เมื่อวาน เวลา 06:57 • ความคิดเห็น
เรื่องราวราวหนึ่ง ที่เกิดจาก การกระทำ ที่เราใช้ชีวิต ที่มีวิญญาณทั้งหกไปสัมผัส เรื่ิองราวต่างๆ ในการต่อสู้ อะไรต่างๆ เหมือนทหารที่ออกไปสู้รบ ในสนามรบ บางเรื่องมันเหมือนเรื่อง ที่หนังกำลังภายใน แสดงเป็นตัวอย่าง ฝ่ายที่เรียกว่า ฝ่ายธรรม กับ ฝ่ายอธรรม ต่อสู้แบ่งพรรค แบ่งพวก เข่นฆ่ากันตาย ข่มแหง เกลือดขังกัน เจอกันที่ไหน ก็ต้องตามราวี อาฆาตพยาบาท
.ต่างฝ่านพลพรรค ไอ้เณร ..ตัวเล็ก ล้มตายมากมาย .. เหลือไอ้ตัวการใหญ่ๆ ไม่กี่ตัว ..จะว่า ฝี่มือ ..เก่งกาจ ก็ไม่ใช่ ..มันเหมือนอยู่บนหอคอย ..ปั่นให้เค้าเข่นฆ่ากัน จนอ่อนแรง ถึงออกมา ให้คนเค้า หลงเชื่อไอ้ตัวการใหญ่ ที่รอคอย ช่วงชิง..ชื่อเสียงเกียรติยศ รอคอย .เหมือนขึ้นครองอำนาจจักรพรรคิ ที่มนุษย์ใฝ่ฝันหา แต่ได้มา ด้วยเลือดเนื้อที่ไพร่พลล้มตายมากมาย จักรพรรดิจึงมีมากมายไปด้วยกรรม
เรามาดูเรื่องราวหนึ่ง ของ เทวทัต กับ พระองคุลีมาร เทวทัตนั้น .อยู่ใกล้ชิดพระสิทธัตถะ จนพระสิทธัตถะหนี เข้าไป ไปกระทำจนบรรลุสำเร็จเป็นองค์พระสัมมาพุทธเจ้า เทวทัตก็มขอบวช..บวชแล้ว ก็ทำตัว ..จะขึ้นครองศาสนา
เทวทัตเค้าก็เก่ง ได้อิทธิฤทธิ์ณานโลกีย์ ทะเยอทะยาน พระพุทธเจ้าท่านก็บอกกล่าว แต่หูของคนมีกรรม มันก็ปิด .คิดไปเป็นเรื่ิองทิฐิ อยากเป็นใหญ่ เหมือนว่า อยู่ใกล้ของดี ใกล้ทองคำ ..กลับเห็นเป็นของไร้ค่า .เป็นตะกั่ว ไปเสียงั้น จิตของเค้ารับธรรมไม่ได้ ปฏิเสธธรรมที่ท่านส่งให้ ก็เลยได้แต่กรรมไป แก้ไขนิสัยเวรกรรมของตนไม่ได้
คราวนี้ เรามาดู องคุลีมาร กว่าท่านจะพบพระพุทธเจ้า ท่านก็ต้องชดใช้กรรมของท่าน ชำระหนี้สิน ที่เค้าเคยฆ่าท่านมา ..เค้าก็เกิดมาให้ท่านฆ่า ชำระบันทึก เรื่องนี้ ออกจะเกินเลยปัญญาของมนุษย์ปุถุชน พอชำระบัญชีกรรม หมดหนี้แล้ว ที่ท่านจึงพบพระพุทธเจ้า มีอะไรเกิดขึ้น องคุมาล พบแล้วก็ขอบวช
นั้นก็ด้วย องคุลีมาล ก็สะสมบุญบารมี มีปัญาญาธรรม ที่สะสมมา ..ฟังปุ๊บ ..ก็เข้าใจ ขอบวชเลย แล้วจิตทุกดวง ที่ท่านไปฆ่าเค้านั้น ด้วยจิตมีบารมี สะสมมาเป็นอเนกชาติ ก็ส่งจิตทุกดวง ไปสู่สถานที่ดีๆกันทั่งนั้น เรื่อวนี้ ก็มีพระท่านเล่าให้ฟัง ในเรื่องราวของการชำระสะสาง .กรรม ยุติการเกิด ..กรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ เรื่องนี้ เป็นเรื่องของจิตที่สะสมบุญบารมีมาเต็มที่ มาเกิดชาติสุดท้าย ..เรื่องหากเอาเรื่องศีลมาคุย .มันจะจัดแย้งกันมาก
ชีวิตของคนเรา นั้นเกิดมามีกรรม สิ่งที่เราเจอะเจอไปนั้นก็ส่วนหนึ่ง ที่เราจะต้องใช้หนี้สิน คราวนี้ เราใช้หนี้กรรม แต่เราก็ไม่หยุดยั้งอารมณ์ งก็ไปสร้างอารมณ์ สร้างกายวาจาใจอะไรต่าง ให้เพิ่มพูนมากมายก่ายกอง มันเก็บสะสมอยู่ที่ธาตุุทั้งสี่ ในกายในชาติที่เราอาศัยอยู่ปัจจุบัน
กรรมทั้งหลาย ที่เรากระทำ ดีชั่ว ..ดีก็บันทึก ชั่วดีบันทึก อยู่ที่ธาตุทั้งสี่ ไม่ได้สูญหายไปไปไหนเลย แล้วสิ่งที่เราใช้ชีวิตที่ผ่านมา มันสะสม ..พอปั้นชีวิต กายมันก็เจ็บแ่วนเฒ่าชรา มีแต่สังขารที่เป็นกรรม มีแต่ธาตุที่เป็นกรรม ..เรื่อบราวเหล่านี้ มันอยากที่จะเรียนรู้ฝึกหัด เหมือนกัน ..ต้องอาศัยธรรมของพระพุทธเจ้า มาฝึกหัด ปฏิบัติขึ้นมา ..
พอเรานึกถึงอดีต ..ธาตุทั้งสี่ก็ส่งให้ ที่ไปใช้อารมณ์ทุกข์ ที่ไปทำให้ผู้อื่นทุกข์ มันก็ไหบขึ้นมา เหมือนธาตทั้งสี่ ยอกว่า สิ่งที่เจ็บปวด ก็มาจากเหตุที่เราไปทำมาเอง เหมือนย้อนให้มาดูว่า ที่ไปทำนั้น ทำให้กานเราทุกข์จิตเรามีทุกข์ เกิดขึ้น นั้น ก็ควรทำ สร้างบุญกุศล ทำบุญ อุทิศบุญกุศลไป ทุกข์นั้นจะไ้ด้ผ่อนคลาย บรรเทาทุกข์ไป
เรื่องราวหนึ่ง ของกษัตริย์ นักรบ ..มีพระท่านบอกว่า พระนเรศวร น่าจะขึ้นไปชั้นพรหมได้ แต่เมื่อจิตใกล้ออกจากร่าง ก็นึกห่วงบ้านเมือง ..เพียงแค่นี้ ท่านก็ขึ้นไปไม่ได้ ..แต่ท่านก็ไม่ได้ลำบาก ท่านก็มีสถานที่อยู่ของท่าน .. ส่วนไพร่พลทหาร ที่ล้มตายกัน ก็ยังไม่ได้ไปไปไหน ก็อยู่ตามสถานที่ นั้น ก็มากมาย ..บางดวงก็อยู่ที่นั้น นับวันได้ ห้าวัน หกวันเอง ..ร้อยปีโลกมนุษย์ เท่ากันหนึ่งวันโลกวิญญาณ ..ไม่รู้ว่า ..จะอยู่ยาวนาน กี่วันกี่ปี
โฆษณา