21 เม.ย. เวลา 11:31 • การตลาด

World Expo 2025 นิทรรศการโลกที่มี Thailand Pavilion ร่วมโชว์

"World Expo 2025" ที่เมืองโอซากา บนเกาะยูเมะชิมะ ประเทศญี่ปุ่น คืออะไร? เริ่มงานวันไหนถึงวันไหน พร้อมสรุปรวมไฮไลท์เด็ด 150+ ที่มี "Thailand Pavilion" ร่วมโชว์ในงาน
"World Expo 2025" งานแสดงนิทรรศการระดับโลก คืออะไร จัดที่ไหน สำคัญอย่างไร จัดวันไหน ถึงวันไหน และในงานมีไฮไลท์สำคัญอะไรบ้าง?
ล้วนเป็นคำถามที่ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมหาข้อมูลมาให้ เพื่อทำความรู้จักนิทรรศการระดับโลกครั้งนี้
ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.expo2025.or.jp ซึ่งเป็นข้อมูลกลางอย่างเป็นทางการของงาน "World Expo 2025" หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า "EXPO 2025 Osaka, Kansai, Japan" ระบุว่า เป็นงานนิทรรศการระดับโลกที่จัดขึ้นภายใต้การกำกับขององค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions - BIE) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นการกลับมาจัดอีกครั้งของเมืองที่เคยเป็นเจ้าภาพถึงสองครั้งในอดีต
World Expo 2025 คืออะไร?
 
World Expo หรือ นิทรรศการโลก เป็นงานแสดงนิทรรศการระดับนานาชาติขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นทุก 5 ปี โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้นำเสนอความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม ศิลปวัฒนธรรม และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาสังคม World Expo มีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปถึงปี ค.ศ. 1851 เมื่อมีการจัดงาน "The Great Exhibition" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นครั้งแรก
สำหรับ World Expo 2025 จะเป็นนิทรรศการโลกครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นที่เมืองโอซากา หลังจากเคยจัดมาแล้วในปี ค.ศ. 1970 และ 1990 โดยการจัดงานในปี 1970 มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นการจัดงาน World Expo ครั้งแรกในทวีปเอเชีย และสร้างสถิติมีผู้เข้าร่วมชมมากกว่า 60 ล้านคน สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างล้นหลามของงานในครั้งนั้น
ในครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมงานประมาณ 28 ล้านคนตลอดระยะเวลา 6 เดือนของการจัดงาน ซึ่งแม้จะน้อยกว่าครั้งแรกที่จัดในปี 1970 แต่ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่มากและสะท้อนถึงความสนใจของผู้คนทั่วโลกที่มีต่องานนี้
ประวัติการคัดเลือกเจ้าภาพ World Expo 2025
 
การแข่งขันเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo 2025 มีความเข้มข้นอย่างมาก โดยมีเมืองที่ยื่นขอเป็นเจ้าภาพถึง 4 เมือง ได้แก่ 1.บากู (ประเทศอาเซอร์ไบจาน) 2.โอซากา (ประเทศญี่ปุ่น) 3.เยคาเตรินบุร์ก (ประเทศรัสเซีย) และ 4.ปารีส (ประเทศฝรั่งเศส) - ถอนตัวในภายหลังเนื่องจากภาระงบประมาณ
การลงคะแนนของสมัชชาใหญ่องค์การนิทรรศการนานาชาติเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2018 มีผลให้โอซากาได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพด้วยคะแนน 85 เสียง ขณะที่เยคาเตรินบุร์กได้รับคะแนน 48 เสียง และบากูได้รับคะแนน 23 เสียง
ความสำเร็จของโอซากาในการได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพนั้นมาจากหลายปัจจัย ทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ประสบการณ์ในการจัดงานระดับโลกมาก่อน และแนวคิดการจัดงานที่มีความโดดเด่นและตอบโจทย์ความท้าทายของโลกในปัจจุบัน
World Expo 2025 จัดที่ไหน?
 
World Expo 2025 จะจัดขึ้นที่ "เกาะยูเมะชิมะ" (Yumeshima Island) หรือ "เกาะแห่งความฝัน" ซึ่งเป็นเกาะเทียมที่สร้างขึ้นจากการถมทะเลบริเวณปากแม่น้ำโยโดะในอ่าวโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
เกาะยูเมะชิมะมีความพิเศษตรงที่เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เกิดจากวิสัยทัศน์ด้านการวางผังเมืองของญี่ปุ่น การเลือกใช้พื้นที่นี้เป็นสถานที่จัดงานยังช่วยกระตุ้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อีกด้วย
พื้นที่จัดงานทั้งหมดมีขนาดประมาณ 155 เฮกเตอร์ หรือ ประมาณ 970 ไร่ และตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Universal Studios Japan และ Osaka Aquarium ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนเที่ยวได้หลากหลายในพื้นที่ใกล้เคียง
การพัฒนาพื้นที่จัดงานมีงบประมาณในการก่อสร้างและเตรียมการจัดงานประมาณ 2.35 แสนล้านเยน (ประมาณ 57,000 ล้านบาท) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของประเทศญี่ปุ่นในการเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้
World Expo 2025 จัดเมื่อไหร่?
งาน World Expo 2025 มีกำหนดการจัดงานดังนี้:
  • วันเริ่มต้น: 13 เมษายน ค.ศ. 2025
  • วันสิ้นสุด: 13 ตุลาคม ค.ศ. 2025
  • รวมระยะเวลา: 184 วัน (6 เดือน)
ช่วงเวลาดังกล่าวครอบคลุมฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีอากาศเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมกลางแจ้ง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติญี่ปุ่นในหลากหลายช่วงเวลา ตั้งแต่ดอกซากุระบานในช่วงเริ่มต้นงาน ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงปลายของการจัดงาน
แนวคิดและธีมหลักของงาน World Expo 2025
 
ธีมหลักของการจัดงาน World Expo 2025 คือ "ออกแบบสังคมอนาคต เพื่อชีวิตคนเรา" (Designing Future Society for Our Lives) ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของผู้จัดงานที่ต้องการให้งานนี้เป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมในอนาคตที่ยั่งยืนและเอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของมนุษย์
ธีมหลักถูกแบ่งออกเป็น 3 แนวคิดย่อย ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญที่ท้าทายสังคมโลกในปัจจุบัน
World Expo 2025 นิทรรศการโลกที่มี Thailand Pavilion ร่วมโชว์
1. Saving Lives - การปกป้องชีวิตของผู้คน
  • มุ่งเน้นประเด็นด้านสุขภาพและความปลอดภัย
  • การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและโรคระบาด
  • การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข
  • ความมั่นคงทางอาหารและน้ำ
2. Empowering Lives - การพัฒนาคุณภาพชีวิต
  • การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  • ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
  • การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม
  • นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของมนุษย์
3.Connecting Lives - ส่งเสริมความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรม
  • การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้คนต่างวัฒนธรรม
  • การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และภูมิปัญญาจากทั่วโลก
  • การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาระดับโลก
  • การใช้เทคโนโลยีเพื่อลดช่องว่างระหว่างผู้คน
งานนี้จะเป็นการรวมตัวของเทคโนโลยีล้ำสมัย นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความคิดสร้างสรรค์จากหลากหลายสาขาเพื่อร่วมกันออกแบบสังคมในอนาคตที่มีความยั่งยืนและเอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของมนุษย์
ประเทศที่เข้าร่วมจัดแสดง
 
World Expo 2025 ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากประเทศและองค์กรระหว่างประเทศทั่วโลก มีการยืนยันการเข้าร่วมจัดแสดงจากกว่า 150 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของงานนี้ในเวทีโลก
ประเทศที่จะมีศาลาของตนเอง (National Pavilion) ในงานมีมากกว่า 35 ประเทศ ได้แก่
1
  • ออสเตรเลีย
  • ออสเตรีย
  • เบลเยียม
  • บราซิล
  • แคนาดา
  • จีน
  • เช็กเกีย
  • ฝรั่งเศส
  • เยอรมนี
  • อินโดนีเซีย
  • ไอร์แลนด์
  • อิตาลี
  • ญี่ปุ่น (ประเทศเจ้าภาพ)
  • คูเวต
  • ลักเซมเบิร์ก
  • โมนาโก
  • เนเธอร์แลนด์
  • โอมาน
  • โปแลนด์
  • โปรตุเกส
  • ซาอุดีอาระเบีย
  • สิงคโปร์
  • สโลวาเกีย
  • สโลวีเนีย
  • เกาหลีใต้
  • สเปน
  • สวิตเซอร์แลนด์
  • ไต้หวัน
  • ไทย
  • เติร์กเมนิสถาน
  • สหราชอาณาจักร
  • สหรัฐอเมริกา
  • อุซเบกิสถาน
นอกจากนี้ยังมีศาลากลุ่มประเทศนอร์ดิก ซึ่งประกอบด้วย เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ และสวีเดน
องค์กรระหว่างประเทศที่เข้าร่วมจัดแสดงในงาน มีดังนี้
  • สหภาพแอฟริกา
  • อาเซียน
  • สหภาพยุโรป
  • กาชาดสากล
  • พันธมิตรสุริยะสากล (International Solar Alliance)
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศ
  • ITER (สถาบันทดสอบเครื่องปฏิกรณ์เทอร์โมนิวเคลียร์นานาชาติ)
  • Pacific Islands Forum
  • สหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศที่ได้ประกาศถอนตัวจากการเข้าร่วมงาน ได้แก่ เอสโตเนีย, เม็กซิโก และรัสเซีย โดยเฉพาะรัสเซียซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้
รูปแบบการจัดแสดงและไฮไลท์สำคัญ
 
การจัดแสดงใน World Expo 2025 จะมีความหลากหลายและน่าตื่นตาตื่นใจ ประกอบด้วย
1. ศาลาประจำชาติ (National Pavilions) - แต่ละประเทศจะมีพื้นที่จัดแสดงเป็นของตัวเอง นำเสนอวัฒนธรรม เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่โดดเด่นของประเทศ ศาลาเหล่านี้มักมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และสะท้อนอัตลักษณ์ของประเทศนั้นๆ
2. ศาลาธีมหลัก (Thematic Pavilions) - เป็นพื้นที่จัดแสดงตามธีมย่อยของงาน ได้แก่ Saving Lives, Empowering Lives และ Connecting Lives โดยจะนำเสนอแนวคิดและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธีมเหล่านั้น
3. เวทีกิจกรรมและการแสดง (Event Stages) - จะมีการจัดกิจกรรมและการแสดงมากมายตลอดระยะเวลา 6 เดือนของการจัดงาน ทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม คอนเสิร์ต และการเสวนาทางวิชาการ
4. พื้นที่นวัตกรรม (Innovation Areas) - เป็นพื้นที่ที่จัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยจากทั่วโลก เช่น ยานพาหนะไร้คนขับ, หุ่นยนต์, พลังงานทดแทน และเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่
5. พื้นที่อาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Areas) - นำเสนออาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก รวมถึงอาหารท้องถิ่นของโอซากาซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "ครัวของชาติ" ในประเทศญี่ปุ่น
6. วันประจำชาติและวันพิเศษ (National Days and Special Days) - แต่ละประเทศที่เข้าร่วมจะมีวันพิเศษของตนเองในงาน โดยจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมและความสำเร็จของประเทศนั้นๆ
ไฮไลท์ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษใน World Expo 2025 ได้แก่
  • นวัตกรรมด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีสีเขียว
  • ความก้าวหน้าทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประยุกต์ใช้
  • เทคโนโลยีการแพทย์และสาธารณสุขสมัยใหม่
  • แนวคิดเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
  • นวัตกรรมด้านอาหารและความมั่นคงทางอาหาร
  • เทคโนโลยีอวกาศและการสำรวจอวกาศ
การเข้าชมงาน World Expo 2025
 
ราคาตั๋วเข้าชมงาน World Expo 2025 มีหลายระดับ ดังนี้
  • ตั๋วผู้ใหญ่ (จำหน่ายหน้างาน): 7,500 เยน (ประมาณ 1,650 บาท)
  • ตั๋วผู้ใหญ่ (ซื้อล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์): ลด 20-40% จากราคาหน้างาน
  • ตั๋วเด็กและผู้สูงอายุ: มีราคาพิเศษสำหรับกลุ่มนี้
  • ตั๋วเข้าชมหลายวัน มีให้เลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชมงานหลายวัน
  • ตั๋วกลุ่ม มีส่วนลดพิเศษสำหรับการซื้อตั๋วเป็นกลุ่ม
การเตรียมความพร้อมในการซื้อตั๋วล่วงหน้ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและเทศกาลสำคัญของญี่ปุ่น
สำหรับ "การเดินทางไปยังงาน World Expo 2025" เกาะยูเมะชิมะ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน World Expo 2025 ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโอซากา ทำให้มีความสะดวกในการเดินทาง มีวิธีการเดินทางไปยังงานดังนี้
การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX)
  • รถไฟด่วน ใช้เวลาประมาณ 50-60 นาที
  • รถบัสรับส่งโดยตรง จะมีบริการพิเศษในช่วงจัดงาน
การเดินทางจากสถานีโอซากา (Osaka Station)
  • รถไฟ มีการขยายเส้นทางรถไฟเพื่อรองรับการเดินทางไปยังเกาะยูเมะชิมะโดยเฉพาะ
  • รถบัส มีบริการรถบัสรับส่งจากสถานีหลักในโอซากา
การเดินทางจากเมืองใกล้เคียงในภูมิภาคคันไซ
  • เกียวโต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง
  • โกเบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
  • นารา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง
ท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซเชื่อม World Expo 2025
 
การเยี่ยมชมงาน World Expo 2025 ยังเป็นโอกาสดีในการท่องเที่ยวและสำรวจภูมิภาคคันไซ ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในภูมิภาคคันไซ มีดังนี้
ในโอซากา
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาทีจากโอซากา
  • ปราสาทโอซากา (Osaka Castle) - ปราสาทประวัติศาสตร์ที่มีอายุกว่า 400 ปี
  • ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) - ย่านช้อปปิ้งและร้านอาหารที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโอซากา
  • Universal Studios Japan - สวนสนุกระดับโลกที่ได้รับความนิยมสูง
  • อควาเรียมโอซากา (Osaka Aquarium Kaiyukan) - หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในเกียวโต
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาทีจากโอซากา
  • วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji) หรือ วัดทอง - วัดที่มีชื่อเสียงด้านความงดงามของอาคารหลักที่ปิดทองทั้งหลัง
  • วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) - วัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและมีระเบียงไม้อันเป็นเอกลักษณ์
  • ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) - ศาลเจ้าที่มีอุโมงค์ประตูโทริอิสีแดงนับพันตัว
  • ย่านกิออน (Gion) - ย่านเกอิชาดั้งเดิมที่ยังคงรักษาบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ
ในนารา
 
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาทีจากโอซากา
  • สวนนารา (Nara Park) - สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีกวางเดินอย่างอิสระ
  • วัดโทไดจิ (Todai-ji) - วัดที่มีอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นที่ประดิษฐาน# World Expo 2025: งานแสดงนิทรรศการระดับโลกที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ World Expo 2025 สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ทางการของงาน www.expo2025.or.jp/en
โฆษณา