23 เม.ย. เวลา 05:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.63 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก”

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.63 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” ตลาดเริ่มคลายกังวลประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนลงบ้าง
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.63 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.23 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องทะลุโซนแนวต้าน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 33.18-33.70 บาทต่อดอลลาร์) หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มคลายกังวลประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนลงบ้าง
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.63 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” .
จากคำสัมภาษณ์ของทั้งรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดยังลดความกังวลต่อประเด็นการเมืองเข้าแทรกแซงการทำงานของเฟด ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเช่นกัน โดยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับจังหวะการปรับตัวลงแรงของราคาทองคำ ได้กดดันให้ เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องจนทะลุโซนแนวต้าน 33.50 บาทต่อดอลลาร์
แนวโน้มของค่าเงินบาท
การอ่อนค่าลงเร็วและแรงของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น อาจเริ่มชะลอลงได้บ้าง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วน อย่าง ฝั่งผู้ส่งออกต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุโซน 33.50 บาทต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ เรามองว่า บรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มคลายกังวลประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อาจส่งผลดีต่อทิศทางสินทรัพย์เสี่ยงฝั่งเอเชีย ด้วยเช่นกัน สะท้อนผ่าน การทยอยแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินหยวนจีน ในช่วงเช้านี้ (เงินหยวนจีน ยังคงเคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินบาท สูงถึง 80% เมื่อประเมินจาก 30-day correlation)
และที่สำคัญ หากราคาทองคำรีบาวด์สูงขึ้นบ้าง หรือแกว่งตัวในกรอบ Sideways เป็นอย่างน้อย ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท หรือกลับมาหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้ หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี แรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทก็ยังมีอยู่ โดยเงินดอลลาร์ยังมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นต่อได้ หากผู้เล่นในตลาดกลับมามีความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งต้องรอลุ้น รายงานดัชนี S&P PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ในคืนนี้ ว่าจะออกมาดีกว่าคาด หรือ ปรับตัวดีขึ้นจากรายงานครั้งก่อนได้หรือไม่ ส่วนโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับบรรดานักลงทุนต่างชาติก็ยังคงมีอยู่ และจะทยอยเพิ่มสูงขึ้น ทำให้การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็เป็นไปอย่างจำกัดได้เช่นกัน
เราประเมินว่า โซนแนวต้านใหม่ของเงินบาทอาจขยับมาอยู่แถว 33.70-33.80 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนโซนแนวรับอาจอยู่ในช่วง 33.30-33.40 บาทต่อดอลลาร์
ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในช่วงปีหน้าที่จะเผชิญกับ Trump’s Uncertainty ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.40-33.65 บาท/ดอลลาร์
ด้าน กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.40-33.65 บาท/ดอลลาร์ ค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็วช่วงข้ามคืน
  • หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าจะไม่ปลดนายเจอโรม พาวเวลล์ ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มทุเลาลง โดยถึงแม้ว่าจะยังไม่เริ่มการเจรจา แต่เชื่อว่ามีโอกาสทำข้อตกลงระหว่างกันได้ IMF
  • และปรับลดคาดการณ์เศรฐกิจโลกในปีนี้ลงจาก 3.3% มาที่ 2.8% และลดปีหน้าลงเหลือ 3.0% โดยสงครามการค้าทำให้โอกาสเกิด Recession ในเศรษฐกิจหลักมีมากขึ้น
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/246834
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา