสำหรับวันหยุดไว้ก่อน เพราะวันหยุดเป็นวันที่เพิ่มพลังชีวิตของคุณ
38. เลือกคนใกล้ตัวให้ดี
เลือกคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณให้ดี โดยเฉพาะเพื่อน เพราะการเลือกคนที่ถูกต้อง จะช่วยสร้างความสุขให้กับชีวิต
39. ระวังเรื่องอาหารการกิน
ถ้าไม่อยากมีปัญหาสุขภาพในระยะยาว ให้ระวังเรื่องของกินจริงๆ สักที เรารู้อยู่แล้วว่าอะไรดีไม่ดี ทุกวันนี้เรามีความรู้เรื่องนี้เยอะกว่าสมัยก่อนเยอะมาก เพราะฉะนั้นให้ระวังเรื่องนี้ให้ดี
40. มี Challenge ให้ตัวเองเสมอ
เช่น สมมุติว่าเราไปวิ่ง เราก็วางแผนว่าต้องวิ่งให้ได้กี่กิโล ในความเร็วเท่าไหร่ เพราะการมี Challenge จะทำให้สมองตื่นตัว แล้วมันทำให้คุณรู้สึกว่าคุณมี Energy หรือพลังที่อยากจะทำอะไรใหม่ตลอดเวลา
ถ้าชีวิตเราไม่มี Challenge เลย เราก็จะใช้ชีวิตแบบ Autopilot ซึ่งก็คงไม่ใช่ชีวิตที่เราอยากจะมีสักเท่าไรนัก
บทความโดย รวิศ หาญอุตสาหะ
#RawitsThought
#LifeAdvice
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
โฆษณา