25 เม.ย. เวลา 14:11 • ความคิดเห็น
เรื่องตัวอิจฉา ..มันก็เป็นอารมณ์กรรม อย่างหนึ่ง แล้วแต่อารมณ์นั้น จะอุปโลกน์ นำไปอืจฉาใคร สมมุติว่า เมื่อชาติก่อน เราไปอิจฉา นาย ก ..นาย ก ก็ตกนรกไปแล้ว มันก็เรื่องกรรม ที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ นิสัยคล้าย นาย ก .ย้อนกลับมา อิจฉาเราบ้าง เรื่องราวพวกนี้ มันเป็นตัวเชื่อดเฉือน ด้วย อยู่ๆก็มีคนมาใช้วาจา กล่าวว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เชือดเฉือนให้เจ็ยกระดองใจเสียงั้น ทั้งที่มัน ไม่ได้มีไม้มีมีดมาตีเรา มันแค่ลมปาก..เราก็ปล่อยเสียงนั่น ให้มันผ่านไปตามลม ลมปากนั้น มันไม่ตัวตน พอเราไปยึด มันก็มีตัวตนขึ้นมา..
..คราวนี้ เราก็จับอารมณ์ นั่นที่เค้าแสดง เป็นตัวอิจฉา นางตัวอิจฉา เหมือน สวมบทละคร มาอิจฉาเรา เราก็ทำความรู้จัก อารมณ์ของนางตัวอิจฉา มันจะค่อยๆ พัฒนาเป็นตัวนางมารร้าย กิริยากาย วาจา ที่เค้าแสดง ให้ตาเราเห็น หูเราได้ยิน ..นั่นมันเป็นอารมณ์กรรม ที่ครองกายครองจิต เค้าอยู่ ..ครองจิตของผู้ที่มีกรรม
..ที่สำคัญ เราอย่าไปเห็นเค้าผิด เราก็ดูเค้าว่า อารมณ์นางตัวอิจฉา นั้นมันมีความสุขมั้ย มั้ยนำพาก่อเรื่องราวคล้องเวรกรรมอย่างไร .หากมันมาเกิดขึ้นที่ตัวเราเอง เราก็คงเป็นอย่างเค้า ..ดีแล้วที่เรา ไม่มีตัวอิจฉาเข่นเค้า ขอเราอย่าเป็นแบบเค้าเลย จิตนั่นหาความสุขไม่ได้เลย
โฆษณา