เราได้เห็นภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เซ็นทรัลพัฒนา เป็นมากกว่าศูนย์การค้า แต่สามารถ Diversity ธุรกิจ และทำให้ทุกโครงการทั้งศูนย์การค้า และโครงการที่มีหลายองค์ประกอบรวมกันเป็น Mixed-Use นั้น ทำหน้าที่เป็น Center of Life ศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างสมบูรณ์แบบ
โดยจะมีศูนย์การค้าเป็น Core หลัก เป็นโมเดล Retail-Led ที่ไม่เหมือนใคร และทุกธุรกิจยังเชื่อมโยง Synergy ช่วยสนับสนุนกัน หรือที่เรียกว่า The Ecosystem for All นั่นเอง
การสร้าง Ecosystem ทางธุรกิจ ไม่ใช่แค่มีธุรกิจอสังหาฯ หลากหลายอย่างเดียว แต่ทุก ๆ อสังหาฯ จะต้องมีความแข็งแกร่ง อีกทั้งยังต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนา Mixed-Use ให้ตอบโจทย์ชีวิตของผู้คนในมิติ โดยมี 4 เรื่องที่ถือเป็นจุดแข็งของเซ็นทรัลพัฒนา คือ Best Location, Best Catchment Analysis ขยายไปที่ไหนทำเลต้องดีและมั่นใจในดีมานด์ของคน, Best Master Planning วางแผนและออกแบบให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมโยงกัน และการจับมือกับ Best Partners ที่มีความเชี่ยวชาญ
โดยโมเดล ‘Retail-Led’ ที่เริ่มต้นจากการพัฒนาส่วนศูนย์การค้า ยังคงยึดหลัก Centre of Life ที่พัฒนาย่าน เมือง และคุณภาพชีวิตของผู้คนและรอบๆ ให้เติบโตไปพร้อมๆ กัน ขยายความเจริญไปทั่วประเทศ
- Central Park
ศูนย์การค้าระดับ Masterpiece ในทำเลใจกลางถนนสีลม ที่เป็น Super Core CBD ที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ
และยังมีอีกหลายโครงการ Transformation บนโลเคชันที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็น Centre of the District อยู่แล้ว เป็นการปรับโฉมตอบโจทย์ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น โดยจะมี Magnet Destinations ใหม่ ทั้ง Fashion, Food Hub, Family & Education ดีที่สุดในแต่ละย่าน
ที่เราจะได้เห็นแน่ ๆ ปีนี้ “เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า” เปิดภาพมากระแสตอบรับดีเกินคาด สมเป็น New Soul of the District และ “เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ” เติม Vibe ใหม่ ๆ เข้าไป ที่ชวนให้น่าไปถ่ายรูป และร้านอาหารใหม่ ๆ อีกมากมาย ที่จะมี Magnet ใหญ่อย่าง HarborLand คอนเซปต์ใหม่, Bounce และเตรียมพบกับ Anchor Store ใหญ่จากญี่ปุ่นด้วย
ที่มีทั้งที่อยู่อาศัย, สถานที่ทำงาน, สถานที่พักผ่อน และพื้นที่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ที่เชื่อมต่ออยู่ในทำเลเดียวกันหรือที่ทาง เซ็นทรัลพัฒนา นิยามว่าเป็นการสร้าง Center of Life ให้แก่ลูกค้าตัวเอง