22 เม.ย. เวลา 11:30 • ข่าว

เปิดปฏิบัติการ "MONEY Cash Back" รวบ 4 บัญชีม้า ยึด 2 ล้านคืนให้คุณตาวัย 81

ตร.ไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ "MONEY Cash Back" รวบ 4 บัญชีม้า ยึด 2 ล้าน คืนให้คุณตาวัย 81 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินเกลี้ยงบัญชี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 ร่วมแถลงเปิดปฏิบัติการ "MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน" รวบ 4 บัญชีม้า ยึดเงิน 2 ล้าน คืนผู้เสียหาย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ภิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ บช.สอท. ปราบปรามปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเน้นมาตรการเชิงรุกในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้องในลักษณะของการเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อใช้ในการก่อเหตุหลอกลวงประชาชน ตามโครงการ "Money Cash Back ปิดบัญชีตามล่าม้า คว้าเงินคืน"
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 67 มีผู้เสียหายเป็นคุณตา อายุ 81 ปี ชาว จ.นนทบุรี อดีตพนักงานฝ่ายช่างซ่อมบำรุง ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ติดต่อ โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ใช้อุบายว่าทางผู้เสียหายได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเซ็นทรัล พิษณุโลก โดยบัญชีดังกล่าวไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดการฟอกเงิน ซึ่งมีนักศึกษาถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหาย จำนวน 450,000 บาท เป็นผลให้นักศึกษาเสียใจจนฆ่าตัวตายอย่างน่าเศร้าใจ
จากนั้นคนร้ายให้ผู้เสียหายแอดไลน์ชื่อบัญชี "สภ.เมืองพิษณุโลก" เพื่อให้ติดต่อในเรื่องคดีกับเจ้าหน้าที่ ปปง. ทางผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้แอดไลน์ จากนั้นคนร้ายได้ส่งหมายศาลหมายตำรวจ และบัตรเจ้าพนักงานตำรวจ โดยกำชับห้ามเปิดเผยความลับ หรือแจ้งบุคคลใกล้ตัว เนื่องจากเป็นความลับทางราชการ ซึ่งทางผู้เสียหายหลงเชื่อสนิทใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ปปง. จริง จึงไม่ได้บอกหรือแจ้งให้บุคคลใกล้ตัวที่ไว้วางใจทราบเรื่อง
โดยคนร้ายแจ้งผู้เสียหายว่า หากไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ให้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการโอนเงินเพื่อตรวจสอบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินดังกล่าวจริง เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วจะทำการโอนเงินคืนทันที
โดยคนร้ายมีลักษณะพูดข่มขู่อย่างต่อเนื่องไม่ยอมให้วางสาย และให้ขังตัวเองไว้ห้องตามลำพังนาน 4 วัน หากไม่ยอมโอนเงินมาให้ตรวจสอบจะต้องถูกดำเนินคดี ทำให้ผู้เสียหายมีอาการจิตตกเกิดความหวาดกลัว จนหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีต่าง ๆ ตามที่ทางคนร้ายส่งหมายเลขบัญชีมาให้รวม 4 ครั้ง จนหมดเกลี้ยงบัญชี รวมเป็นเงินจำนวน 4,400,000 บาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงรู้ตัวว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาหลอกลวง ก่อนผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า หลังได้รับข้อมูลจากผู้เสียหาย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 พร้อมชุดสืบสวน จึงทำการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในลักษณะของการเปิดบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้รองรับการโอนเงินจากเหยื่อรายนี้ จำนวน 5 ราย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับผู้กระทำผิดทั้ง 5 ราย
โดยติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.ศศธร ตากิ่มนอก อายุ 34 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 559/2568 ติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ นายวิทิตย์ เพ็ชรรินทร์ อายุ 52 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 560/2568 ติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ย่านคลองตัน กรุงเทพฯ
นายธนกร แก้วทา อายุ 22 ปี ชาว จ.นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 561/2568 ติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และนายอภิรักษ์ ด้วงสวัสดิ์ อายุ 20 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 558/2568 ติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ส่วนที่เหลืออีก 1 รายอยู่ระหว่างการติดตามตัว
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การยอมรับสารภาพว่าได้เปิดบัญชีขายให้กับนายหน้าที่รับซื้อบัญชีธนาคาร เพื่อขายต่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในบัญชีละ 3 พันบาท
จึงดำเนินคดีในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี"
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ทางชุดสืบสวนได้ตรวจสอบและทำการระงับธุรกรรมบัญชีม้าทั้ง 4 บัญชี โดย 1 ใน 4 บัญชี ซึ่งเป็นของ นายอภิรักษ์ ยังมียอดเงินค้างในบัญชี จำนวน 2 ล้านบาท โดยประสานให้ทางธนาคารติดต่อไปยังเจ้าของบัญชีแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ ทำให้เชื่อได้ว่าบัญชีดังกล่าวถูกใช้เป็นบัญชีม้าในการก่อเหตุ
จากการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินในบัญชี พบว่าเป็นเงินของผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี โดยเงินที่อายัดได้นั้น ทางตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการมอบคืนเป็นเช็คเงินสด 2 ล้านบาทให้กับผู้เสียหาย
โฆษณา