เมื่อวาน เวลา 13:58 • ความคิดเห็น
เรื่องศึกสงคราม เมื่อจะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ ..จนมาถึงคำว่า สงครามรุกรานกัน ..เราชอบกษัตริย์ ชายเชื้อชาตชาติรี่ เชื่อกษัตริย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ท่าน พูดกับ มหาอุปราช .เราสองคน ต่างเป็นชายชาติเชื้อกษัตริย์ เราสองคนมา ชนช้างยุทธหัตถีกัน ไม่ต้องทำไพร่พลเดือดร้อน ..เราแพ้ท่านก็เอาบ้านเมืองเราไป ท่านแพ้ ก็กลับบ้านท่านไป .เราชอบในปฏิภาณไหวพริบของพระนเรศวร ในการแก้ปัญหา เฉพาะหน้า .แล้วยุคสมัยนี้ นิสัยลูกผู้ชายชาตรี นั้นก็หายาก เป็นชายไม่สมชายก็มาก เหมือนวัตถุเจริญ ตัดต่อพันธุกรรมได้
เรื่องสงคราม ..เรื่องของพระเจ้าอโศก ..เราเคยถามพระที่นับถือ ว่า พระเจ้าอโศก ท่านทำสงครามเข่นฆ่า คนมากมาย ท่านไม่ตกนรกหรือ ทำไมท่านถึง จะไปเป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า ..พระท่านตอบว่า ท่านลงมาทำหน้าที่ ปราบคนชั่ว ปราบสำเร็จ ท่านเอาเอาเรื่อวพระศาสนา มาส่งเสรืมให้คนสร้างบุญกุศล ให้รู้จักกรรม ทะนุบำรุงศาสนาขึ้นมา เรื่องราวแบบนี้ มันก็เป็นเรื่องราวแปลกในแต่ละยุคสมัย ..แต่ยังไง เราก็ได้อานิสงส์จากการกระทำของพระเจ้าอโสก .ช่วยให้เร่ได้เกิดมา พบพระศาสนา
ยุคสมัยนี้มันเปลี่ยนแปลงไปมาก เจริญทางวัตถุมากๆ กว่าจะพัฒนา อาวุธมาเข่นฆ่ากันตายได้ ก็ใข้เวลา กว่าจะทำให้ ยิงนัดเดียว ตายกันยกเมือง .เค้ามีแต่คนฉลาด ..ส่วนเราไม่ฉลาด ..เราก็อยู่ของเรา ถึงคราวตาย ก็ให้ตาย .แบบตูมเดียว หายไปเป็นผงธุลี ก็ดีเหมือนกัน . เค้าเรียกว่า กรรมติดรากแห ไปกับเค้า . เรื่อวอาวุธ เรื่องสงคราม นั้นที่พัฒนามาได้ ขั้นนั้น มาจากคนฉลาดกันทั้งนั้น คนโง่..มันทำไม่ได้หรอก
..ในโลกนี้ มันก็มีเรื่อง คนฉลาด..สร้างแต่กรรม แต่คนโง่ มองดูลึกๆ กลับฉลาด หลบหลีก.ไม่สร้างกรรม ไปดู ..เจ้านายกับลูกน้อง พอลูกน้อง ทำไม่ถูกใจ ไม่ได้ดัง ..เจ้านายพูดดีๆมั้ย มีอารมณ์กรรมอะไรบ้างที่เกิดขึ้น ที่คนเก่งฉลาดแสดงออกมา ..ส่วนลูกน้อง ก็ทน .ครับท่าน ครับนาย ..ใครล่ะกำลังที่เกดิมีกรรมเผาผลาญตัวเอง..
เรื่องหนึ่งที่ชอบ ก็เรื่องราวมหาภารตะยุทธ ..เรื่องราวเหล่านี้ มันวนเวียนซ้ำอยู่กับ เจริญวัตถุ เจริญจิตวิญญาณ โลกเจริญมันมีสองคำ แล้วก็เสื่อมถอย หักล้างทำลาย คนรู่นต่อไป ก็สร้างอารยธรรมกันใหม่ .มันมาตามยุคสมัยของโลก ทีจิต เกิดมาอาศัยโลก ในแต่ละช่วง บางช่วงก็ยึดเรื่องวัตถุเป็นใหญ่
บางช่วงก็ไม่สนใจวัตถุเป็นใหญ่ สนใจเรื่องจิตวิญญาณ ให้กายใจสุข มีคุณธรรม จริยธรรม ..ล้วนเป็นเรื่องนามธรรม จับต้องไม่ได้ เหมือนวัตถุ ..เอาเรื่องจิตใจเป็นใหญ่ ..เรื่องความจริงใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไป ..แต่ก็มีกรอบกติกา ในคำว่าคุณธรรมเป็นใหญ่
ยุคนี้ เรื่องราวของการเก็บจิต .เค้ามีเรื่องราว ทำให้มีสงคราม เก็บจิตมนุษย์ไป คราวละมากๆ อีกทั่ง มันก็ดำเนินมา ถึงยุคน้ำแข็งขั้วโลกละลาย หินให้พิภพละลาย .ลมฟ้าอากาศก็แปรปรวน วิปริต เหมือน คนเราตามยุคสมัย ..มีคนเค้าบอกว่า ที่โลกมันร้อน กเพราะอารมณ์ของคน ที่มันแผดกาย ลอยเป็นอณูขึ้นไปในอากาศ เป็นเหมือนเขม่า สีดำสีม่วง ล่องลอยปกคลุม ทั้งมนและสัตว์ในโลก ..โลกมันร้อน มนุษย์ก็ไม่ร่มเย็นเป็นสุขได้ ..
โฆษณา