พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช
โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา ปจฺฉา โส นปฺปมชฺชติ
โสมํ โลกํ ปภาเสติ. อพฺภา มุตฺโต ว จนฺทิมา.
เมื่อก่อนประมาท ภายหลังกลับไม่ประมาท
ผู้นั้น ได้ชื่อว่า ยังโลกนี้ให้สว่างไสวเหมือนพระจันทร์ ลอยพ้นจากเมฆหมอก ฉะนั้น.
ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ. กุสเลน ปิถียติ
โสมํ โลกํ ปภาเสติ. อพฺภา มุตฺโต ว จนฺทิมา.
ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี
ผู้นั้น ย่อมยังโลกนี้ให้สว่างไสว เหมือนพระจันทร์ ลอยพ้นจากเมฆหมอก ฉะนั้น.
ธรรมท่านสอนว่า คนชั่ว จะหันกลับมาทำดีบ้างก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำชั่วไปตลอดกาล ส่วนคนดีนั้น ก็มักพอใจที่จะทำดีอยู่แล้ว ทำดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนถึงที่สุดแห่งความดี คนดีส่วนใหญ่จะไม่ยอมลดตัวลงไปกระทำชั่วอย่างแน่นอน
เว้นไว้แต่คนดีที่ยังดีไม่จริง ก็อาจจะหลงผิดไปทำชั่วได้บ้าง แต่เมื่อสำนึกรู้ตัว ก็จะเกิดความละอายใจ เกรงกลัวต่อผลของบาป และจะไม่ยอมทำชั่วทำผิดซ้ำสองอีกเลย
ธรรมท่านให้อภัยคนที่เคยหลงผิดทำผิด เพราะทุกคนย่อมมีโอกาสพลั้งพลาดทำผิดได้เสมอ แต่เมื่อทำผิดแล้วต้องกลับใจได้ หันมาทำความดีทดแทน ธรรมท่านยังสรรเสริญผู้นั้นอีกว่า เป็นผู้ยังโลกนี้ให้สว่างไสว เหมือนพระจันทร์ลอยพ้นจากเมฆหมอก
ดังนั้น ใครที่เคยทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามเอาไว้ ก็ไม่ต้องเสียอกเสียใจ จนถึงกับเสียผู้เสียคน ไม่มีอะไรสายเกินแก้ ขอให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในปัจจุบัน อดีตผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป อนาคตยังไม่มาถึง ก็ไม่ต้องเอื้อมมือไปไขว่คว้าหามันให้เสียเวลา
จงตั้งสติทำปัจจุบันให้ดีที่สุด หน้าที่การงานอันใด ควรทำดีอย่างไร ก็ทำไปให้สุดความสามารถ ด้วยความรู้เท่าทัน มโนกรรม กายกรรม วจีกรรม รักษากาย วาจา ใจให้เป็นสุจริต อย่าให้เป็นทุจริต พยายามฝึกฝืนต้านทานกิเลสไว้บ้าง อย่าปล่อยใจให้เพลิดเพลินหลงมัวเมาไปกับกามคุณ ๕ จนตกเป็นทาสของกิเลสอย่างลืมเนื้อลืมตัว ลืมฐานะของตนเอง
ทำปัจจุบัน คือ ทำใจของเราดวงนี้ให้เป็นใจที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ บุญกิริยาวัตถุ ๓ ประการ พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ให้นำมาใช้ คือ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา คือทำศีล สมาธิ ปัญญา ให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์
รักษาใจให้ดี ใจดี คือ ใจที่ละชั่ว ใจที่คิดดี ใจที่ทำดี ใจที่พูดดี จนถึงเป็นใจที่สงบผ่องใส และเป็นใจที่บริสุทธิ์หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง นั่นเอง
ดอยแสงธรรม_๒๕๖๘_๐๔
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
