เมื่อวาน เวลา 20:03 • ข่าวรอบโลก

หากสงครามการค้ายืดเยื้อ ไทยอาจเผชิญภาวะถดถอย

การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนในระยะสั้น "แทบเป็นไปไม่ได้" เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยึดจุดยืนแข็งกร้าว สงครามการค้าอาจนำไปสู่การแบ่งโลกออกเป็นสองขั้ว กลุ่มที่ค้าขายกับสหรัฐฯ และกลุ่มที่ค้าขายกับจีน ประเทศอาเซียน รวมถึงไทย อาจต้องเลือกข้างหรือรักษาความเป็นกลางอย่างยากลำบาก
ภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นจะทำให้ราคาสมาร์ทโฟน (เช่น iPhone, Samsung), คอมพิวเตอร์, และเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยแพงขึ้น 10-20% เนื่องจากไทยนำเข้าสินค้าเหล่านี้จากจีนและสหรัฐฯ. ตัวอย่างเช่น ราคา iPhone 16 Pro อาจเพิ่มจาก 39,900 บาท เป็น 45,000-48,000 บาท สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เนย, ชีส, ผลไม้แห้ง ไวน์, วิสกี้ จะมีราคาสูงขึ้น ราคาน้ำมันอาจผันผวนจากความกังวลเรื่องอุปสงค์ที่ลดลงและการที่จีนอาจจำกัดการส่งออกส่วนประกอบที่ใช้ในโรงกลั่นน้ำมัน ราคาน้ำมันในไทยอาจสูงขึ้น 2-5 บาทต่อลิตร
การที่ราคาสินค้าสูงขึ้นจะทำให้เงินเฟ้อในไทยเพิ่ม 2.5-3% ซึ่งจะกระทบกำลังซื้อของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง หากการค้าชะลอตัว โรงงานในภาคอุตสาหกรรม (เช่น นิคมอุตสาหกรรมในชลบุรี, ระยอง) อาจลดกำลังการผลิตหรือเลิกจ้างงาน คาดว่าอัตราการว่างงานอาจเพิ่ม 1.5-2% ในปี 2025
แนวโน้มระยะสั้น (3-6 เดือน) อาจมีการตอบโต้เพิ่มเติม เช่น การคว่ำบาตรเทคโนโลยีหรือการจำกัดทรัพยากร. คนไทยจะเริ่มเห็นราคาสินค้าสูงขึ้น แนวโน้มระยะกลาง (1-2 ปี) หากสงครามการค้ายืดเยื้อ ไทยอาจเผชิญภาวะถดถอย โดยเฉพาะในภาคส่งออกและการท่องเที่ยว
ผู้บริโภคลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าโดยหันไปใช้สินค้าไทยหรือแบรนด์ท้องถิ่น. เตรียมงบประมาณสำหรับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และเลี่ยงการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ในช่วงที่ราคายังผันผวน
ผู้ประกอบการ ปรับกลยุทธ์โดยมองหาตลาดใหม่ เช่น อินเดียหรือตะวันออกกลาง และลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากจีน. ผู้ค้าออนไลน์ควรสำรวจซัพพลายเออร์ในประเทศหรืออาเซียน
โฆษณา