24 เม.ย. เวลา 08:53 • ประวัติศาสตร์

โคลงสุภาสิตใหม่

ความรัก
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑ รักถิ่นประเทศบ้าน เมืองตน เกิดแฮ
ปราชย่อมว่าเปนผล ใหญ่กว้าง
อริราชพวกใดดล แดนย่ำ ยีเฮย
คิดรบจวบชีพร้าง ร่างไร้เปนจุณ
๒ รักดีประพฤติด้วย จึ่งดี
รักชาติจงอย่ามี ประทุษฐร้าย
รักศักดิสงวนศรี ยศศักดิ ตนแฮ
รักมิตรอย่าคิดบ้าย แต่ข้อความเข็ญ
​๓ รักใจรักจิตรเจ้า เหลือหลาย
รักรูปราษีกาย แห่งน้อง
รักสัมผัสในสาย สุดสวาศ
รักนักรักมาข้อง อยู่น้ำใจเดียว
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๔ รักรักจักกล่าวแล้ว เหลือหลาย ลเบงแฮ
รักอย่างไรห่อนหาย รักนั้น
รักอื่นหมื่นแสนคลาย ใจกลับ ไกลนา
รักจะรักให้หมั้น เหมาะแท้ตนเอง
๕ รักรักจักรักให้ เปนผล
รักเร่งรักอย่าปน เล่ห์เลี้ยว
รักแกล้งรักจริงรคน พึงเข็ด
รักพวกรักบิดเบี้ยว ป่นแล้วเปนลออง
​๖ รักตนเร่งรอบรู้ การระวัง ตนเอย
รักพ่อแม่พึงฟัง ท่านห้าม
รักเจ้าแห่งตนฝัง ใจซื่อ ตรงแฮ
รักทรัพย์อย่าซุ่มส้าม ค่อยค้อยมีเอง
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๗ รักเมียรักญาตินี้ รักผิด กันนอ
รักญาติ ญาติรักสนิท ขาดจิตรปลิด ห่อน ร้าว ได้ }
รักเมียดั่งชีวิตร ฉุนเฉียบ
ยามเกลียด กลต่างด้าว ไป่อยากใกล้ แด่นด้าน กลับแม้น } สัตรู
๘ พี่รักนุชนาฎด้วย เห็นใจ จริงแฮ
ใช่รักรูปวิไลย เลิศล้ำ
ชื่นจิตรแต่หล่อนไข คำซื่อ
อีกสิ่งปฏิบัติซ้ำ ส่งให้รักแรง
​๙ รักลูกผูกจิตรเพี้ยง รักตน
อยากแต่ให้ดีดล ดับร้าย
จำจักระวังผจญ จิตรลูก ตนแฮ
แม้ปล่อยเปนชั่วคล้าย กับเลี้ยงรักงู
๑๐ รักตนควรให้คิด สงวนตน
อย่าประมาทกระมล หมิ่นพลั้ง
ไภยนอกและในกล ใดเกิด มีแฮ
บำบัดเร็วอย่ารั้ง รอดได้ชนม์ยืน
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๑๑ รักสิ่งพัศดุสิ้น สัพสรรพ์
รักมิตรมิ่งเมียขวัญ บุตรบ้าง
รักยศศักดิอีกพัน ธุเผ่า พงษ์เอย
รักอื่นหมื่นแสนอ้าง ห่อนแม้นรักตัว
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๑๒ รักรูปงามรูปไซร้ โสภา
รักรศรศวาจา แจ่มแจ้ว
รักกลิ่นกลิ่นกายา ทราบทร่าน
รักศัพท์เสียงน้องแก้ว เพราะพริ้งเพราหู
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๑๓ รู้ ประกอบราชกิจเกื้อ การดี
รัก ซึ่งสัจวาที อย่าพลั้ง
จัก คิดสิ่งใดมี ความตริ ตรองแฮ
ดี ตลอดการตั้ง แต่ต้นจนปลาย
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๔ รู้ คัดจัดฟอกเฟ้น ใฝ่หา
รัก ชอบรักผิดปรา กฎแล้ว
จัก พ้นพิไสยพา ลาฬ่อ ลวงแฮ
ดี เพราะตนตัดแผ้ว รักร้ายแรมไกล
​๑๕ รู้ จริงว่าสิ่งนี้ วิทยา ยงแฮ
รัก เร่งรีบเรียนหา เหตุรู้
จัก เจริญซึ่งคุณา นุคุณแน่ แท้เอย
ดี รอบชอบจักกู้ เกียรติได้โดยจง
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๖ รู้ แล้วไป่หมั่นตั้ง ใจทำ
รัก แต่นิ่งไป่นำ ชอบให้
จัก ดีจักชั่วสำ เหนียกแน่ ไฉนนา
ดี และร้ายจักได้ เสร็จด้วยตนทำ
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๑๗ รู้ อารีโอบอ้อม กว้างขวาง
รัก มิตรคิดทอดทาง อย่าร้าว
จัก ปราศทุกข์ระคาง เคืองขุ่น ใจแฮ
ดี เพราะประพฤติน้าว หน่วงด้วยสามัคคี
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๑๘ รู้ เรื่องรักอย่าได้ ดูเบา
รัก นักมักจักเมา มืดกลุ้ม
จัก รักเร่งดูเอา ชั่วอย่า คบแฮ
ดี บ่ชั่วพัวหุ้ม จึ่งให้รักกัน
ความเกลียดชัง
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๙ ชังใครไม่เท่าด้วย ชังพาล
เหตุเพราะเล่ห์เหลือประมาณ มากล้น
ชนหลงเสพย์คงผลาญ พลอยฉิบ หายแฮ
บัณฑิตย์ย่อมคิดพ้น เล่ห์เพี้ยงกลัวเพลิง
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๒๐ ชังใดในโลกนี้ จักชัง แท้ฤๅ
ตรองไป่เห็นเลยยัง มืดตื้อ
ความชั่วก็ไม่หวัง ใจแน่ เลยนา
อ่อทุกข์นี้แลรื้อ รักได้ฤๅมี
​พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๒๑ ชังชอบประกอบใกล้ กลายกลับ
ชั่วเมื่อดียังนับ ว่าร้าย
เมื่อตัวชั่วตาหลับ ลืมหมด
ดีดั่งหมึกมอมป้าย ปิดป้องชวนชัง
๒๒ น่าชังตั้งแต่เฝ้า หวงหึงษ์
ดูดุ๋ทำถมึงทึง กราดเกรี้ยว
เถอะเถอะอย่าอื้ออึง ไปอีก
รู้เท่าเจ้าดอกเปรี้ยว บูดแล้วจึ่งชัง
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๒๓ ชังใครไม่เท่าด้วย ชังทุกข์ เลยนา
ย่อมคิดหาความศุข ทุกผู้
ใครนำสิ่งทุกข์ขุก เข็ญขัด เคืองแฮ
ให้แก่ผู้ใดรู้ ทุกข์แล้วเกลียดชัง
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๒๔ หญิงชั่วเฉกเช่นแก้ว กากี
เลี้ยงรักจักกลับดี ดับได้
เปนโจรยักวิธี ใช้เก็บ คลังเฮย
หญิงชั่วบอนบิดไส้ เช่นนี้ควรชัง
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๒๕ ชังคนพาลจิตรร้าย ราวี
ชังหมู่สัตวไม่ดี ดุฟ้อ
ชังดินจุดอัคคี ลามลวก คนแฮ
ชังอุตพิศนักน้อ กลิ่นนั้นเหม็นฉุย
ความงาม
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๒๖ งามโฉมโฉมนิ่มน้อง นงลักษณ์
งามเกษกรรณรับภักตร์ ผ่องแผ้ว
ขนงเนตรนุชน่ารัก งามรับ กันนา
งามโอฐเอื้อนอัตถ์แพร้ว เพริศพริ้มรายทนต์
​๒๗ นาสิกสมรแม่นแม้น กลขอ
ปรางเปล่งเล็งแลลออ อวบเนื้อ
งามรหงซวดทรงสอ สองไหล่ ผายแฮ
รทวยอ่อนสองกรเกื้อ กอบนิ้วหัดถ์งาม
๒๘ สองถันเทียมเทียบด้วย สัตบง กชแฮ
งามรูปอรเอวองค์ ใช่ช้า
ดำเนินดั่งนางหงษ์ เหอรเห็จ
งามบาทงามเพลาอ้า เอี่ยมทั้งสรรพางค์
๒๙ งามจริตมารยาดเจ้า งอนงาม
งามพูดงามยิ้มยาม ยั่วแย้ม
งามเคืองระคายความ คมเคียด ค้อนแฮ
งามเลิศลักษณแต่งแต้ม ผ่อนผ้าพางาม
๓๐ งามจริงดุจกล่าวอ้าง ทุกอัน
ยามหลับละเมอฝัน ห่อนเว้น
ลืมเนตรนึกกระสันต์ รักรูป น้องนา
งามจับจิตรใจเต้น ติดต้องตางาม
​๓๑ งามนักรักแล้วยิ่ง เห็นงอน งามนา
ยิ่งพิศจิตรจงสมร สุดปล้ำ
จักใคร่ออกโอฐวอน วรนาฎ เรียมเอย
งามดั่งจักกลืนกล้ำ แกล่ไว้ในทรวง
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๓๒ งามสารเมื่อบุ่มบ้า บ่มมัน
งามสัตรีมีครรภ์ เคร่งเนื้อ
งามสงฆ์พิสุทธิสรรพ์ ศีลวัตร นาพ่อ
งามบ่าวเจ้าก่อเกื้อ กอบเลี้ยงโดยเสมอ
๓๓ ชนงามเพราะเหตุด้วย วาจา
หนึ่งอีกคือกิริยา อ่อนน้อม
ใครพบย่อมสนทนา ชวนชอบ
ว่าประกอบไปพร้อม สรูปสิ้นสิ่งงาม
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๓๔ แผ่นดินงามเพราะด้วย เรือนชาน มากแล
ไม้เพราะผลไพศาล ดกแท้
สัตวงามเพราะขนประสาน สีสลาบ
นรชาติงามเลิศแล้ เหตุน้ำใจเดียว
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๓๕ งามบุญบุญเบ่งให้ เห็นความ งามฤๅ
งามยศยศงามยาม ยศพร้อม
งามใจจักเห็นงาม ยามเมื่อ แคลนนา
งามชื่อเห็นซื่อซ้อม เมื่อข้อเข็ญมี
๓๖ เห็นเจ้าใจพี่เพี้ยง งวยงม งามฮา
งามแม่งามสรวยสม รูปแท้
แลงามเมื่อยามชม สายสวาศ
งามทั่วสามภพแพ้ พ่ายน้องนางงาม
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๓๗ งามพลเดินแด่นด้าว ธรณิน
งามพยุหหัศดิน แกว่นแกล้ว
งามพลพยุหสิน ธพชาติ
งามพยุหรถแพร้ว เพียบพื้นภูวดล
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๓๘ เห็น ใดไป่เทียบด้วย ดวงกระมล พี่เฮย
งาม ผาดงามพิศยล หยาดฟ้า
ตาม นุชพี่สุดทน ตามติด
ใจ พี่เห็นงามกล้า คัดค้านใครฉิน
๓๙ เห็น ดีดำริห์แล้ว เต็มใจ
งาม เนตรเราอย่างไร ห่อนรื้อ
ตาม จิตรอย่าตามใคร จักเปื่อย เสียแฮ
ใจ ต่างใจจำดื้อ ดุจได้เห็นดี
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๔๐ เห็น ชอบเห็นชั่วด้วย ใจตน
งาม มิงามยามยล ย่อมรู้
ตาม แต่จะคิดขวน ขวายเสพย์
ใจ แห่งตนเปนผู้ คัดค้นความงาม
ความเบื่อหน่าย
พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)
๔๑ เบื่อคนพูดมากพร้อง พร่ำพรู
เบื่อเช่นแขกเบื่อหมู เกลียดกล้ำ
เบื่อคนคี่เมาคู คุยโอก โขยกเฮย
พูดก็เซ้าซี้ซ้ำ ซอกซ้อนไถลเหลว
๔๒ เบื่อเพื่อนเปนพวกป้อน โปแปะ
ยืมหยิบเงินแทะและ ไป่แล้ว
หากได้ก็เฉยแฉะ เชือนชัก สูญนา
แม้ว่าเสียฤๅแคล้ว คลาศซ้ำรบกวน
​๔๓ เบื่อหน่ายกายจิตรโอ้ อนิจจัง
ฉันเฉกหม้อดินขัง ทุกข์ไว้
เต็มเพียบก็แตกพัง คราวหนึ่ง
แล้วกลับก่อเกิดให้ รับท้นทุกข์ทวี
๔๔ บวชนานเบื่อหน่ายน้ำ ใจหวน เหเฮย
ปั่นปั่นคิดป่วนรวน ราคเร้า
จีวรเร่าร้อนจวน จักพลุ่ง โพลงนา
ลาละสิกขาเข้า เขตรบ้านบ่วงกาม
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๔๕ ความเบื่อจักว่าให้ เห็นความ
เปรี้ยวมะงั่วอีกมะขาม เบื่อเคี้ยว
วายรศก็จักทราม เสื่อมเบื่อ
หมดทรัพย์นี้สุดเปรี้ยว เสื่อมสิ้นสิ่งประสงค์
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๔๖ นอนกลางวันเล่ห์นี้ เต็มรอา
เบื่อดุเล่นตุกตา ไป่ได้
เบื่อยาถ่ายอีกยา สำรอก ณพ่อ
เบื่อแต่งเกี้ยวนวมให้ เบื่อล้นจนใจ
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๔๗ ฉะนางช่างพูดเลี้ยว ลดเหลือ
กลอกกลับขยับเจือ ปดโป้
ยามชอรอ่อนโอฐเฝือ ฟังหนวก หูแฮ
เชิงหล่อนซ่อนเล็บโอ้ อวดอ้างแต่ดี
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๔๘ เบื่อใจด้วยเจ้าแซ่ง ใส่กล
เบื่อรักเปนแยบยล ต่อหน้า
เบื่อจริงเพราะเหลือทน ปอกลอก
เบื่อหล่อนโลภแรงกล้า เบื่อแท้หน่ายนาง
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๔๙ เบื่อใจเจ้ากลอกกลิ้ง กลายกลับ
เบื่อปากปดสับปลับ ปลอกปลิ้น
เบื่อหน้าร่าหริกหรับ เหลือแหรด
เบื่อรักเบื่อหมดสิ้น สิ่งเอื้ออาไลย
ความเย่อหยิ่ง
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๕๐ ยศศักดิสมบัติพร้อม ไพบูลย์
เชื้อมาตยชาติตระกูล เก่าล้ำ
จักปนปะไพร่ปูน ทองครู่ กาฐแฮ
จำหยิ่งแม้นหย่อนซ้ำ เซอะสิ้นเสียวงษ์
๕๑ มียศมีทรัพย์ซ้ำ สระสรวย
หญิงอยากจะเอออวย อ่อนให้
งอนง้อก็เขินขวย เขาจัก แคลนนา
ผิดก็หาใหม่ได้ เดือดร้อนรนไย
​๕๒ หญิงหยิ่งเชื่อยศทั้ง สมบัติ
ติดคู่แต่เลือกคัด ขัดข้อง
ไป่ชมจับตัวชัด ชักสื่อ สมแฮ
สิ้นทรัพย์เสียศักดิ์ต้อง ตกช้าอัปรมาณ
๕๓ หยิ่งเย่อเผยอยกเยื้อง ยกตน
กิ้งก่าได้ทองกล เยี่ยงนั้น
หยิ่งนักจักให้ผล พลันโค่น หักแฮ
เฉกเสพย์ยาพิศม์สั้น สุดสิ้นเสียชนม์
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๕๔ หยิ่งยศหวังว่าล้ำ เลิศลอย
หยิ่งศักดิ์ไม่ลดถอย ถ่อมบ้าง
หยิ่งทรัพย์นับวันคอย คิดมั่ง มีนา
หยิ่งอวดปัญญาอ้าง ว่ารู้การดี
​กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๕๕ ความหยิ่งจักว่าไว้ ควรฉิน
จงอย่ายลอย่ายิน หยุดห้าม
ใครเห็นก็จักนิน ทาเล่น
จงประหยัดตนคร้าม รอบรู้ระวังตัว
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๕๖ ชนหยิ่งไป่ชอบด้วย ชนใด
พาลชอบพาลเพราะใจ ต่อต้อง
ชนปราชชอบปราชไข คำชอบ กันแฮ
หยิ่งต่อหยิ่งกลับจ้อง จ่อหน้างาผสาน
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๕๗ หยิ่งทยานทำโอ่ให้ เกินตน
มักหักบทานทน ยืดช้า
ค่อยโตเติบตามสกนธ์ จึ่งชอบ นาพ่อ
ใครประพฤติหาญกล้า มักล้มโดยเร็ว
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๕๘ มีศักดิ์รักศักดิ์ให้ เสมอหงษ์
อย่ากรลับกลายลง เปือกเปื้อน
อย่าหยิ่งยิ่งเกินพงษ์ พันธุเพศ
กล่าวสุภาพอย่าหยาบเอื้อน อรรถให้คายหู
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๕๙ หยิ่งชนชาติต่ำช้า เลวทราม
เผยอแค่นจะอวดงาม เลิศล้น
ไว้ภูมพากภูมตาม ฉันเฉก ไพร่แฮ
ดูบาดหูตาพ้น ที่อ้างใดปาน
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๖๐ หยิ่ง นักจักคบได้ กับใคร
ไป สู่ประชุมไหน แตกผ้าย
ใคร ใครบ่อยากไป พบปะ ตนแฮ
ชม แต่ตนเดียวหม้าย เพื่อนผู้หมู่พงษ์
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๖๑ หยิ่ง ทรัพย์มักจักต้อง ฉิบหาย
ไป เล่นเสียเรี่ยราย นับร้อย
ใคร มาก็มาดหมาย ปอกลอก
ชม ถูกฅอนิดน้อย ออกให้จนเตียน
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๖๒ หยิ่ง ยกตนใหญ่กว้าง เกินการ
ไป พบผู้ใดราน ระไว้
ใคร เห็นย่อมรำคาน คอยติ
ชม ว่าดีด้วยไซร้ แบบนี้ฤๅมี
พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)
๖๓ หยิ่ง เย่อเถ่อหน้าเสือก ซนซน
ไป ทุกถิ่นทุกตำบล อวดโอ้
ใคร ที่บ่เคยยล ยินเยี่ยง เขาฤๅ
ชม นิยมบ่โต้ คัดค้านขัดฅอ
​ความอาไลย
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๖๔ อาไลยในนิ่มเนื้อ นงคราญ
ใจพี่ดังพระกาฬ ตัดเกล้า
เจ็บทรวงดั่งงาสาร เสียบอก
จากแม่ไปแต่เช้า พี่เพี้ยงวายชนม์
๖๕ จำใจพี่จักต้อง ยาตรา
จำพี่อาไลยลา นุชน้อง
จำไกลพี่จักอา ดูรเทวศ
จำพี่จักจากห้อง ห่างน้องเนานาน
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๖๖ อาไลยนุชนาฎน้อง นงพาล
เคยอยู่ชมสำราญ ร่วมห้อง
ทุกวี่ทุกวันวาร เคยปรับ ทุกข์แม่
ยามหนึ่งห่างจากน้อง แม่นแม้นมลายชนม์
​๖๗ อาไลยทรัพย์เปรียบด้วย บ่วงมัด บาทแฮ
ห่วงมิ่งเมียผูกหัดถ์ แน่นไว้
อาไลยบุตรสุดรัด ฅอพ่อ ติดแฮ
สามบ่วงห่วงละได้ จักไร้ทุกข์ทน
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๖๘ ปึกปึกใจทึกด้วย คลื่นจัด
เรือที่เราก้าวลัด ฟากโน้น
อาไลยแต่จักพลัด พวกเพื่อน
หนึ่งอีกกลัวจักโข้น ฟาดล้มลงทเล
กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์
๖๙ อาไลยในนุชน้อง นงคราญ
ใจห่วงดวงสมรปาน จักไห้
ครั้งนี้พี่ไปนาน วันอยู่ หลายแฮ
เจ้าสงวนตนไว้ อยู่ถ้าคอยเรียม
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๗๐ โบราณท่านว่าไว้ สองสถาน
ที่อยู่เคยสำราญ แหล่งเหล้น
หนึ่งอู่ที่เคยบาน ใจนิทร เสมอนา
ยามวิโยคอกตึกเต้น แต่ถ้าคืนหลัง
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๗๑ ลงกระไดสามคั่นแล้ว ไป่เปน ศุขแฮ
มีแต่ข้อลำเค็ญ ขุ่นข้อง
โบราณท่านเล็งเห็น หากกล่าว ไว้แฮ
เพราะห่วงหนแห่งห้อง หับให้อาไลย
๗๒ อาไลยในถิ่นดั้ง เดิมเรา
เคยอยู่เคยนอนเนา เนิ่นช้า
อาไลยยิ่งในเยาว มาลย์มิ่ง มิตรแฮ
เคยอยู่เคยเห็นหน้า แนบเนื้อเรียมนอน
​๗๓ อาไลยใจจอดน้อง นอนจ๋อย
ชลเนตรเหยาะเผาะผอย ผ่าวร้อน
เสียแรงที่ติดสอย สวนสื่อ
ไยจึ่งริรักซ้อน ซ่อนชู้ชายชม
๗๔ อาไลย มละน้อง เนาวัง
ใจห่วง เปนบ่วงหลัง ลอดคล้อง
ยิ่งหน่วง ประหนึ่งดัง ยุส่ง เสริมแฮ
ซ้ำหนัก หฤไทยข้อง ขัดกลุ้มรุมโรม
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๗๕ อาไลยที่รักร้าง รัญจวน ใจนา
สมบัติอาไลยหวน ห่วงหมั้น
อาไลยยศศักดิชวน ใจเหี่ยว แห้งเฮย
ชีวิตรอาไลยนั้น ยิ่งล้ำอาไลย
​สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๗๖ อาไลย ในนิ่มเนื้อ นวลอนงค์
ใจห่วง คิดไหลหลง นุชน้อง
ยิ่งหน่วง กลับพะวง เวียนสวาศ
ซ้ำหนัก อกดังต้อง ติดด้วยพิศม์ปืน
พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย)
๗๗ อาไลย เหลียวสั่งแล้ว ลาจร
ใจห่วง เห็นสมร แม่คล้อย
ยิ่งหน่วง แน่นทรวงถอน ใจเทวศ
ซ้ำหนัก ทุกข์เท่าร้อย สาตรต้องตรึงทรวง
๗๘ อาไลย อลักเอลื่อปล้ำ เปลี่ยนแด
ใจห่วง หวนใจแล เปล่าเศร้า
ยิ่งหน่วง จิตรบ่แห เหินห่าง แม่เฮย
ซ้ำหนัก อุรเร้า ราศร้างแรมสมร
​กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๗๙ อาไลย คำเจ้าร่ำ วิงวอน พี่เอย
ใจห่วง ถึงดวงสมร แน่งน้อย
ยิ่งหน่วง จิตรคิดถอน ความโศก เสียเฮย
ซ้ำหนัก ใจละห้อย พรากน้ำตานอง
๘๐ อาไลย โฉมนุชน้อง งามไพ บูลย์แฮ
ใจห่วง ดวงหฤไทย พี่ดิ้น
ยิ่งหน่วง กระมลใน นึกใคร่ คลายนา
ซ้ำหนัก นักจักสิ้น สักน้อยฤๅมี
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๘๑ อาไลย เหลือสุดปล้ำ ปลดอา ไลยเฮย
ใจห่วง เจ้าดวงตา พี่นี้
ยิ่งหน่วง ใช่จะพา โลพูด
ซ้ำหนัก เหลือจักลี้ เลี่ยงพ้นอาไลย
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๘๒ อาไลย ด้วยนุชน้อง นงพงา
ใจห่วง ถวิลหา นาฎน้อง
ยิ่งหน่วง ก็ยิ่งอา ดูรสวาศ
ซ้ำหนัก อกขัดข้อง ขุ่นไข้ใจหวน
ความฤษยา
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๘๓ ใครดีไป่นิ่งได้ ใจนึก หึงษ์เฮย
เกรงจักหาญห้าวฮึก ต่อสู้
วิตกอกทึกทึก คอยทิ่ม แทงแฮ
กว่าจะล่มจมอู้ อ่อนแล้วจึ่งสบาย
๘๔ ฤษยาพาเกิดด้วย โลภนัก
โลกทรัพย์โลภยศศักดิ์ ศุขล้น
จะดีแต่เดียวตัก เต็มอิ่ม ตนแฮ
ชนเช่นนี้ชอบค้น ผิดผู้อื่นเผย
​๘๕ เปนหญิงหึงษ์เหตุด้วย ความรัก
ดูไม่น่าชังนัก เช่นนั้น
เพราะกลัวว่าชายจัก จางจืด ตนแฮ
หากว่าแก่ถึงกั้น กักแล้วเกินดี
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๘๖ เห็นเขาดีกว่าแล้ว ฤษยา เขาเอย
ตนบ่เทียมทเยอทยา ต่อสู้
ลุอำนาจฉันทา คิดแช่ง ชักแฮ
ปิดเท่าปิดหากรู้ เล่ห์น้ำทรายซึม
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๘๗ เห็นเขาเขาเฟื่องฟุ้ง ปัญญา
ต้องน่าคิดฤษยา อยู่บ้าง
ชั้นโคลงก็ระอา ดูไม่ คล่องเลย
ไฉนจักปลิดโง่สร้าง สระไว้แต่ปาง
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๘๘ เห็นทรัพย์ท่านมากแล้ว ปราถนา
เห็นยศศักดิ์ท่านปรา กฎไซร้
เห็นเรือนท่านโอฬาร์ แลชอบ
คิดแต่ร้ายส่งให้ เพราะด้วยฤษยา
กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์
๘๙ สองหญิงวิวาทสู้ ชิงกัน
เพราะว่าสามีผัน สู่ชู้
จึ่งเกิดเหตุตีรัน ตบต่อย กันแฮ
หัวน่าบ้าบิ่นหลู้ เหตุด้วยหวงหึงษ์
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๙๐ ฤษยาอาสัตยสิ้น ความอาย
ห่อนว่าใครใครหมาย ตัดสิ้น
เปนใหญ่ไป่คิดคาย คำเท็จ ทิ้งแฮ
ยกแต่ชั่วท่านปลิ้น ปลดร้ายตัวเอง
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๙๑ เห็นทรัพย์ท่านมากล้น บุญหลาย
ตัวห่อนเพียรจิตรหมาย มุ่งมล้าง
มิช้าก็จักวาย วินาศ
ความฤษยาตนสร้าง ชีพสิ้นสู่กรรม
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๙๒ นึกนึกลำลึกขึ้น เคืองใจ
ชะชะนางช่างกะไร บิดได้
อ่ออ่อมิรู้ใน ใจจิตร เจ้าเลย
ชิชิว่าแล้วไซร้ ใช่แกล้งหึงษ์นาง
๙๓ ฤษยานับเนื่องเข้า ในเกลศ
ทำจิตรเศร้าก่อเหตุ หม่นไหม้
ชนใดเมื่อสังเกต มีแก่ ตนแฮ
มามละเสียได้ จักไร้ไภยพาล
​กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๙๔ โทษะโมหะกลุ้ม ฤษยา
มีแต่ความอิจฉา ท่านไซร้
เยี่ยงนี้และจักพา ทุกข์เทวศ
จงประหยัดเสียให้ ห่างพ้นหายไภย
ความพยาบาท
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๙๕ อาฆาฎคิดตอบโต้ จองกรรม
พยาบาทเข้าครอบงำ จิตรไว้
มาดหมายมุ่งคอยทำ ร้ายท่าน
ใจดั่งนี้จักได้ โทษแท้ถึงตน
๙๖ ถึงเสียทองนั้นเท่า หัวตน
ดีกว่าเสียผัวคน หนึ่งนั้น
หญิงใดแปลกปลอมปน ปองสวาศ
พยาบาทมาดหมายหมั้น ตราบเท้าวันตาย
​๙๗ เจ็บใดเจ็บไม่สู้ เมียมี ชู้พ่อ
ดุจมีดแทงอินทรีย์ สับซ้ำ
ดังพรหมทัตธิบดี กรุงกระษัตร
ครุธลอบเชยนุชช้ำ จิตรจ้องปองผลาญ
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๙๘ คนใดประพฤติใช้ กลับกลอก กลิ้งเฮย
มักประจบหลังหลอก แลบลิ้น
อีกทั้งเมื่อจวนกรอก แทะกัด
พยาบาทมันจนสิ้น โลกหล้าธาตรี
๙๙ เจ็บใจเจ็บจิตรด้วย ความคิด
มีแต่ชวนชักบิด เกียจคร้าน
พยาบาทมาดหมายจิตร จักพาก เพียรแฮ
แม้นบ่เทียมหน้าม้าน มิดม้วนชวนอาย
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๐๐ กิเลศธรรมกล่าวอ้าง พยาบาท
คือประทุษฐอาฆาฏ คิดร้าย
ใครไม่ละห่อนขาด เวรต่อ เวรแฮ
ควรหย่อนยอมแพ้ผ้าย จึ่งพ้นเวรพัว
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๐๑ พยาบาทมาดมุ่งร้าย หมายทำ ท่านฤๅ
เวรย่อมตอบผลนำ ทุกข์ซ้อน
ก่อบาปบาปบ่บำ บัดโทษ เลยนา
แท้ที่จะดับร้อน เกิดด้วยใจดี
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๐๒ เจ็บจิตรคิดขัดแค้น เคืองนัก
บิตกูดพูดเยื้องยัก ฬ่อลิ้น
จับคดปดประจักษ์ จำจด ไว้นา
พยาบาทชาติคนปลิ้น ปวดคุ้มวันตาย
​๑๐๓ เปล่าเปล่าเอาพูดขึ้น ทับถม
โดยแต่ตัวนิยม อยากได้
แม้ตายก่อนก็สม ใจจุ่ง เผานา
ผิบ่ตายก่อนไส้ จักจ้องคอยเผา
๑๐๔ พยาบาทชาติหนึ่งแพ้ รู้หญิง
เจ็บดั่งปืนพิศม์ยิง อกย้อน
แค้นชายหมิ่นชายจริง ใจอาจ
แม้นไม่ตอบเต็มร้อน ใช่เชื้อชายชาญ
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๑๐๕ อาฆาฏคิดเคียดแค้น จองผลาญ กันนา
อาฆาฎคอยราญพาล ผูกไว้
อาฆาฎคิดเนิ่นนาน เวรต่อ เวรเฮย
อาฆาฏข้ามชาติได้ เหตุด้วยจองกรรม
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๑๐๖ เออขออาฆาฏเจ้า จนตาย
ทำชั่วบ่กลัวอาย เพื่อนบ้าน
เรารู้เล่ห์เงื่อนสาย นางดอก
พูดมุสาจัดจ้าน เถอะสิ้นบุญกัน
๑๐๗ ฉิใครหนอก่อเกื้อ โจรกรรม
ผ้าผ่อนเงินทองคำ เก็บเกลี้ยง
จับได้มั่นจักทำ สาหัศ เทียวพ่อ
ตบต่อยตีเตะเปรี้ยง แล่เนื้อเกลือทา
กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช
๑๐๘ พยาบาทหมายมาดไว้ สักวัน
คงจักเห็นใจกัน จุ่งได้
เฝ้าแต่จักบิดผัน ไปฝ่าย เดียวนา
เรามิตายก่อนไซร้ จักได้เห็นกัน
​กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๑๐๙ แค้นมิตรจิตรเจ็บเจ้า ใจสอง
ผัดผัดจะปรองดอง ด่วนได้
หลงงมอยู่ว่าปอง สวาศพี่
เถอะเถอะจักแกล้งให้ หักร้างห่างหอ
ความอาย
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๑๑๐ อายใดจักอาจคล้าย อายใจ
อายอื่นมิเปนไร เรื่องนั้น
ใจคิดจักไปไหน ห่อนขัด
อายจิตรนี้อัดอั้น ขัดทั้งไปมา
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๑๑๑ อับอายได้คิดแล้ว จึ่งจาง
ก่อนว่าพี่ทิ้งทาง สัตย์สิ้น
เขาหลอกเล่นแล้วนาง นับเชื่อ
กลับจักมาเล่นลิ้น เลิกแล้วเหลืออาย
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๑๑๒ บางคนอายสุดล้น เหลือเหตุ
ในเครื่องแต่งตัวเครช โก๊ตเสื้อ
อายกลัวไม่เหมือนเพศ อังกฤษ
เชิ๊ดเปรอะเปลี่ยนหลายเตื้อ แต่งให้จนสรวย
กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
๑๑๓ อายบาปแล้วอย่าได้ ทำการ บาปนา
อายผิดอย่าคิดพาล ชั่วช้า
อายหน้าอย่าประจาน จำอวด
อายกิจไม่ตั้งหน้า จักไร้ยศผล
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๑๑๔ อายใครไป่เปรียบด้วย อายพาล
พาลบ่อายอวดหาญ เก่งโอ้
เถียงเท็จไม่ถูกการ พาลห่อน อายแฮ
ปราชไม่ขอตอบโต้ พ่ายแพ้คำขวาง
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๑๕ เสียทีที่รอบรู้ อกเรา อกเอย
หลงเชื่อเสียเชิงเขา ลอบชู้
สาใจที่ใจเบา บางสติ
อายนักอายหน้าผู้ สอดแจ้งความงำ
๑๑๖ ความอายเปนเหตุให้ หายหลง โลภแฮ
อายผิดบ่เคยอง อาจสู้
อายตนว่าตนทรง ศักดิท่าน เลี้ยงแฮ
อายว่าชั่วดีรู้ เรื่องแล้วทำไย
๑๑๗ อายคนว่าทรัพย์ไร้ กว่าเขา ปวงฤๅ
อายว่าต่ำศักดิเรา ผิดผู้
อายตนว่าโฉดเขลา งมเงื่อง
อายเท่าอายไป่สู้ พูดพลั้งเสียจริง
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๑๘ อกเอ๋ยอนาถโอ้ อายนัก
หมายมอบรักไป่รัก ร่วมบ้าง
เปนชายและหญิงผลัก รักดั่ง นี้นา
คิดใคร่ด้นป่ากว้าง กว่าม้วยเมือมรณ์
๑๑๙ แสนอายหมายจักม้วย ไม่คืน เลยนา
ชายสละเหลือฝืน ภักตร์สู้
แค้นรักสลักกลืน ไปคล่อง กายฤๅ
เสียสัจจึ่งเสียรู้ สิแล้วทำไฉน
๑๒๐ ทุนน้อยไป่เทียบหน้า เพื่อนฝูง
ไร้ที่พึ่งพาพยูง ยกค้อน
สูงศักดิชักตนสูง สมเพศ
อายเร่งอายอกร้อน รุ่มเพี้ยงเพลิงเผา
​๑๒๑ สิ่งใดทำผิดต้อง จำอาย
ถึงบ่อายบ่มลาย ชั่วล้าง
ทำชอบไป่ควรหมาย อายอับ
ชอบจะชูชอบอ้าง ออกให้หายอาย
๑๒๒ อายบาปบ่อาจเอื้อน มารษา
อีกรักร่วมภรรยา ท่านห้าม
ลักทรัพย์เสพย์สุรา ผลาญสัตว
สิ่งชั่วกลัวอายคร้าม อยู่แล้วไปสวรรค์
๑๒๓ ความอายอาจป้องปิด การประทุษฐ
แม้บ่อายจักรุด เร่งร้าย
คติโลกและธรรมยุติ อยู่แต่ อายแฮ
แม้บมิอายลม้าย แม่นแม้นเดียรฉาน
​กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๑๒๔ อายใจด้วยไม่รู้ กลคน
อายว่าเกิดมาจน ป่านนี้
อายหน้าโง่งงฉงน งำเงื่อน เจียวแฮ
อายปากไม่อยากชี้ ชอกช้ำแสนอาย
๑๒๕ ชนใดประกอบด้วย อายเรียน
ชอบแต่การพาเหียร ต่ำช้า
หนังสือเลขการเขียน อายหัด
ชนชนิดนี้ถ้า เพื่อนพ้อพึงอาย
๑๒๖ อายอ่านฉบับเบื้อง ตำรา
จะเฟื่องเรืองวิทยา ห่อนได้
อายจัดคัดเลขา เขียนแต่ง
ใครจะกอบโกยให้ เรื่องรู้การจำ
​กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๒๗ อายคือหิริแท้ ท่านนับ
คงว่าอริยทรัพย์ หนึ่งแล้ว
คืออายบาปกรรมกับ อายจิตร ชั่วแฮ
นี้จึ่งนับว่าแก้ว ทรัพย์แท้ควรมี
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๒๘ รู้ อายห่อนแอบเอื้อ เอาสิน บนแฮ
อาย บาปทราบผิดผิน ห่อนพ้อง
วาย ทรัพย์ซอกหากิน ทางอื่น เอาเฮย
ทุกข์ บ่ถึงตนต้อง โทษร้ายภายหลัง
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๒๙ รู้ รบอบชอบผิดเอื้อ เอาใจ ตรึกแฮ
อาย บาปสุวภาพไป พลุ่งฟุ้ง
วาย วิตกหฤไทย นฤโทษ
ทุกข์ บมีตราบคุ้ง ชีพม้วยมรณา
​กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
๑๓๐ รู้ ชอบประกอบเกื้อ ยุติธรรม
อาย ชั่วกลัวบาปกรรม เหล่านี้
วาย เทวศพึงสำ เหนียกแน่
ทุกข์ จักสิ้นดุจชี้ ช่องให้ไปสวรรค์
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๓๑ รู้ คิดจักปลิดเปลื้อง โทมนัศ
อาย แต่ความกำหนัด นับพร้อม
วาย เศร้าโศกบำบัด เพราะหมด อยากแฮ
ทุกข์ ประกอบจงน้อม นึกน้าวหน่วงใจ
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๑๓๒ รู้ ชอบรบอบเบื้อง ทางธรรม
อาย แก่บาปกลัวกรรม เกิดไซร้
วาย ชนมชีพคงนำ ไปสู่ ชอบนา
ทุกข์ โทษบห่อนใกล้ เกี่ยงพ้นไภยไกษย
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๑๓๓ รู้ รอบประกอบพร้อม การดี
อาย ซึ่งสัจวาที พลาดพลั้ง
วาย เทวศจักทวี ภูลเพิ่ม ศุขแฮ
ทุกข์ บ่อาจต่อตั้ง แก่ผู้ปรีชา
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๑๓๔ รู้ ว่าคนใส่ถ้อย ความราย ร้ายแฮ
อาย แก่การหยาบคาย เลอะแท้
วาย โศกเพราะความหมาย ว่าไม่ จริงเฮย
ทุกข์ อยู่แต่แรกแก้ กลับได้ คืนคง
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๑๓๕ รู้ เสงี่ยมเจียมจิตรไว้ จงจำ
อาย แก่บาปกองกรรม ก่อเกื้อ
วาย ทรัพย์อย่าได้ทำ ลักฉก ท่านเฮย
ทุกข์ สิ่งไรสักเตื้อ หนึ่งนั้นไป่มี
​ความกลัวขลาด
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๓๖ กลัวตายหมายต่อต้าน มฤตยู
กลัวแก่กลัวเจ็บดู ดั่งบ้า
กลัวบาปบ่ำบวงบู ชาพร่ำ วอนแฮ
กลัวดั่งนี้ฤๅกล้า คลาศพ้นมัจจุไภย
๑๓๗ กลัวคำคนพูดโป้ ปดสนิท
กลัวเล่ห์ลิ้นงูพิศม์ พ่นร้าย
เปนช่องฉกชีวิตร วายชีพ
จำปลาศหวาดหวั่นย้าย ยักเยื้องตนหนี
๑๓๘ กลัวผีมีเพื่อนแล้ว ไป่หลอน หลอกเฮย
กลัวสัตวร้ายอย่าจร ป่ากว้าง
กลัวน้ำอย่าลงคอน เรือค่าม สมุทแฮ
กลัวแต่ลิ้นหลอกล้าง หลีกลี้หนีไฉน
๑๓๙ ใครใครใฝ่เฝ้าว่า กลัวภรร ยาแฮ
ใช่ชาติยักษา เสพย์เนื้อ
เกรงแต่จักโกลา หลอ่อน หูเอย
เมียมากกลัวหมดเชื้อ ชาติผู้เมธา
๑๔๐ สู้ถนอมออมจิตรเจ้า จงรัก
ใดขัดเคืองน้องนัก จึ่งขึ้ง
ถึงเจ้าผิดพี่จัก งดเงือด เสียนา
วานแต่หน้าอย่าบึ้ง บิดให้หลังเรียม
๑๔๑ ขลาดใดไม่แม้นแรก รักหญิง
ขนซ่าประหม่าจริง จิตรเต้น
ร้อนเหลือเหงื่อหยดติ๋ง เต็มเปียก ผ้าแฮ
กระหมุดกระหมิดมิดเม้น ไม่ช้าฉ่าหาย
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๑๔๒ กลัวใจเจ้าต่อหน้า ว่าพลับ
ขลาดฬ่อลับหลังกลับ เก่งก้อ
กลัวจริงชาติสับปลับ ไม่อยาก คบเอย
ขลาดแต่ปากใจล้อ หลอกเหล้นเหลือคน
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๑๔๓ ความกลัวไภยทั้งแปด เหลือหลาย
เพราะเกิดแล้วอันตราย มอดม้วย
กลัวเมียดุดูอาย พวกเพื่อน เขานา
เขาจักเย้ยเยาะด้วย ตอบถ้อยเขาไฉน
๑๔๔ กลัวผีผีหลอกให้ ชั่งมัน
กลัวแต่คนด้วยกัน หลอกล้อ
ผีหลอนสวดมนต์พลัน พินาศ หนีเฮย
คนหลอกคิดย่อท้อ สุดแก้จำจน
กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์
๑๔๕ กลัวความแลขลาดข้อง สิ่งไภย
กลัวเจ็บแลกลัวไป ทั่วทั้ง
กลัวผิดคิดกลัวไอย การท่าน ทำนา
กลัวพลาดประมาทพลั้ง จักต้องฎีกา
กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
๑๔๖ กลางทุ่งกลัวแต่ร้อน สุริยัน
เข้าป่ากลัวหมู่สรรพ์ สัตวร้าย
เดินเปลี่ยวขลาดคนจรร ไรหมู่ โจรนา
เรือล่มจมหัวท้าย ขลาดด้วยกุมภีล์
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๑๔๗ กลัวใดไม่เท่ากล้อง จะหัก
ทั้งชื่อย่อน่ารัก ยิ่งแท้
เสียแรงสูบเปนนัก หนามาก
จักสั่งก็พ่ายแพ้ เพราะต้องสูบนาน
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๔๘ กลัวเจ้าพี่จึ่งได้ ตามใจ เจ้าแล
เจ้าเคียดเคืองผู้ใด พี่ด้วย
เจ้าห้ามพี่ห่อนไกล คำกล่าว
เยียวดั่งนี้หน้าสร้วย ไป่สิ้นความเคือง
๑๔๙ กลัวท่านผู้ยิ่งด้วย ยศถา ศักดิฤๅ
น้อมนอบยอบกายา ขาดขึ้ง
กลัวพาลพวกพาลพา โทษทุ่ม ถึงฤๅ
แม้จะไปไกลซึ้ง สุดฟ้ามาทัน
๑๕๐ กลัวนักมักถดท้อ ถอยความ เพียรแฮ
ผิบ่กลัวหยาบหยาม โทษแท้
ใคร่ครวญแต่ควรตาม ผลเหตุ
จึ่งจักเปนยาแก้ กิจทั้งสองสถาน
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๕๑ อริยทรัพย์คู่ด้วย ความอาย
กลัวแก่ชั่วห่อนหมาย กอบเกื้อ
อย่างนี้ท่านบรรยาย ว่าเลิศ
ควรปราชจะเอื้อเฟื้อ เพื่อได้ศุขรมย์
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๑๕๒ กลัวสัตวจัตุบาทร้าย เราะราน
กลัวอีกพวกคนพาล ปลิดปล้น
กลัวทั้งเรื่องวายปราณ กลัวมาก
กลัวอัคคียิ่งพ้น เพราะไหม้เรือนชาน
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๕๓ รู้ ประหยัดตัดราคกล้า พาตาย
ขลาด หน่อยค่อยขยับขยาย อย่าห้าว
ขาด โทษโหดไภยสบาย สมจิตร
ผิด คาดมาดก้าวร้าว เกิดร้ายตายโหง
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๑๕๔ รู้ ประมาณผิดชอบแล้ว อย่ายล
ขลาด แต่พอควรกล อย่ากล้า
ขาด ทุกข์ศุขจักดล มาสู่ ร่างแฮ
ผิด ประพฤตินี่เร็วช้า ห่อนได้ศุขเกษม
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๑๕๕ รู้ ฦกมักต้องเหนื่อย ราชกิจ
ขลาด นักมักได้บิด ศุขบ้าง
ขาด ปราชตัดสินผิด แลชอบ
ผิด ถูกทั้งสองข้าง ออกแต้มต่างกัน
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๕๖ รู้ ระวังยั้งจิตรห้าม หฤไทย ตนเทอญ
ขลาด เร่งขลาดราชไภย จักพ้อง
ขาด ชอบกว่าเกินไป เปนแน่ แล้วพ่อ
ผิด เพราะอวดดีต้อง โทษแล้วฤๅคืน
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๑๕๗ รู้ กิจจงเร่งให้ รำพึง
ขลาด ห่อนได้รู้ถึง กิจนั้น
ขาด ประโยชน์จักคนึง ถึงผิด นาพ่อ
ผิด สิอกอัดอั้น อ่อนเอี้ยเสียใจ
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๕๘ รู้ อันใดชอบต้อง พิจารณ์
ขลาด แต่กฎไอยการ ท่านห้าม
ขาด ทุกข์ขาดรำคาญ เพราะขลาด ควรแฮ
ผิด บ่มีอย่าคร้าม ถูกแล้วควรทำ
กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
๑๕๙ รู้ เจียมตนอย่าได้ ลวนลาม
ขลาด ท่านผู้ยศงาม ยิ่งแท้
ขาด จากโลภแลความ อาฆาฏ
ผิด ไป่ต้องตนแม้ ชีพม้วยนามเจริญ
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๑๖๐ รู้ อะไรแม้นจักพร้อง พาที
ขลาด ปากไว้จักดี กว่ากล้า
ขาด พูดใช่จักมี ใครข่ม ขืนนา
ผิด เพราะพูดเองอ้า กลับได้ฉันใด
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๑๖๑ รู้ รอบชอบผิดแล้ว จึ่งทำ
ขลาด สิ่งชั่วคงนำ ชอบให้
ขาด ความทุกข์เพราะจำ คำท่าน สอนนา
ผิด บ่เบียดเบียนใกล้ เหตุด้วยขลาดควร
ความกล้าหาญ
กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช
๑๖๒ ใครใครทรยศเจ้า จอมปราณ
ถึงว่ายกพวกพาล แน่นหล้า
หมื่นแสนมากประมาณ บ่ย่อ ใครเฮย
คงจะองอาจกล้า ต่อต้านจนตาย
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๑๖๓ สู้สงครามศึกนั้น ไป่หนี
ด้วยเดชพระบารมี ปกเกล้า
ขอเอาซึ่งชีวี สนองพระ คุณนา
ถึงศึกมาแน่นเหล้า แหล่งหล้าฤๅหนี
กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์
๑๖๔ สองนายสองต่างเข้า ถือพลอง
มือถมัดจัดจกจอง จับหมั้น
ต่างตีต่างรับรอง ปกปิด กันแฮ
กล้าต่อกล้าร่ารั้น ตอบโต้ไปมา
๑๖๕ เปนนักเลงปากโป้ง เมาสุรา
สูบฝิ่นกินกันชา อย่างนั้น
หนึ่งเปนนักเลงหา ตามบ่อน
เปนนักเลงปล้นคั้น เก่งกล้าพาเสีย
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๑๖๖ ชิชิอ้ายดุร้าย ราวี
เองช่างกล้าหาญดี ดุดื้อ
ตัวกูห่อนจักมี ความผิด
ทำพูดเอ็ดอึงอื้อ เพราะข้าเปนหญิง
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๑๖๗ ใจกล้าเมื่อจิตรฟุ้ง ฟังพาล
ทุจริตคิดพกขวาน มีดจ้อง
เสพย์สุรามักให้การ ก๋าเก่ง เกิดเฮย
ถูกจับปรับไหมต้อง ตอบโต้ติดจำ
กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
๑๖๘ หาญกล้าสามารถแท้ ฤๅไฉน
อวดว่าห่อนมีใคร จักสู้
ไม่กล้าอย่าอวดไป เปล่าเปล่า
แม้นว่าใครใครรู้ จักยิ้มเยาะสรวล
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๖๙ มักกล้าอย่ากล้ายิ่ง กว่ากำ ลังแฮ
เหตุบ่เลือกทำจำ บิ่นแท้
หย่อนกล้ามักเกิดลำ บากบุบ บู้แฮ
เหตุเพราะอ่อนอ้อแอ้ เล่ห์นี้ควรตรอง
๑๗๐ เปนชายมีชาติทั้ง กตัญญู แล้วแฮ
ผิว่าเกิดสัตรู ตฤกไซร้
พึงกล้าอย่าเยี่ยงหนู หนีจั่น
ม้วยสักสามหนได้ จ่งสู้สามหน
๑๗๑ ควรอาจแลอาจกล้า มีผล ใหญ่แฮ
เฉกเช่นสองภูวดล แต่กี้
ร่วมราชหฤไทยรณ รงค์ร่วม กันแฮ
เชวงพระเดชตราบนี้ ไป่สิ้นสรรเสริญ
​๑๗๒ ทางธรรมเปนที่อ้าง แต่การ โพ้นเฮย
สิธาตถ์ราชกุมาร ท่านนั้น
แสวงศุขหน่ายสงสาร หมายอมัต ธรรมฤๅ
องอาจสามารถดั้น ป่าค้นธรรมควร
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๗๓ กล้าแล้วให้กล้าเรื่อง การสง ครามแฮ
กล้ายิ่งกล้าจริงคง ชอบบ้าง
กล้าหญิงอย่าทำทนง รึร่ำ เรียนพ่อ
กล้าเรื่องนี้จักล้าง ชีพม้วยวายชนม์
๑๗๔ นายขนมต้มรับ ชกถวาย
กับพม่าคนหลาย พ่ายแพ้
มังลองออกโอฐขยาย คำชอบ หฤไทยแฮ
กล้าเช่นนี้ดีแท้ นี่แล้ชาวสยาม
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๗๕ คนกล้าสามารถกล้า อวดขรม
อยู่หอกล่องหนสดม ผูกผ้า
เห็นกล้าอย่าเพ่อชม ยามเล่น สบายนา
กล้าเล่นกับแกล้วกล้า ศึกนั้นคนละเพลง
๑๗๖ สาตรากุมเกาะไว้ กับกร ตนแฮ
เข้าสู่ท่ามกลางสมร มั่วกลุ้ม
แม้นปราศสุรชาติหยอน แสยงสัต ตรูเฮย
อาวุธตนบ่คุ้ม ชีพได้ไชยไฉน
๑๗๗ ทวยหาญจำหื่นเหี้ยม หนรณ
บริรักษ์ด้าวแดนตน ตราบม้วย
มาทตายท่ามกลางผจญ จงชื่อ เฉลิมแฮ
ผิรอดเรืองยศด้วย อยู่ด้าวแดนเขษม
​๑๗๘ พลเรือนชอบรู้รักษ์ ราชกิจ
ยามเกิดการต่อติด ตอบต้าน
ควรอ่อนผ่อนผันคิด จนสุด คิดแฮ
ควรอาจอาจคัดค้าน ชีพใช้คือตะพาน
๑๗๙ สมเด็จปิ่นภพด้าว เถลิงถวัลย ราชแฮ
ทรงกอบสุรภาพสรรพ์ สบถ้วน
ควรในนครกัน นิกรกาจ โกงแฮ
มีศึกซ่องพลม้วน มั่วเข้าสู่สมร
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๑๘๐ กล้าจริงฤๅแซ่งแกล้ง ทำก๋า
หาญไม่ทันพริบตา วิ่งแต้
กล้าปากแต่ใจพา ไปก่อน
หาญเช่นนี้ที่แท้ อกเต้นเต็มกลัว
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๘๑ รู้ ศิลประสาตรสิ้น สบสถาน
กล้า แสะกล้าสารหาญ เศิกสู้
พา พลประจัญบาน ปรปักษ์ ป่นแฮ
ชอบ เกิดเพราะตนกู้ เกียรติไว้ในณรงค์
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๑๘๒ รู้ เรียนในเรื่องใช้ แล่นใบ เล่นเฮย
กล้า คลื่นกล้าลมใน สมุทกว้าง
พา หนีรี่หนีไป พ้นเขตร
ชอบ จะไล่ไล่คว้าง นึกได้ดังประสงค์
กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
๑๘๓ รู้ อวดหาญว่ากล้า แขงขัน
กล้า เที่ยวคุมเหงพรรค์ พวกพ้อง
พา ให้จิตรหุนหัน เพราะโกรธ
ชอบ แต่ราชกิจต้อง อยู่แล้วเปนดี
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๘๔ รู้ กระบวนควรอาจนั้น หลายสถาน
กล้า หนึ่งกล้าแขงงาน ไป่ลี้
พา ตนเชี่ยวชาญการ กิจรอบ รู้แฮ
ชอบ เพราะกอบการนี้ ชอบช้าพาสบาย
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๑๘๕ รู้ การรบเศิกสู้ สัตรู
กล้า ออกไปพันตู ต่อต้าน
พา พวกเพื่อนวิ่งกรู ลามไล่ รุกแฮ
ชอบ จิตรสนุกจ้าน เหตุได้รณรงค์
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๘๖ รู้ ผิดชอบรอบแล้ว พึงพินิจ
กล้า ต่อคนพาลคิด คดเจ้า
พา ศุขแก่ตนติด ตราบชั่ว อายุแฮ
ชอบ ย่อมเสริมเติมเข้า เขตรคุ้มวงษ์วาน
​ความเกียจคร้าน
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๑๘๗ ความเกียจคร้านนั้นมาก เหลือหลาย
เอ้อูดกลักกลับกลาย บ่นอู้
จักทำกิจเช้ากลาย เปนค่ำ
เพียรผัดตัวเองสู้ ปดโป้โยเย
๑๘๘ ขี้เกียจเรียนเล่ารู้ ทางธรรม
เล่นแร่แปรธาตุนำ จิตรฟุ้ง
หลอมเงินกลับเปนคำ เนื้อแปด
นั่งที่ไหนคุยคลุ้ง แต่ข้อเห็นคุณ
๑๘๙ กินเข้าอิ่มก่อนได้ ดูหนัง โขนเฮย
แม้ว่าอิ่มทีหลัง ถูกล้าง
ถ้วยชามที่ติดกรัง โสโครก
กว่าจะได้เที่ยวบ้าง ยากพ้นคณนา
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๑๙๐ เกียจคร้านการบ่เอื้อ ทำหา กินเฮย
นอนนิ่งคิดปฤษณา นั่งเพ้อ
คิดขุดแต่วัดวา เวรบาป
เล่าบ่นมนต์เพ้อเจ้อ จัดสู้หมู่ผี
กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
๑๙๑ จงอย่าเกียจคร้านดุจ คนเขลา
เห็นปราชกลับติเขา ว่าร้าย
จิตรตนย่อมมัวเมา งมโง่
คนอย่างนี้ดูคล้าย ชาติแท้เดียรฉาน
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๑๙๒ เกียจคร้านการต่ำช้า เหล่าสถุล
เพียงแต่หาหนุนทุน ใส่ท้อง
มัวนอนนั่งเงื่องงุน งมเปล่า
ไส้แหบแห้งจักร้อง ร่ำไห้หาใคร
​๑๙๓ อาวุธแม้นเกียจคร้าน อานขัด
จนถนิมจับถนัด หนักตื้อ
วิทยาเกียจซ้อมหัด หายเสื่อม
จวนจวบเอาจริงรื้อ จักใช้ฉันใด
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๑๙๔ เกียจคร้านนี้ย่อมให้ เสื่อมยศ ศักดิ์เฮย
โดยทรัพย์สินปรากฎ มากล้น
เกียจคร้านก็คงหมด ห่อนมาก ขึ้นนา
ความฉิบหายไม่พ้น แน่แท้อย่าคนึง
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๑๙๕ รดูร้อนเหลือเกียจคร้าน พันทวี
ยิ่งบ่ายยิ่งแดดมี แต่ต้อง
เต็มสโตรกจนสี แห้งเหือด
คิดสิ่งใดขัดข้อง เกียจคร้านพานถึง
​กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๑๙๖ ชนใดประกอบพร้อม ยศถา ศักดิ์เฮย
ทั้งทรัพย์สินคณนา นับล้าน
อีกนาไร่เคหา สวนเรือก
ผิว่ามีแต่คร้าน จักสิ้นทรัพย์สูญ
กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๑๙๗ เกียจกายหมายแต่ให้ บุญมา เองฤๅ
นอนนิ่งไป่นำพา อื่นเอื้อ
แต่จิตรคิดจักหา ยศลาภ
ครั้นบ่สมสักเตื้อ บ่นเพ้อพึมพำ
๑๙๘ เกียจคร้านหาโภชนน้ำ จำอด หิวแฮ
เกียจปิดเรือนชานหมด ผ่อนผ้า
เกียจทำราชกิจยศ จำขาด
เกียจก่อบุญตั้งหน้า สู่น้ำนรกานต์
​๑๙๙ ความคร้านเกิดเพื่อไข้ รุมรึง หนึ่งแฮ
คร้านเพื่อความทุกข์ถึง หนึ่งอ้าง
คร้านหนึ่งคิดรำพึง เห็นขัด สนแฮ
คร้านไป่เทียมครึ่งข้าง ดับสิ้นบุญเพรง
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๒๐๐ เกียจคร้านแล้วไป่ได้ วิชา
เกียจเล่าเรียนรู้มา ห่อนได้
เกียจการกิจนานา โหดทรัพย์ นาพ่อ
เกียจราชการนี้ให้ ชอบนั้นสูญหาย
กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์
๒๐๑ ชนใดมละทิ้ง ความเพียร
คิดสละในการเรียน รอบรู้
ฉวยตกอับสิเจียน จักมอด
ใครเล่าจักช่วยกู้ เกียจคร้านพาเสีย
กรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์
๒๐๒ เกียจ การในบ้านช่อง เรือนตน
คร้าน บ่เอาใจสน ใส่บ้าง
การ กิจแต่ทำวล การเล่น พนันเฮย
เสีย ทรัพย์เสียเรือนร้าง หมดสิ้นเสียตัว
กรมพระเทวะวงษ์วโรประการ
๒๐๓ เกียจ กันการท่านใช้ เฉภาะตน
คร้าน กิจแลบ่ดล จิตรเกื้อ
การ นั้นจับเสือกสน ไสส่ง ไปแฮ
เสีย เพราะไม่เอื้อเฟื้อ แต่ด้วยตนเอง
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช
๒๐๔ เกียจ กันนับได้ชื่อ ว่าอิจ ฉาเฮย
คร้าน ละเสียให้สิทธิ์ อย่าใช้
การ งานเรื่องราชกิจ คร้านจัก ผิดพ่อ
เสีย อิจฉาขาดได้ ดั่งนี้มีผล
​กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
๒๐๕ เกียจ กินแล้วไป่ได้ การดี
คร้าน อ่านแลเขียนมี โทษแท้
การ สิ่งซึ่งเปนศรี สวัสดิไป่ มีเลย
เสีย ชาติตระกูลแล้ ชื่อหน้าหม่นหมอง
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัติวงษ์
๒๐๖ เกียจ ฟังจะหยั่งรู้ ฉันใด
คร้าน คิดคิดอย่างไร จักได้
การ ถามไป่ถามไป ใครจัก บอกแฮ
เสีย ลิขิตนี้ให้ เสื่อมผู้เมธา
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๒๐๗ เกียจ กิจหาเลี้ยงชีพ ใดมี กินฤๅ
คร้าน มักทรัพย์ศักดิ์ศรี ห่อนได้
การ งานเกิดแล้วหนี ไปแอบ เสียนา
เสีย ศุขทุกข์มาใกล้ เกี่ยงกั้นกันสบาย
​กรมหลวงพิชิตปรีชากร
๒๐๘ เกียจ กันเข้าอื่นผู้ มีความ เพียรแฮ
คร้าน จิตรไป่คิดหาม หาบบ้าง
การ เขากิจตนปราม ประโยชน์ เสียนอ
เสีย หมดสองฝ่ายอ้าง เช่นนี้ชนพาล
พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๒๐๙ เกียจ การผู้อื่นแกล้ง รังเกียจ
คร้าน มากไม่อยากเหยียด หัดถ์ต้อง
การ ตนป่นปี้เลอียด ไป่อยาก เอื้อแฮ
เสีย ทรัพย์สิ้นพวกพ้อง เผ่าผู้หมู่พงษ์
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๒๑๐ เกียจคร้านนี้ย่อมให้ เสื่อมยศ ศักดิ์เฮย
โดยทรัพย์สินปรากฎ มากล้น
เกียจคร้านก็คงหมด ห่อนมาก ขึ้นนา
ความฉิบหายไม่พ้น แน่แท้อย่าคนึง
​ความเพียร
กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์
๒๑๑ ความเพียรนี้ชอบทั้ง นานา กิจเฮย
อีกราชกิจหา ชอบได้
ผู้ใดหมั่นศึกษา ในกิจ ตนแฮ
จัดประกอบคุณให้ รอบรู้การงาน
๒๑๒ เพียร ชอบแลรอบรู้ ทางธรรม
ดี ประพฤติจดจำ ถี่ถ้วน
มี ทุกข์จะพาสำ ราญศุข
ผล แห่งความรู้ล้วน อาจให้ศุขเกษม
กรมหมื่นพรหมวรานุรักษ์
๒๑๓ เพียร แสวงหาสิ่งเบื้อง วิทยา
ดี ดั่งใจจินตนา รักรู้
มี ศิลปสาตรปรา กฎยิ่ง
ผล จักนำศุขสู้ ส่งให้ใจเขษม
​๒๑๔ เพียร คิดประกอบพร้อม การหา กินเฮย
ดี เพราะทรัพย์จักมา สู่เหย้า
มี จิตรแต่เปรมปรา เนืองนิตย์ ไปเฮย
ผล จะกันใจเศร้า หม่นไหม้โศกตรอม
กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ
๒๑๕ พากเพียรเวียนหมั่นเฝ้า ทุกวัน
ท่านจักใช้อย่าฉัน เฉกเหล้น
ตั้งจิตรคิดกตัญ ญูต่อ ท่านนา
การท่านอย่าได้เว้น เปรียบด้วยการตน
๒๑๖ เพียร คิดเพียรอ่านอ้าง เพียรจำ
ดี แน่กว่าแฉะฉำ เฉกบ้า
มี กิจสิ่งไรทำ จงตริ ตรองแฮ
ผล ที่อุส่าห์กล้า จักให้เห็นผล
​พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๕
๒๑๗ เพียร บ้างอย่างเจ๊กเจ้า เข้าพอง
ดี เพราะทนเด็กคนอง แย่งยื้อ
มี ของเล็กน้อยปอง แลกเปลี่ยน
ผล เพิ่มเพราะเพียรดื้อ จึ่งได้เลี้ยงตน
๒๑๘ หมั่นเพียรเรียนรู้แต่ ยังเยาว์
เมื่อเติบต่อตามเลา เล่ห์รู้
หากินกอบการเอา ประโยชน์ ตนเฮย
เพียรชอบประกอบกู้ ก่อสร้างตนเกษม
๒๑๙ มีเพียรประดุจได้ ขุมทรัพย์
มากประมาณโกฏินับ ไป่ถ้วน
เปนพื้นภาคภูมรับ การร่ำ เรียนนา
ความศุขสมบัติล้วน เสร็จได้โดยเพียร
​๒๒๐ ผู้ดีมีชาติเลี้ยง กูลวงษ์
ประมาทจิตรคิดทนง เชื่อหน้า
ไป่เพียรกลับพาพงษ์ ตนเสื่อม สูญแฮ
นานหน่อยค่อยตกช้า หมดเชื้อมีชุม
๒๒๑ ชนใดมีชาติช้า เลวทราม
เพียรอุส่าห์พยายาม หมั่นหมั้น
อยู่บดอยู่ฝนความ รู้แก่ เกินแฮ
กลับยศใหญ่ยิ่งชั้น เช่นเชื้อผู้ดี
๒๒๒ ขาดเพียรสิ่งหนึ่งนี้ ชั่วหนัก
คืออัปมงคลชัก ถ่อยแท้
ห้ามทรัพย์อีกยศศักดิ์ ความศุข สบายแฮ
เปนอภัพแล้วแล้ ตลอดทั้งโลกธรรม
​สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์
๒๒๓ ความเพียรประเสริฐล้ำ เลี้ยงตน
เพียรอุส่าห์ขวายขวน ย่อมได้
เข็ญใจทุพลทน ทุกข์ยาก อยู่นา
เพียรมากสิ้นยากไร้ รอดพ้นโดยเพียร
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
๒๒๔ เพียร ทางปฏิบัติเบื้อง ศีลทาน
ดี กว่าที่เปนพาล หยาบช้า
มี แต่วัฒนาการ เรืองรุ่ง
ผล มักเกิดแก่กล้า หักห้ามอบายภูมิ์
๒๒๕ เพียรเรียนคงรอบรู้ วิทยา ยงนา
เพียรคิดเสาะแสวงหา ทรัพย์ได้
เพียรเจริญซึ่งภาวนา กุศลส่ง สนองแฮ
เพียรดั่งนี้ชอบใช้ ทุกผู้สาธุชน
​๒๒๖ เมื่อแรกเริ่มรักชู้ ชอบเพียร
เฝ้าคิดเพลงยาวเขียน ส่งให้
หญิงตัดคิดร่ำเรียน ครูต่อ ไปนา
เพียรคิดเพียรแคะไค้ กว่าสิ้นสบประสงค์
๒๒๗ ชนใดประกอบเกื้อ การเพียร
หัดอ่านหนังสือเรียน เลขรู้
เพียรน้อยชักพาเหียร หันกลับ
เพียรมากสบศุขสู้ ทุกข์สิ้นสร่างศัลย์
โฆษณา