สมเด็จพระสันตะปาปา vs ทรัมป์: เมื่อกำแพงแบ่งแยกวาติกันและทำเนียบขาว
Pope Francis vs Trump: A Wall Divided Vatican and the White House
📌 สรุปเนื้อหาโดยละเอียด:
🕊️ จุดเริ่มต้นของความเห็นต่าง
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis) พระสันตะปาปาเชื้อสายลาตินอเมริกาคนแรกของโลก เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2025 ขณะมีอายุ 88 ปี โดยตลอดสมัยดำรงตำแหน่ง ทรงเน้นการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย LGBTQ+ และวิจารณ์แนวนโยบายฝ่ายขวาอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดความขัดแย้งกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีแนวทางเข้มงวดด้านการตรวจคนเข้าเมืองและอนุรักษ์นิยมอย่างชัดเจน
🧱 กำแพงที่ขัดแย้ง
ทรัมป์เคยชื่นชมพระสันตะปาปาในช่วงต้นของการดำรงตำแหน่ง แต่ความเห็นต่างก็ปะทุขึ้นในปี 2016 เมื่อทรัมป์เสนอสร้างกำแพงชายแดนสหรัฐฯ เพื่อสกัดผู้อพยพ ซึ่งพระสันตะปาปาออกมาวิจารณ์ว่า “การสร้างกำแพงแทนการสร้างสะพานนั้น ไม่ใช่คริสเตียน” ทรัมป์โต้กลับทันทีว่า "ไม่สมควรที่ศาสนจักรจะตัดสินศรัทธาของผู้อื่น"
✝️ จากความเงียบสู่การประณาม
แม้จะมีการพบกันในปี 2017 แต่ความแตกแยกก็กลับมาชัดเจนในวาระที่ 2 ของทรัมป์ ซึ่งใช้วาทกรรมต่อต้านผู้อพยพอย่างหนัก พระสันตะปาปาได้ส่งจดหมายถึงกลุ่มบาทหลวงในอเมริกา วิจารณ์ว่า "การเนรเทศผู้ลี้ภัยที่หนีภัยยากจนหรือภัยพิบัติ คือการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์"
📜 ศีลธรรม vs นโยบายแห่งรัฐ
JD Vance รองประธานาธิบดีและคาทอลิกใหม่ ใช้หลัก “ordo amoris” จากเทววิทยาในการสนับสนุนนโยบายทรัมป์ โดยอ้างว่าต้องให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวและชาติเป็นลำดับแรก แต่พระสันตะปาปาตอบโต้ว่า การกระทำเช่นนี้ "สร้างจากอำนาจ ไม่ใช่ความจริงและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันของมนุษย์"
🧱 วาทกรรมกำแพงของวาติกัน
Tom Homan เจ้าหน้าที่ด้านชายแดนโต้กลับว่า "วาติกันก็มีกำแพง และผู้ที่ลอบเข้าไปโดยผิดกฎหมายจะถูกจับทันที" พร้อมกล่าวหาโป๊ปว่าไม่ควรแทรกแซงการเมือง และควร “สะสางเรื่องภายในศาสนจักรให้เรียบร้อยเสียก่อน”
🧑🤝🧑 ประเด็น LGBTQ+ และมนุษยธรรม
ความขัดแย้งขยายไปถึงการเรียกร้องสิทธิให้ LGBTQ+ และแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย โดยมีนักบวชชั้นสูงในสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยถึงทรัมป์ให้มีเมตตาต่อชุมชนเหล่านี้ ทรัมป์ไม่พอใจและโจมตีกลับว่าเป็น “ซ้ายจัดที่เกลียดทรัมป์”
🌍 การตัดงบ USAID และการแต่งตั้งผู้นำคาทอลิกสายต้านทรัมป์
วาติกันคัดค้านแผนตัดงบ USAID ของทรัมป์ ซึ่งกระทบต่อองค์กรคาทอลิกทั่วโลก และยังแต่งตั้งผู้นำศาสนาคาทอลิกคนใหม่ในวอชิงตัน ที่เคยเรียกร้องให้ "ขัดขวางการเนรเทศผู้อพยพ" ในสหรัฐฯ
🇹🇭 วิเคราะห์ผลกระทบต่อไทย:
🧭 การท้าทายนโยบายอพยพสหรัฐฯ อาจส่งสัญญาณการปรับขั้วทางอุดมการณ์โลก
เมื่อผู้นำศาสนาคริสต์ระดับสูงออกมาต้านแนวนโยบายแบบอเมริกันชน (America First) โดยตรง ทำให้โลกจับตามองว่า ประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ อาจกลายเป็นเวทีใหม่ของการต่อสู้ทางอุดมการณ์ ซึ่งรวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย โดยเฉพาะไทยที่มีความสัมพันธ์เชิงเศรษฐกิจและความช่วยเหลือกับทั้งสหรัฐฯ และองค์กรศาสนานานาชาติ
💹 ผลกระทบต่อหุ้นไทยในตลาดหลักทรัพย์:
📉 หุ้นกลุ่มการแพทย์และการศึกษาเพื่อมนุษยธรรม
หุ้นอย่าง BDMS, BH, CHG, LPH ที่รับผู้ป่วยต่างชาติและมีพันธกิจร่วมกับองค์กรศาสนาหรือ NGO ด้านสาธารณสุข อาจได้รับผลกระทบทางอ้อม หากนโยบายของฝ่ายขวาสหรัฐฯ ขยายตัวอีกครั้ง เช่น การตัดงบช่วยเหลือสุขภาพข้ามชาติ หรือการระงับโครงการร่วมมือในเอเชีย
📚 หุ้นกลุ่มการศึกษา-สื่อความรู้ อย่าง SE-ED, MACO (แม้ MACO จะถูกเพิกถอนแล้วก็ตาม แต่บริษัทในเครืออื่นๆ ที่ยังอยู่ในธุรกิจสื่ออาจได้รับผลกระทบคล้ายกัน) อาจได้รับผลกระทบทางภาพลักษณ์จากแนวนโยบายที่ลดบทบาทองค์กรศาสนาในกิจกรรมการส่งเสริมมนุษยธรรม เช่น การรณรงค์เพื่อ LGBTQ+ หรือผู้อพยพ
🧾 หุ้นโลจิสติกส์และประกันภัย อย่าง WICE, TTA, BKIH ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับตลาดประกันผู้อพยพและขนส่งต่างชาติ อาจได้รับผลกระทบจากภาพลักษณ์เชิงลบของผู้อพยพในระดับโลก
🏷️ Hashtags:
#PopeFrancis #DonaldTrump #VaticanVsWhiteHouse #ผู้อพยพ #กำแพงไม่ใช่คำตอบ #ศาสนาและการเมือง #SuperpowerStage #WorldScope #สิทธิมนุษยชน #LGBTQRights #USAID #นโยบายทรัมป์ #ข่าวหุ้นไทย
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
