Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Supreecha | Behind the Brief
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 11:28 • การตลาด
เขียนโพสต์ยังไงให้คนอ่านจนจบ ไม่เลื่อนผ่าน (แม้เป็นโพสต์ขายของ)
Copywriting ที่ดีไม่ต้องยาว แค่ต้อง “พาเดินต่อ” ได้ในทุกบรรทัด
หลายคนตั้งใจเขียนโพสต์ดีๆ สาระครบ จิตใจมาเต็ม…
แต่พอกดโพสต์ไปจริงๆ กลับมีคนกดไลก์ 3 คน และคอมเมนต์เงียบกริบ
ไม่ใช่ว่าคอนเทนต์ของคุณไม่ดี
แต่อาจเป็นเพราะ รูปแบบการเล่าเรื่อง ยังไม่ “จับสายตา” คนอ่านในโลกที่เต็มไปด้วยโพสต์นับร้อย
วันนี้เรารวมเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้โพสต์ของคุณ “ดึงคนให้หยุด” “อ่านต่อจนจบ”และ “(คอมเมนต์ แชร์ หรือคลิก) ตามที่คุณตั้งใจไว้”
🍋 เปิดโพสต์ด้วยประโยคที่ “สะกิดใจ” ทันที
เพราะคนจะตัดสินว่า “จะอ่านต่อหรือเลื่อนผ่าน” ภายในไม่กี่วินาทีแรก ยิ่งบนมือถือ พื้นที่ที่มองเห็นมีแค่ 1–2 บรรทัดแรกเท่านั้น
ถ้าคุณเปิดด้วยประโยคธรรมดาๆ อย่าง “วันนี้จะมาเล่า…” หรือ “สวัสดีค่ะทุกคน” โอกาสที่คนจะสนใจต่อแทบไม่มีเลย
คุณควรใช้ประโยคที่กระตุกอารมณ์หรือสร้างคำถามในใจผู้อ่านทันที เช่น
“โพสต์ทุกวัน แต่ยอดขายยังนิ่งสนิท?”
“ลูกพูดอังกฤษไม่ได้… หรือจริงๆ เราเริ่มช้าไป?”
“เหนื่อยไหม? ทำคอนเทนต์มาทั้งปีแต่ไม่มีใครเห็น”
ไม่ใช่ “วันนี้เราจะมาเล่าเรื่อง…”
แต่ควรเป็นคำถาม หรือประโยคที่ตรงกับปัญหา/ความสงสัยของผู้อ่าน เช่น
“โพสต์ทั้งที ทำไมไม่มีคนอ่าน?”
“คุณโพสต์ทุกวัน แต่ยอดขายยังนิ่งสนิท?”
“ระหว่าง ‘ไลก์เยอะ’ กับ ‘ขายได้’ คุณอยากได้อะไรมากกว่ากัน?”
เทคนิค ➽ ใช้ประโยคแรกไม่เกิน 2 บรรทัด + มีอารมณ์หรือคำที่สะดุดตา
🍋 เว้นบรรทัดให้หายใจ
ไม่มีใครอยากอ่านก้อนข้อความใหญ่ๆ แบบไม่มีช่องว่างเลย เพราะสายตาคนอ่าน (โดยเฉพาะในมือถือ) จะรู้สึก “หนัก” ทันที เหมือนเวลาเห็นข้อความยาวติดกันแบบไม่หยุดพัก สมองจะเลือก “ข้ามไปก่อน”
ต่อให้เนื้อหาดีแค่ไหน ถ้าไม่พักสายตา = โอกาสโดนเลื่อนผ่านสูงมาก
เว้น 1 บรรทัดทุกย่อหน้า
เพื่อให้ข้อความ “หายใจ” ได้ และดูไม่แน่นจนเกินไป
เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้คนกล้าเริ่มอ่านและรู้สึกว่า “โพสต์นี้อ่านง่าย ไม่เหนื่อย”
ใช้ bullet point / emoji ช่วยแบ่งประเด็น
การจัดลำดับเป็นข้อๆ ทำให้สมองประมวลผลเร็วขึ้น และ emoji ช่วยให้โพสต์มีชีวิต ลดความเป็นทางการจนเกินไป
เช่น 👇
✓
สั้น
✓
ชัด
✓
เข้าใจง่าย
✓
น่ารักนิดๆ ชวนอ่านมากขึ้น
ใช้ “คำสั้นกระชับ” ที่ชวนรู้สึก
เช่น “อึดอัด” “เลื่อนผ่าน” “ไม่มีคนดู” “เหนื่อยแต่ขายไม่ได้”
คำเหล่านี้เป็นคำที่ “คนคิดในใจแต่ไม่พูดออกมา” การหยิบมาใช้ในโพสต์จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่า “ใช่เลย เรากำลังเจอแบบนี้” ช่วยเพิ่มอารมณ์ให้โพสต์และดึงความสนใจได้ดีมาก
เทคนิค ➽ ยิ่งบนมือถือ → ยิ่งต้องเขียนให้อ่านง่ายเป็นพิเศษ
เพราะกว่า 90% ของผู้ติดตามจะอ่านโพสต์คุณผ่านมือถือ ถ้าเปิดมาปุ๊บแล้วเจอ “ย่อหน้ายาวเต็มจอ” มีสิทธิ์โดนเลื่อนทันที
โพสต์ที่อ่านง่าย โอกาสมี engagement สูงขึ้นแบบไม่ต้องยิง Ads เพิ่ม
🍋 เขียนให้เหมือนคุยกับเพื่อน ไม่ใช่สอนจากบนเวที
เลี่ยงภาษาทางการเกินไป
เช่น “ดังนั้นท่านควร” เปลี่ยนเป็น “ลองทำแบบนี้ดูสิ”
เพราะการใช้ภาษาทางการเกินไปจะทำให้คอนเทนต์ดูห่างเหิน แข็งทื่อ และไม่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดียที่คนอยากอ่านอะไรเบาๆ เป็นกันเอง ไม่ใช่ฟังบรรยายในห้องประชุม การเลือกใช้คำแบบคนจริงๆ พูดกัน เช่น “ลองแบบนี้ไหม” หรือ “แบบนี้ก็ได้นะ” จะช่วยลดกำแพงระหว่างแบรนด์กับคนอ่านได้มาก
พูดแบบเป็นมิตร จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่า เออ เหมือนเพื่อนมาคุย ไม่ใช่โฆษณาอีกแล้ว
คอนเทนต์ที่ดีควรทำให้คนรู้สึกว่า “เข้าใจเรา” ไม่ใช่ “สั่งสอนเรา”
เมื่อผู้อ่านรู้สึกว่าคุณคือ “คนที่เข้าใจและอยู่ฝั่งเดียวกัน” เขาจะเปิดใจมากขึ้น พอรู้สึกดี ก็อ่านจนจบ พออ่านจนจบ ก็เริ่มอยากแชร์ หรืออยากรู้จักแบรนด์คุณต่อ
สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่การโชว์ว่าเรารู้เยอะ แต่คือ “การคุยให้คนรู้สึกว่า เขาเก่งขึ้นจากที่ได้อ่านโพสต์ของเรา”
🍋ใส่สิ่งที่คนอ่าน “เอาไปใช้ได้เลย”
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้แค่ต้องการอ่านแล้วรู้สึกดี แต่เขาต้องการ “วิธี” “ตัวอย่าง” หรือ “แนวทาง” ที่สามารถนำไปลองใช้ในชีวิตจริงได้ทันที
คอนเทนต์แบบนี้จะสร้างคุณค่าแบบจับต้องได้ และทำให้คนรู้สึกว่า “โพสต์นี้ไม่เสียเวลาอ่าน”
อย่าจบแค่เล่าปัญหา ให้วิธีแก้ด้วย เช่น
✓
“ลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ เพราะกลัวผิด”
✓
“ลองเริ่มจากให้เขาพูด 3 คำนี้ทุกวัน: Thank you / Sorry / May I…”
คอนเทนต์แบบ Checklists Mini How-to หรือ Quick tips คือเครื่องมือที่ดี เพราะมัน “เอาไปใช้ได้ทันที” เช่น
✓
3 วิธีช่วยให้ลูกกล้าพูดมากขึ้นใน 1 สัปดาห์
✓
โพสต์ยังไงให้คนอยากคอมเมนต์ (พร้อมตัวอย่างโพสต์)
ใช้คำกระตุ้นให้ลงมือ เช่น
✓
ลองดูนะ
✓
บันทึกโพสต์นี้ไว้ใช้ตอนต้องเขียนคอนเทนต์
✓
แชร์โพสต์นี้ให้ทีมงานดูได้เลย
ทำไมโพสต์แบบนี้ถึงเวิร์ก?
✓
คนรู้สึกว่า “ฉันได้อะไร” จากการอ่าน
✓
มีแนวโน้มถูก save แชร์ หรือคอมเมนต์มากขึ้น
✓
สร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ว่า “คุณคือคนให้ ไม่ใช่แค่ขาย”
อย่าเขียนแค่เพื่อเล่าเรื่อง ให้เขารู้สึกว่าได้อะไรกลับไปทันที เช่น
✓
“ลองใช้ 3 ข้อนี้กับโพสต์ถัดไป แล้ววัดผลเลยว่ามีคนอ่านนานขึ้นไหม”
✓
“คอมเมนต์ ‘ลองแล้ว’ ถ้าคุณจะใช้เทคนิคนี้ในโพสต์ต่อไป”
เทคนิค ➽ ใส่ CTA ที่ชัดเจนตอนจบ เช่น “โพสต์นี้ช่วยคุณได้ไหม? แชร์เก็บไว้ลองใช้ทีหลังได้เลย”
🍋 ยาวได้แต่ต้องมีจังหวะ
โพสต์ยาวไม่ใช่เรื่องผิด และบางเนื้อหาก็จำเป็นต้องเล่าให้ครบจึงจะมีพลัง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ คนอ่านบนมือถือมีสมาธิสั้น และจะเลื่อนหนีทันทีถ้าโพสต์ดูแน่นเกินไป เพราะฉะนั้น ถ้าจะเขียนยาว ก็ต้องเขียนให้ “อ่านง่าย” และ “มีจังหวะพักสายตา”
โพสต์ยาวไม่ได้ผิด แต่ต้อง “มีจังหวะหยุดพัก” ให้สมองผู้อ่านรับไหว
เว้นบรรทัดให้สบายตา อย่าเขียนเป็นพารากราฟยาวๆ ที่ไม่มีช่องว่าง เวลาอ่านบนจอเล็ก สมองต้องการจุดพัก และการเว้นวรรคช่วยให้คนอ่านได้ “ซึมซับ” มากขึ้น
บางประโยคสำคัญ ควรอยู่โดดๆ เพื่อให้โดดเด่นขึ้น
บางประโยคควรสั้น บางประโยคควรเป็นคำเดียวเพื่อเน้น เช่น
ใช่
(อ่านไม่ผิดหรอกครับ “คำเดียว” ก็เปลี่ยนอารมณ์โพสต์ได้)
ประโยคสั้นๆ หรือ “คำเดียวที่โดด” ทำให้คนหยุดสายตาและรู้สึกถึงอารมณ์ในประโยคนั้น มันเป็นจังหวะเหมือน “พักหายใจ” ของคนอ่าน หรือเหมือนคุณกำลังพูดช้าๆ ชัดๆ ในจุดที่ต้องการเน้น
เทคนิคนี้ใช้ได้ดีทั้งกับโพสต์ขาย การเล่าเรื่อง หรือโพสต์แนวแรงบันดาลใจ
เขียนยาวได้ แต่ให้เขียนเหมือน “เล่าเป็นจังหวะ” ไม่ใช่ “พูดรัวเหมือนอัดเสียงเทป”
เมื่อคุณจัดวางจังหวะของเนื้อหาให้ดี โพสต์ยาวก็อ่านจนจบได้สบายๆ
🍋 ปิดท้าย
โพสต์ที่ทำให้คนอ่านจนจบ มักไม่ใช่แค่โพสต์ที่ “มีสาระ”
เพราะในโลกออนไลน์ คนไม่ได้ต้องการแค่ข้อมูล เขาต้องการ “ประสบการณ์การอ่าน” ที่ไม่เครียดเกิน ไม่น่าเบื่อ และไม่รู้สึกเหมือนอ่านเอกสารทางวิชาการ
แต่คือโพสต์ที่ “เล่าเก่ง เข้าใจคนอ่าน และดูจริงใจ”
การเล่าเรื่องให้น่าสนใจ ฟังดูเป็นธรรมชาติ และพูดแบบเห็นอกเห็นใจ คือกุญแจสำคัญ โพสต์ที่คนอ่านแล้วรู้สึกว่า “เหมือนเคยเจอแบบนี้เลย” หรือ “เขาเข้าใจเรา” จะชวนให้อ่านต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
อย่ามัวห่วงว่าจะเขียนถูกหลักไวยากรณ์ไหม
เพราะคนทั่วไปไม่ได้จับผิดภาษา แต่เขาจับความรู้สึก บางโพสต์ภาษาสวยเป๊ะ แต่เย็นชาจนไม่มีคนอยากอ่าน ในขณะที่บางโพสต์พิมพ์ผิดนิดๆ แต่เล่าดีจนคนแห่แชร์
ให้ห่วงว่า “เขาอ่านแล้วรู้สึกอยากอ่านต่อไหม?” มากกว่า
ถ้าเปิดโพสต์มาแล้วอ่าน 3 บรรทัดแรกไม่ได้อะไรเลย เขาก็เลื่อนผ่าน แต่ถ้าคุณเขียนแบบชวนติดตาม มีจังหวะ มีคำถาม มีอารมณ์ เขาจะอยู่จนจบ และอาจกลายเป็นแฟนคอนเทนต์ของคุณก็ได้
About me
ผมเขียนเกี่ยวกับ digital marketing ในแบบที่ตัวเองตอนทำงานวันแรกอ่านแล้วจะเข้าใจได้ทันที เพราะเรียนรู้จากการลงมือทำจริง แล้วเล่าให้เข้าใจง่าย
ผมเริ่มต้นเขียนเพราะรู้ตัวว่า หลายสิ่งที่รู้ มันเกิดขึ้นหลังจากเริ่มทำงานแล้ว และหลายครั้งก็เรียนรู้ “ทางลัดไม่ได้” ต้องลุยจริง เจ็บจริง
ผมเคยร่วมงานกับทั้งแบรนด์ใหญ่ สตาร์ทอัพเล็ก และทีมที่หลากหลาย ทำให้ได้เรียนรู้ว่าอะไรเวิร์ก อะไรไม่เวิร์ก และสำคัญที่สุดคือ ต้องเปิดรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะในวันที่อัลกอริธึมเปลี่ยนไวแบบตามไม่ทัน
Follow Supreecha on LinkedIn 👉 @supreechathaijaijing
การตลาด
พัฒนาตัวเอง
contentcreator
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย