22 เม.ย. เวลา 02:18 • ไลฟ์สไตล์
..จะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ ภพชาติ ..กายนี้ ก็เป็นภพเป็นชาติ เปลี่ยนแปลงเรื่อยมาตั้งแต่เกิด จากรูป ทารก ..เป็นรูปเด็ก เป็นรูปหนุ่มสาว เป็นรูปเจ็บรูปป่วย รูปแก่เฒ่า ชราตาย .รูปกายนี้ สลายจากโลก ได้ทุกรูป เหมือนละลายสูญหาไป
..เมื่ออยู่ร่วมกัน ชาติปัจจุบัน ก็ใช้กายวาจาใจ ที่ดี ที่ว่าเข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจ ในเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย .ใช้สิ่งดี กิริยาดีๆ .ต่อกันดีกว่า..เพราะจิตออกจากร่าง ต่างคนต่างไป ที่ชอบๆๆ..ไม่เจอะเจอกันอีก .
..เรื่องภพชาติ อย่างที่เราอยู่ปัจจุบันนี้ เราก็มาอยู่ร่วมกันชั่วขณะหนึ่ง เหมือนเช้ามาก็จากบ้าน จากพ่อแม่ จากคนในครอบครัว จากคนที่เรารัก ออกไปทำงาน ไปเจอคนนั้นคนนี้ คนที่ทำงาน เย็นก็กลับบ้าน เจอะเจอรถติด แวะที่นั้นที่นี้ บ้างก็แวะไปเที่ยว ถึงบ้าน ก็เหลือเวลานิดเดียว เจอะเจอคนในบ้าน บางที่ก็ไม่เจอกันเพราะเค้าหลับกันแล้ว
..ตื่น..เช้ามา ..ก็พลัดพราก ออกไปทำงาน วนเวียนอย่างนี้ บางคนออกจากบ้าน ก็ไปหมดลมตาย ไม่กลับบ้านเสียงั้น นี่ขาดิอยู่ชาติปัจจุบัน แม้ที่เขียนเรื่องราวในBD คนนั้นคนี้มาอ่าน เราก็ไม่เคยเห็นเจอะเจอกัน .
คราวนี้ ถึงคราวเปลี่ยนแปลง ..ภพชาติ ชาติที่เปลี่ยนแปลง เมื่อจิตออกจากร่าง ..บ้างมีเงินมีทอง ..ขันธ์ห้าเปลื่ยนแปลง เป็น..ผู้ที่ยิ่งใหญ่ รูปร่างสูง เท่าต้นตาล ..ที่เปลี่ยนแปลงเลยทันทีก็มี ..บ้างก็ล่องลอยเป็นโอปปาติกะ ยิ่งตายโหง ..ก็นอนร้องครวญครางที่นั้น ผูกคอตาย ..ก็อยู่ที่นั้น เพราะตายก่อนอายุขัยกรรมตัดรอน .. มันไม่เหมือนละคร ที่เค้าจินตนาการ
เรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงรูป ไปอยู่รูปต่างๆ เอาเฉพาะที่ตาเห็น มันก็มีรูปมากมายนับไม่ได้ จิ้งจก ตุ๊กแก งูเงี้ยว หมูหมา กาไก่ ..พอนึกถึงไก่ ไปงานศพงานหนึ่ง พอพระให้พร อุทิศให้คนตาย ..ปรากฏเป็นภาพไก่ ..ออกวิ่งออกไป ..เราก็ไปถามพระ ว่า คนตายจะได้สังกรรม เป็นไก่ ..ใช่มั้ย ..ท่านก็บอกว่า คงไปอย่างนั้น ..ก็ให้ดูนิสัย ที่เค้าชอยใช้วาจา ..อะไรบ้าง ชอบชอนไช ใช้วาจาเอารัดเอาเปรียบ ..ทำมาหากิน ..ก็ต้องไปอยู่อาศัย สังขารกรรม มีปากคุ้ยเขี่ย หากิน
..คนเรานั่น มาเจอเจอกัน ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น เมื่อยังอาศัยชาติปัจจุบัน มีกายเป็นมนุษย์ พอจิตออกจากรูปที่อาศัย ..ก็แยกย้ายกับที่ชอบๆ ไปท่องเที่ยวแต่ละที่นานๆๆๆ อาศัย นรกบ้าง เปรตบ้างอนุรกายบ้าง ท่องเที่ยวในรูปกรรมต่าง ก็สร้างกรรม สะสมกรรมที่อาศัยรูปนั้น เกิดได้รูปเสือสิง เพราะความดุดัน ก็ได้รูแเสือสิง มีปากมีเขี้ยว เข่นฆ่า สัตว์อื่น กินกันสดๆ ไม่มีคกว่าเมตตาปราณี
แล้วหากเราได้เห็นบ้าง ตามที่ต่างๆ นั้น ก็มีจิตเร่ร่อนมากมาย ที่ยังไม่มีรูปอาศัย ..ทุกข์ทรมาน .หิวโหย .. พวกที่ว่าเป็นมนุษย์มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ตายแล้วก็ทิ่งไว้ในโลก ให้คนอื่นใช้ .อย่า่วดี เค้าก็ทำบุญให้ไม่กี่วัน บางดวงจิต ก็รับบุญไม่ได้ ..เพราะตอนอยู่เป็นคนก็ไม่รู้จักบุญกุศลเลย
เหมือนที่ว่าบางคน เวลาเค้าสวดมนต์ ทำบุญทำทาน ก็เห็นเป็นเรื่อวไร้สาระ ดูถูกดูแคลนคนที่เค้าสร้างบุญกุศล พอถึงคราวจำเป็นไม่มีกาย สิ่งที่ตนสะสม ไม่สนใจบุญ ก็ทำให้ไม่รู้จักบุญ บางคนจิตออกจากร่าง ..ร่างยังไม่เปลี่ยนแปลง ก็ทักคนนั้นคนนี้ แต่ก็ไม่มีใครคุยด้วย พระสวดมนต์ ตั้งศพ รูปตัวเอง ..เค้าก็ไม่เห็น .ยังไม่รู้ตัวว่าตาย จะไปรู้ตัวว่าตาย ก็ตอนเค้าเปิดโลง ก่อนเข้าเตาเผา ..โอ้ว ตายแล้วหรือเนี่ย .พอรู้ตัวตาย ก็เปลี่ยนรูป.. เปลี่ยนขันธ์ห้า
ส่วนที่ผู้ที่สะสม บุญกุศลบารมี พอจิตถึงเวลา ก็มีคนมารับ มีพระที่เรานับถือ ที่เราอาราธนาท่านอยู่ต่อ มีครั้งนั้น ท่านบอกว่า เค้าบอกฉันว่า ต้องละสังขาร เราก็รีบอาราธนา ..ครั้งนั้น ท่านบอกว่าฉันก็นอนบนเตียง เค้ามากันเป็นขบวนยาว มีราชรถมา ..มากันเป็นขบวน ..ท่านก็บอกว่า เค้าเชิญขึ้นราชรถ ..แต่ท่านก็อยู่เฉยๆ ..ท่านบอกว่า ..แค่ไปยินดี ที่เค้าเอาราชรถมารับ จิตก็ออกจากร่างตามเค้าไปเลย
เรื่องทั้งหมด ก็เหมือนว่า ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไป ..ไปได้หลากหลายเส้นทาง ..ทางที่ชอบๆ .ชอบใช้นิสัยกายวาจาใจอย่างไร ก็ไปตามนิสัยที่ชอบใช้ ..คำว่านิสัยเวรกรรมนั้น มันเป็นของใครของมัน ..แก้ไขให้กันไม่ได้เลย
โฆษณา