21 เม.ย. เวลา 03:29 • ข่าว

โจรชักปืนจ่อลูกและขู่หญิงชาวรัสเชีย ชิงเงิน 3,000 บาท ตำรวจพัทยา ปิดเมืองไล่ล่าคนร้าย จ.ชลบุรี

เมื่อเวลา 20.55 น. วันที่ 20 เมษายน 2568 ร.ต.อ.ปาณสาร ครองสิทธิ์ รองสวป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกคนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ ที่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ซอย 5 พระตำหนัก พัทยาใต้ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจสายตรวจ รีบไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบ นายธีรัช อายุ 59 ปี พลเมืองดี อาชีพขับวินจยย.รับจ้าง ยืนให้การช่วยเหลือหญิงสาวกลุ่มผู้เสียหายเป็น หญิงชาวรัสเชีย 2 คน ลูกอีก 1 คน และสาวชาวไทย อยู่ในอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนคนร้ายพบว่าเป็นชายไทย มีอาวุธปืน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ แต่งกายสวมเสื้อกั๊กสีส้ม ใช้รถจยย. ไม่ทราบยี่ห้อ สี และทะเบียน ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางซอย 6 พระตำหนัก ได้เงินสดไปประมาณ 3,000 บาท ตำรวจจึงแจ้งวิทยุสกัดจับ ก่อนจะพาตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำ ที่ สภ.เมืองพัทยา
สอบถาม นายธีรัช พลเมืองดี เล่าว่า มีสาวผู้เสียหายชาวรัสเชีย ร้องไห้วิ่งหน้าตาตื่นมาขอความช่วยเหลือ โดยบอกว่าถูกคนร้ายขับรถจยย.ปาดหน้า ชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ และกลัวคนร้ายจะทำร้ายลูกที่เดินจูงมือมาด้วยกัน จึงควักเงินจำนวน 3,000 บาทให้คนร้ายไป ก่อนจะขับไปซอยข้างๆ เอาปืนไปจี้หญิงไทยอีกราย แต่โชคดีที่เธอวิ่งหนีทัน ซึ่งจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน
ขณะที่ นายเพชร อายุ 33 ปี พลเมืองดีอีกราย ระบุว่า กลุ่มผู้เสียหายเป็นสาวชาวรัสเชีย 3 คน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 เท่าที่จับใจความจากสาวรัสเซีย พวกเธอวิ่งมาขอความช่วยเหลือที่วิน โดยบอกว่าพวกเธอโดนปล้น คนร้ายใส่เสื้อกั๊กสีส้ม คล้ายเสื้อวินจยย.รับจ้าง มีอาวุธปืน และมีวิทยุสื่อสารเหน็บเอว ซึ่งไม่สามารถจำจดใบหน้าคนร้ายได้ เพราะสวมหมวกกันน็อคเต็มใบปิดบังใบหน้า จังหวะที่จี้นั้นก็เอาปืนจ่อลูก ผู้เสียหายกลัวเลยให้เงินไป 3,000 บาท
เบื้องต้น ตำรวจวิทยุสกัดจับคนร้ายตามรูปพรรณสัณฐาน แต่ก็ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ดี ชุดสืบสวนจะเร่งสอบสวนกลุ่มผู้เสียหายในการปะติดปะต่อเรื่องราวว่าคนร้ายก่อเหตุใครก่อน และจากไหนไปไหน และลงพื้นที่ไปตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด และเส้นทางที่ใช้ในการหลบหนี เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่สุดอุกอาจ และทำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหาย
โฆษณา