21 เม.ย. เวลา 13:00 • การตลาด

Case Study ที่แบรนด์ไทยควรอ่าน ก่อนตัดสินใจจ้าง KOL จีน

👦🏻 มู่เซิน (木森) หนึ่งใน KOL ที่เติบโตจากไลฟ์สายบันเทิงบน Kuaishou (快手) สู่การเป็น “ราชาไลฟ์สด” บน Douyin (抖音) ที่มียอดวิวสะสมกว่า 15.38 พันล้านครั้ง
📊 จุดเปลี่ยนของเขาคือตอนย้ายแพลตฟอร์มจาก Kuaishou มายัง Douyin ในปี 2022 ซึ่งการย้ายแพลตฟอร์มครั้งนี้ทำให้เขาต้องปรับกลยุทธ์ในการไลฟ์สดใหม่ เนื่องจากผู้ใช้งาน Douyin ชอบความบันเทิงมากกว่าการขายของ จึงเกิดไอเดียกลยุทธ์การขายของที่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมของคนดู โดยเขาไม่ได้เปิดไลฟ์มาแล้วขายของทันที แต่กลับทำ “โชว์” ที่ให้คนดูอยากอยู่ต่อ สนุกไปกับบรรยากาศ ก่อนจะค่อย ๆ แทรกการขายเข้าไปในช่วงที่คนดูอินที่สุด
🛒 แทนที่จะเร่งปิดการขายแบบตรงไปตรงมา มู่เซินใช้กลยุทธ์ไลฟ์ก่อนขายทีหลัง โดยจะมีช่วง “有才你就来” เป็นโชว์แบบอลังกาล แล้วใช้จังหวะในช่วงพีคของโชว์ประกาศขายสินค้า และกระตุ้นยอดขายด้วยกิจกรรม เช่น การแจกของรางวัลสำหรับผู้ที่ซื้อภายในเวลาจำกัด เทคนิคนี้ทำให้คนดูไม่ได้ถูกขายของแบบยัดเยียด และเต็มใจกดซื้อด้วยความรู้สึกมีส่วนร่วม
.
🛍️ ที่สำคัญคือ เขาเลือกขายสินค้าที่เลือกขายก็ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเมือง Tier 3–4 พวกของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า อาหาร ราคาจับต้องได้ระหว่าง 50 - 300 หยวน ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่าย
📍 กลยุทธ์ที่ทำให้เขาขายได้ไม่ใช่แค่โชว์หรือกิจกรรม แต่คือความเข้าใจใน “พฤติกรรมคนดู” และ “การเลือกสินค้าที่ใช่” สำหรับคนดูของตัวเอง
🌟 กรณีของมู่เซินเป็นตัวอย่างชัดเจนว่า “KOL ที่ใช่” ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดังในวงกว้าง แต่ต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย รู้ว่าจะสร้างเนื้อหาแบบไหนให้คนอยากดู และรู้ว่าจะขายอะไรให้คนรู้สึกอยากซื้อ ไม่ใช่แค่เห็นแล้วเลื่อนผ่าน ซึ่งก็เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับแบรนด์ไทยที่อยากใช้ KOL จีนให้ได้ผล ไม่ใช่แค่หา KOL ที่มีชื่อเสียง แต่ต้องหา KOL ที่เข้ากับสินค้าคุณและกลุ่มเป้าหมายจริง ๆ
🔎 อ่านต่อฉบับเต็มได้ที่ >>> https://s39digital.com/case-study-kol/
โฆษณา