26 เม.ย. เวลา 04:05 • ไลฟ์สไตล์
เราเคยอ่านเจอเรื่องหนึ่ง มีหนังสือที่แปล มาจากการบันทึก ของฝรั่ง สมัยพระนารายณ์ เค้าว่า คนไทยนัน แปลก เจ็บป่วย ก็ไปหาพระ ทำบุญ บ้างก็เอาน้ำจากพระ ไปดื่มกิน เค้าก็หายเจ็บป่วย แล้วอีกอย่างหนึ่ง บอกว่า คนไทยนั่น เห็นอะไร แป๊บเดียว ก็copy ทำได้ เวลาเราพูดถึงคำโบราณ ..มันก็เป็นเรื่องของคนโบราณ ที่มีสภาพแวดล้อม แตกต่างกัน ตามยุคนั้น แล้วผู้คนก็ไม่มาก ที่ทำกินก็มากมาย ..ผู้คนก็น้อย ..ชีวิตประจำวัน ก็อยู่กัน เป็นหมูบ้าน ไปมาหาสู่กัน ก็บุกป่าบุกหญ้า ทางเกวียน พอไม่มีคนเดิน หญ้ามันก็ขึ้นรก
คราวนี้ พอยุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไป รุ่นนั่นรุุ่นนี้ตาย ตายหปดี่รุ่นแล้ว คำนี้ก็สืบทอดมา รากเหง้าคำเดิม ที่เค้าสอนในชุมชน มันก็มีแต่บอกเล่ากัน คนก็ยังไม่รู้หนังสือก็มีมากมาย จะไปเรียนเขียนอ่านก็ต้องไปเรียนกับพระ ไปเรียนก็ครูคนนั่นคนนี้ ไม่มีใบรับรอง ประกาศอะไรต่าง แม้แตหมอพื้นบ้าน ก็ไม่มี ใบรับรอง ก็มีแต่คำบอกกล่าว
..จะออกรบกัน มีแต่มีดดาบติดตัว ไม่มีมีดดี ไม่มีชั้นเชิง ไม่มีวรยุุทธ์ป้องกันตัวเอง มันจะรอดได้มั้ยในสนามรบ ..ผูกฟันถูกแทง ใครเค้าช่วย ..หมอที่ช่วย ก็มีคาถาอาคม มี วิชาต่อกระดูก จัดกระดูก ต่อเส้นเอ็น น้ำมันมะพร้าว แล้วยังต้องใช้ธูปเทียน ช่วยให้ธาตุทั้สี่ประสานกัน .ยาสลบยาชาก็ไม่มี ห้องผ่าตัดก็ไม่มี ไม่มี MRI ไม่มีโต๊ะทำฟัน ..สิ่งที่ช่ายได้ ก็หมอที่เค้าทำได้ เล่าเรียนมา จะออกศึกทั้งที่ ไม่มีความรู้ ข่วยตัวเองไม่ได้ ไร้ฝีมือ ไร้ปฏิภาณและไหวพริบ .จะรอดหรือ .
คนจะเกิดก็ไปหาหมอตำแย ทำคลอดให้คนทั่งหมู่บ้าน ..เค้าก็ถ่ายทอด กันรุ่นต่อรุ่น จะไปเรียนอะไร ก็ไปฝากเนื้อฝากตัว กินนอนรับใช่้อยู่ที่บ้านครู เพื่อให้ครูรับภาระสอนวิชาให้ หากไม่นอบน้อมต่อครู ครูที่ไม่ได้รับจ้างสอน ครูที่ไหนจะรับเข้าบ้าน มากินนอนด้วย รับมาสอนให้ สอนเหมือนพ่อแม่ หัดเด็กแบเบาะ
คราวนี้ พอยุคสมัยมันมันเปลี่ยนแปลง มีอะไรๆเกิดขึ้น ตามยุคสมัย มีโรงเรียน ก็ไปขอที่วัด มาทำเป็นโรงเรียน มีครูรับเงินเดือน ..มีการเขียนตำรับตำราเรียน คนก็ไม่ต้องวุ่นวายไปเรียนที่บ้านครู คราวนี้ วิชาความรู้ของคนที่เป็นครูที่เหมาะสมในยุคก่อนๆ มันก็สูญหายไป แม้ไปเจอตำรับตำรา ของคนรุ่นก่อนในใบลาน ก็อ่านไม่ออก ..เพราะไม่มีความรู้ ที่จะอ่านใบลาน เหมือนว่า ไม่มีความรู้ในยุคที่เค้าเขียนอ่านกันได้ เพราะไม่มีครู รุ่นก่อนสืบทอดมาสอนให้
โฆษณา