Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wealthy Thai
•
ติดตาม
7 ชั่วโมงที่แล้ว • หุ้น & เศรษฐกิจ
2 กองรีทโครงสร้างพื้นฐาน DIF-3BBIF ผลงานมั่นคง แถมปันผลทะลุ 10%
ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนเช่นนี้ นอกจากจะเกิดคำถามถึงแนวโน้มการลงทุนในกลุ่มหุ้นทั่วไปแล้ว อาจมีนักลงทุนที่สงสัยว่าในช่วงเวลาแบบนี้ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานยังมีความน่าสนใจและมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแรงพอให้เข้าลงทุนได้หรือไม่ ทำให้วันนี้ Wealthy Thai ได้หยิบยกเอาบทวิเคราะห์ของกองรีทในกลุ่มนี้มาฝากกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีความน่าสนใจไม่น้อยสำหรับนักลงทุนที่เน้นผลตอบแทนจากเงินปันผลเป็นหลัก
โดยบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่มีความผันผวนจากผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว และทิศทางภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่ไม่ชัดเจนจากนโยบายของทรัมป์ โดยคาดว่ากองทุนย่อยโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (Telco Infrastructure Fund หรือ Telco IFF) จะรายงานกำไรปกติรวมที่มั่นคงที่ 1.75 หมื่นลบ. (ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) ในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจาก 1) รายได้ที่มั่นคงจากผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง และ 2) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่น้อยลงจากหนี้และต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
นอกจากนี้ ทั้ง 2 กองทุนยังได้ประกาศสำรองการชำระหนี้ก่อนจ่ายเงินสดให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนมูลค่า 1.36 พันลบ. สำหรับ DIF และ 1.5 พันลบ. สำหรับ 3BBIF ในปี 2568 (เทียบกับ 1.25 พันลบ. สำหรับ DIF และ 1.3 พันลบ. สำหรับ 3BBIF ในปี 2567) ซึ่งบ่งบอกว่าทั้ง 2 กองทุนจะสร้างผลตอบแทนเป็นเงินสดในปี 2568 ที่ 0.86 บาท (อัตราตอบแทนเงินปันผลที่ 11.1%) สำหรับ DIF และ 0.57 บาท (อัตราตอบแทนเงินปันผลที่ 10.1%) สำหรับ 3BBIF
ดังนั้น บล.กสิกรไทย จึงคงมุมมองที่เป็นบวกต่อกลุ่ม Telco IFF เนื่องจาก 1) แผนรายได้ที่มั่นคงซึ่งได้รับจากผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง (TRUE สำหรับ DIF และ ADVANC สำหรับ 3BBIF) 2) เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
และ 3) อัตราผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีในปี 2568-69 และ Market IRR ที่น่าดึงดูดใจ นอกจากนี้ เชื่อว่ากลุ่มธุรกิจนี้จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุแผ่นดินไหวที่ศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. และภาษีศุลกากรขาเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายของทรัมป์ที่ประกาศเมื่อวันที่ 3 เม.ย.
ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” DIF โดยคงประมาณการกำไรปกติปี 2568-70 และราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 8.70 บาท (WACC ที่ 7.6%) ซึ่งหากพิจารณาจากราคาตลาดลดลงมาแล้ว 3.1% (ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.) จึงปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” เนื่องจากมี Upside จากราคาตลาดที่ 11.5% และอัตราตอบจากเงินปันผลปี 2568-69 ที่ 11.1% และ 10.9% โดย ณ ระดับปัจจุบัน คาดว่า DIF น่าจะเสนอ Market IRR ที่ 8.7% ภายใต้ระยะเวลาค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของอายุสัญญาเช่าคงเหลือ (WALE) โดยมีผู้เช่ารายเดียว (TRUE) ที่ 18.4 ปี
ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายโดยอิงตามสัญญาเช่าแบบ No Perpetuity นั้น ประมาณการของบล.กสิกรไทยคาดว่าสัญญาเช่า FOC ของบริษัทฯ จะได้รับการขยายเวลาออกไป พร้อมกับกระแสเงินสดสุทธิที่มั่นคงจนถึงปี 2586 นับจากเดือนกันยายน 2576 นอกจากนี้ คาดว่าสินทรัพย์เสาโทรคมนาคมของบริษัทฯ จะถูกเช่าจนถึงช่วงเวลาเดียวกัน ภายใต้ ARR ที่ลดลง 25% เมื่อเทียบกับระดับปี 2576 (ช่วงก่อนการเจรจา)
อย่างไรก็ตาม หาก DIF สามารถต่ออายุสัญญาเช่ากับ TRUE ภายใต้รูปแบบ Perpetuity ราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 10 บาท โดยมี Market IRR ที่ 10.2% ภายใต้กรณีสัญญาเช่าถูกต่อไปตลอด คาดว่าอัตราค่าเช่าเสาโทรคมนาคมจะลดลงอีก 23% ในปี 2587 และลดลง 40% สำหรับ FOC ที่สอดคล้องกับอัตราค่าเช่าของ 3BBIF ในช่วงเวลาเดียวกัน
อีกทั้งแนะนำ “ซื้อ” 3BBIF โดยคงประมาณการกำไรปกติปี 2568-70 และราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 6.30 บาท (WACC ที่ 6%) คาดว่าบริษัทฯ น่าจะเสนออัตราผลตอบแทนปี 2568-69 ที่ 10.1% และ 10.1% โดย ณ ระดับปัจจุบัน 3BBIF น่าจะเสนอ Market IRR ที่ 6.7% ภายใต้ WALE กับ ADVANC ที่ 13.7 ปี
ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายอิงตามกรณี No Perpetuity (เช่นเดียวกับ DIF) และสัญญาเช่า FOC จะอยู่กับสัญญาหลักกับผู้เช่ารายเดียว (ADVANC) จนถึงเดือน ธ.ค.2581 อย่างไรก็ตาม หาก 3BBIF สามารถต่ออายุสัญญาเช่า สำหรับกรณี Perpetuity โดยมี ARR เริ่มต้นในปี 2582 ที่ 178 บาท/คอร์ กม./เดือน (ลดลง 59% จากระดับปี 2581) มูลค่ายุติธรรมจะอยู่ที่ 7.85 บาท โดยมี Market IRR ที่ 9.2%
เศรษฐกิจ
การลงทุน
หุ้น
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย