24 เม.ย. เวลา 14:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

โรงงานเหล็กจีนจ่อหนีไทย หลังกระทรวงอุตฯเตรียมยกเลิกเตาหลอม IF

โรงงานเหล็กจีนกว่า 14 แห่งจ่อหนีไทย เหตุกระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมยกเลิกเตาหลอมเทคโนโลยี IF หลังควบคุมคุณภาพการผลิตไม่ได้
กระทรวงอตสาหกรรมโดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ได้ลงนามในคำสั่งให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) บรรจุวาระเพื่อพิจารณาทบทวนให้ยกเลิกการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเหล็ก (มอก.เหล็ก) ที่ผลิตโดยกระบวนการเตาหลอม (Induction Furnace หรือ เตา IF)
โดยเชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีเตาระบบเปิดที่ดึงสิ่งสกปรกออกจากน้ำเหล็กได้ยาก สร้างมลพิษฝุ่นและแก๊สพิษจากการผลิตเหล็ก อีกทั้งกระบวนการผลิตของเตาหลอม IF ไม่สามารถควบคุมคุณภาพเหล็กที่ผลิตออกมาให้สม่ำเสมอได้
2
นายเอกนัฏ ระบุว่า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ออก มอก.20-2543 (แก้ไขมาตรฐานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต-เหล็กเส้นกลม) มอก.24-2548 เพื่อรองรับให้มีการใช้เตาหลอม IF ในการผลิตเหล็กข้ออ้อยมาตั้งแต่ปี 2559 ทำให้บริษัทที่ผลิตเหล็กจากเตาหลอม IF อย่างบริษัทซิน เคอ หยวน ได้รับ มอก.มาตั้งแต่ปี 2561
นอกจากนี้ที่ผ่านมาชุดปฏิบัติการของกระทรวงฯ เข้าตรวจสอบมาตรฐาน มอก.โรงงานผลิตเหล็กเตาหลอม IF หลายแห่ง ปรากฏว่าเหล็กที่ผลิตออกมาไม่ผ่านมาตรฐานตามที่ขอไว้ จึงเกิดการอายัดห้ามผลิตและจำหน่าย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า โรงงานที่ผลิตเหล็กจากเตาหลอม IF ไม่สามารถควบคุมคุณภาพวัตถุดิบให้มีคุณภาพที่ดีได้
อีกทั้งในปัจจุบันมีโรงงานผลิตเหล็กที่ผลิตโดยกระบวนการเตาอาร์กไฟฟ้า Electric Arc Furnace (EF) ที่ใช้ไฟฟ้าในการหลอมเหล็ก ซึ่งกระบวนการผลิตเหล็กสามารถดึงสิ่งสกปรกออกจากน้ำเหล็กได้ดีกว่าเตาหลอม IF จึงสร้างมลพิษฝุ่นและแก๊สพิษน้อยกว่า และยังควบคุมคุณภาพได้ง่ายและสม่ำเสมอกว่า
นอกจากนี้ จากการหารือกับสมาคมผู้ผลิตเหล็ก และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แจ้งว่า ปี 2567 ไทยมีกำลังการผลิตเหล็กด้วยเตาอาร์กไฟฟ้า EF ถึง 4.3 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้เหล็กเส้นอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านตัน ดังนั้นการทบทวนการออก มอก.ที่ใช้รับรองกระบวนการผลิตเหล็กจากเตาหลอม IF จึงสามารถดำเนินการได้ เพื่อที่จะยกเลิกเหล็กที่ผลิตจากเตาหลอมประเภทนี้
นายเอกนัฏกล่าวอีกว่า ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หากมีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนหรือระบบเศรษฐกิจ คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) สามารถพิจารณาและมีมติให้รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม สามารถออกประกาศกระทรวงปรับแก้ไขยกเลิกการรับรอง มอก.เหล็กได้
โรงงานเหล็กจีนจ่อหนีไทย
นายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการผลิตเหล็กในไทยที่ใช้เตาหลอม IF มีทั้งหมด 14 โรง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการสัญชาติจีน บางรายมีการร่วมลงทุนกับคนไทย โดยหากกระทรวงอุตสาหกรรมมีการทบทวนและพิจารณาให้ยกเลิกมาตรฐาน มอก. เหล็กที่ผลิตจากเตาหลอม IF โรงงานเหล็กเหล่านี้จะต้องเปลี่ยนเตาใหม่ทั้งหมด
ซึ่งหมายความว่า จะต้องลงทุนใหม่ และการลงทุนใหม่จะต้องใช้เงินค่อนข้างมากเพื่อปรับปรุงให้ใช้เทคโนโลยีเป็นเตา EF เพราะฉะนั้น จึงมีโอกาสเป็นไปได้ที่ทางนักลงทุนเหล่านี้อาจจะต้องปิดกิจการและย้ายฐานการผลิตเหล็กเตา IF ออกจากไทย
สำหรับขั้นตอนการยกเลิก มอก.เหล็กที่ผลิตจากเตาหลอม IF หากดำเนินการตามขั้นตอนในภาวะปกติจะใช้เวลาค่อนข้างนานและยาก โดยเริ่มตั้งแต่สาเหตุของการปรับ/ยกเลิก มอก. เช่น เหล็กแผ่นห้ามชุบสังกะสี วัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน จากนั้นจึงต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาฯ เพื่อเกี่ยวข้องกับงานด้านการก่อสร้าง 60 วัน-180 วันและต้องมากำหนด มอก.ใหม่ ส่งหนังสือเวียนให้โรงงานผู้ผลิตเหล็กและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน
แต่หากอ้างสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบปัจจุบันหรือเรียกว่าเหตุฉุกเฉิน ก็อาจเป็นไปได้ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมอาจใช้อำนาจรัฐมนตรีลงนามเพื่อออกประกาศคำสั่งยกเลิก มอก.เหล็กจากเตาหลอม IF ก็ได้
หนุนยกเลิกเตา IF
นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เกี่ยวกับการที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะยกเลิกการรับรองมาตรฐานเหล็กที่ผลิตโดยกระบวนการใช้เตาอินดักชั่น Induction Furnace (IF) ว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากจะทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าเหล็กที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ในราคาที่เหมาะสมแม้จะได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น แต่ก็ถือว่าแลกมาด้วยเรื่องของความปลอดภัย
1
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาการผลิตเหล็กแบบ IF จะมีราคาที่ต่ำกว่าการผลิตด้วยเทคโนโลยี Electric Arc Furnace (EF) เพราะมีต้นทุนที่แตกต่างกัน จากกระบวนการผลิตที่การควบคุมคุณภาพไม่เข้มข้น
“การซื้อเหล็กอาจจะมีราคาที่สูงขึ้น แต่มองว่าไม่ได้แตกต่างกันมากมายเท่าใดนัก เพราะต้องเรียนว่าก่อนที่จะมีเตา IF สินค้าเหล็กเป็นสินค้าควบคุมโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หากมีการขึ้นราคาหรือจำหน่ายในราคาสูงเกินความเหมาะสม ก็จะถูกควบคุม และถูกบังคับเรื่องราคาได้อยู่แล้ว”
อย่างไรก็ดี หากผู้ประกอบการที่ใช้เตาแบบ IF ต้องถูกยกเลิก ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า อาจไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มมากมายเท่าใดนัก โดยทางออกที่สามารถทำได้ ประกอบด้วย
  • การดัดแปลงเตา IF โดยไม่ต้องรื้อทิ้งทั้งหมด เพราะการใช้เทคโนโลยี IF เป็นกระบวนการที่ใช้ตอนนำเศษเหล็กมาหลอม ดังนั้น จึงสามารถปรับปรุงได้โดยนำเทคโนโลยี Billet มาใช้รีดเป็นเหล็กเส้น หรือเหล็กข้ออ้อยได้
  • ปรับเปลี่ยน หรือดัดแปลงจาก IF เป็น EF ซึ่งมีการควบคุมคุณภาพที่แม่นยำ และเสถียรมากกว่า
“ต้องเรียนว่าที่ผ่านมาช่วงที่กระทรวงอุตฯให้ใช้เทคโนโลยี IF ได้ เพราะหากสามารถควบคุมวัตถุดิบได้ดี มีความรับผิดชอบก็สามารถทำได้จริง แต่ปรากฎว่าที่กระทรวงอุตฯสุ่มตวจช่วงหลัง พบว่ามีหลายรายที่ทำได้ไม่ถึงตามมาตรฐาน การปฏิบัติจริงไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือตามที่กำหนด”
ขณะที่การตรวจสอบเหล็กจากเทคโนโลยี EF โดยสำนักงานมาตรฐานผิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) พบว่าไม่มีรายใดที่ตกมาตรฐาน
นายนาวา กล่าวอีกว่า ในเชิงของการทำธุรกิจถือว่ามีความยุติธรรม เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดการได้แต้มต่อ หรือข้อได้เปรียบจากโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีล้าสมัยในเรื่องของต้นทุนการผลิต
อีกทั้ง เทคโนโลยี IF นั้น หลายประเทศเช่น จีน และมาเลเซีย เป็นต้น ไม่ให้การยอมรับ และไม่อนุญาติให้นำเข้าไปใช้งานประเทศ
นอกจากนี้ ผู้บริโภคเองก็จะได้รับประโยชน์จากสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม เพราะสินค้าเหล็กมีความเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย
โฆษณา