26 เม.ย. เวลา 05:27 • หุ้น & เศรษฐกิจ

9 ธุรกิจสุด Failed ของ Donald Trump เมื่อความทะเยอทะยานเกินตัวนำไปสู่หายนะทางการเงิน

Donald Trump คือชื่อที่หลายคนรู้จักในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาผู้ทรงอิทธิพลในขณะนี้ แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นซ่อนมุมมืดของความล้มเหลวไว้มากมาย
เส้นทางธุรกิจของเขาเต็มไปด้วยความผันผวน ล้มลุกคลุกคลาน เข้ารูปเข้ารอยบ้าง เละเทะบ้าง แต่น่าทึ่งที่แม้ล้มเหลวถึง 9 ครั้ง เขายังกลับมาได้เสมอ
จุดเริ่มต้นความฝันอันยิ่งใหญ่ของ Trump คือ Trump Taj Mahal Casino Resort ในแอตแลนติกซิตี้ โครงการสุดล้ำที่ถูกวางแผนให้เป็นคาสิโนที่ใหญ่โตและหรูหราที่สุด
เขาลงทุนด้วย Junk Bond มูลค่ามหาศาลถึง 675 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่เคยสัญญากับคณะกรรมการควบคุมคาสิโนรัฐ New Jersey ว่าจะไม่ทำเช่นนั้น
นั่นทำให้ Trump Taj Mahal จำเป็นต้องทำรายได้มากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์ต่อวันเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย แต่ Trump ก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหา
แต่แล้วความจริงก็ปรากฎ เพียงแค่เจ็ดเดือนหลังเปิด Taj Mahal เริ่มผิดนัดชำระหนี้ และในปี 1991 ก็ดิ่งลงเหวด้วยการยื่นล้มละลาย นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น คาสิโนอีกสองแห่งของ Trump ในแอตแลนติกซิตี้ก็เจ๊งตามกันมาในปีถัดมา
เมื่อ Trump ออกจากเมืองนั้น ผู้จัดจำหน่ายและพันธมิตรทางธุรกิจมากมายถูกทิ้งไว้ และมีรายงานว่า Trump ยังเป็นหนี้พวกเขาอยู่จนทุกวันนี้
ความล้มเหลวของ Trump Taj Mahal ไม่ได้เกิดจากการขาดทุนเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาดและการประเมินตลาดที่เว่อร์เกินจริง
1
Trump มองโลกในแง่ดีแบบเพ้อฝัน เชื่อว่าชื่อเสียงของเขาจะดึงดูดลูกค้าได้มากพอที่จะทำให้ธุรกิจพุ่งทะยาน แต่ความจริงคือตลาดคาสิโนในแอตแลนติกซิตี้เริ่มอิ่มตัวแล้ว
หลังจากประสบปัญหากับธุรกิจคาสิโน Trump ไม่ยอมแพ้ แต่กลับกระเหี้ยนกระหือรือก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่เขาไม่คุ้นเคย
เมษายน 2006 เพียงไม่กี่ปีก่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ จะพัง Trump ประกาศว่า “ผมคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเริ่มต้นบริษัทสินเชื่อบ้าน” และก่อตั้ง Trump Mortgage
การตัดสินใจนี้เกิดในจังหวะเวลาที่แย่ที่สุด เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังจะพังเละไม่เป็นท่า Trump Mortgage จึงจบเห่ภายในหนึ่งปี
ผลลัพธ์คือ Trump Mortgage ทำรายได้เพียงหนึ่งในสามของเป้าหมาย 3 พันล้านดอลลาร์ที่ผู้บริหารคาดการณ์ไว้ เรียกได้ว่าลดฮวบอย่างน่าใจหาย
ธุรกิจอีกแห่งที่ทำให้ชื่อเสียง Trump ฉาวโฉ่คือ Trump University ซึ่งเขาโฆษณาว่า “ที่ Trump University เราสอนความสำเร็จ นั่นคือสิ่งที่สำคัญ ความสำเร็จมันจะเกิดขึ้นกับคุณ”
แต่ Trump University ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาโม้ และไม่ได้ให้สิ่งที่สัญญาว่าจะให้กับผู้เรียน กลายเป็นมวยล้มต้มคนดูอย่างชัดเจน
คดีฟ้องร้องทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าเกือบทุกอย่างเกี่ยวกับ Trump University เป็นเรื่องหลอกลวง เริ่มตั้งแต่ชื่อ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรอง
Trump University รวบรวมเงินประมาณ 40 ล้านดอลลาร์จากผู้คนที่หวังจะประสบความสำเร็จเหมือน Trump ผู้เข้าร่วมหลักสูตรมากมายต่างช็อกเมื่อพบว่าพวกเขาถูกหลอก
แม้ว่า Trump University จะอยู่รอดได้นานกว่าที่คาด แต่สุดท้ายต้องชดใช้ค่าเสียหาย 25 ล้านดอลลาร์ในการตกลงยอมความ ถือเป็นการลงโทษอย่างสาสม
1
นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการที่ Trump ใช้ชื่อเสียงดึงดูดผู้คนโดยไม่สามารถรักษาคำมั่นสัญญา นั่นทำให้ผู้คนต่างเจ็บปวดกับคำคุยโวที่เกินจริงของ Trump
1
นอกจากธุรกิจคาสิโนและการศึกษา Trump ยังมีความฝันอันยิ่งใหญ่ในธุรกิจโรงแรมด้วย ในปี 1988 เขากู้ยืมเงินมหาศาลถึง 390 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อโรงแรม Plaza
ด้วยความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของตัวเอง เขาทุ่มเงินอีก 50 ล้านดอลลาร์ในการปรับปรุงและแต่งตั้งภรรยา Ivana เป็นประธานโรงแรม
Ivana กล่าวว่า “ฉันกำลังสนุก ฉันมีความสุขเสมอที่ Plaza” แต่ความสุขนั้นอยู่ได้ไม่นาน โรงแรมทำกำไรไม่พอชำระหนี้ที่เกิดจากการซื้อและปรับปรุง พฤศจิกายน 1992 Plaza กลายเป็นการล้มละลายครั้งที่สี่ของ Trump ในทศวรรษนั้น
ปี 1995 เจ้าหนี้ของ Trump ขายโรงแรมในราคา 325 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่าที่ Trump จ่ายไปถึง 65 ล้านเมื่อเจ็ดปีก่อน เป็นการขาดทุนที่เจ็บปวดไม่น้อย
Trump ไม่ได้จำกัดธุรกิจแค่อสังหาริมทรัพย์และการพนัน เขายังพยายามใช้ชื่อเสียงสร้างแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค “ถ้าผมใส่ชื่อ Trump ลงไป มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” เขากล่าว
1
“เมื่อพูดถึงสเต็กชั้นเยี่ยม ผมเพิ่งยกระดับสเต็ก วันนี้ผ่าน Sharper Image คุณสามารถเพลิดเพลินกับสเต็กที่ดีที่สุดในโลกที่บ้านของคุณเอง” Trump โฆษณาอย่างภาคภูมิใจ
แต่ CEO ของ Sharper Image อย่าง Jerry Levin กลับเปิดโปงว่า “เราแทบจะไม่ได้ขายสเต็กเลย” แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ชื่อ Trump ก็ไม่สามารถช่วยสินค้าขายดีได้
สินค้าอีกชิ้นที่ล้มเหลวคือ Trump Vodka ที่ถูกวางตลาดว่า “มีความต้องการอย่างมากสำหรับสินค้าระดับสูง สไตล์สูงมาก” แต่ก็ต้องยุติการขายในสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว
ความทะเยอทะยานของ Trump ไม่หยุดเพียงแค่นี้ ในขณะที่คนทั่วไปซื้อจักรยานสักคัน แต่ Trump กลับซื้อการแข่งจักรยานทั้งรายการ เป็นการตัดสินใจบ้าบอมาก ๆ
การแข่งขันนี้ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Tour du Pont หลังจากปัญหาทางการเงินของ Trump บังคับให้เขายุติการสนับสนุน เป็นอีกธุรกิจที่จบเห่อย่างรวดเร็ว
แม้ว่ายอดขายในปี 1989 จะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการคาดการณ์ Trump ก็ยังฝ่าฝันต่อสู้ ในปี 2004 เขาซื้อสายการบิน Eastern Shuttle ด้วยราคา 365 ล้านดอลลาร์ สายการบินขาดทุนมากกว่า 125 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 18 เดือน และ Trump ต้องยอมแพ้ในปี 1992
ถึงแม้จะมีความล้มเหลวมากมาย Trump ยังคงยืนยันว่า “ผมสร้างธุรกิจที่ยอดเยี่ยม ผมเป็นนักธุรกิจ ประสบความสำเร็จจริงๆ ประสบความสำเร็จจริงๆ ในธุรกิจและในการเมือง”
เมื่อมองย้อนกลับไปที่เส้นทางธุรกิจของ Trump เราจะเห็นรูปแบบของการตัดสินใจผิดพลาด การประเมินตลาดที่ไม่ถูกต้อง และความเชื่อมั่นในชื่อเสียงของตนเองมากเกินไป
หนึ่งในปัญหาหลักของ Trump คือการใช้เงินกู้จำนวนมหาศาลในการลงทุน เมื่อธุรกิจไม่เป็นไปตามฝัน เขาก็แบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว ทำให้กระเป๋าฉีกหลายต่อหลายครั้ง
นอกจากนี้ Trump ยังมักจะจับเสือมือเปล่าโดยเข้าสู่อุตสาหกรรมที่เขาไม่มีความเชี่ยวชาญ เช่น สายการบิน สินเชื่อบ้าน หรือแม้แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อีกปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่ความล้มเหลวคือการที่ Trump มักจะตัดสินใจในช่วงเวลาที่แย่สุดๆ เช่น การเปิด Trump Mortgage ไม่กี่เดือนก่อนวิกฤตอสังหาริมทรัพย์
แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือแม้จะมีความล้มเหลวมากมาย Trump ก็ยังสามารถรักษาภาพลักษณ์ของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ ด้วยความเจ๋งในการสร้างแบรนด์ส่วนตัว
Trump เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลที่แข็งแกร่ง โดยเน้นที่ภาพลักษณ์ของความสำเร็จและความมั่งคั่ง แม้ว่าความเป็นจริงจะไม่ได้สวยงามเช่นนั้น
เขาใช้สื่อและการปรากฏตัวต่อสาธารณชนเพื่อรังสรรค์เรื่องราวที่น่าประทับใจเกี่ยวกับตัวเองและธุรกิจ ความสามารถในการฟื้นตัวและปลุกปั้นภาพลักษณ์ใหม่หลังความล้มเหลวแต่ละครั้งเป็นทักษะที่ทำให้เขาแตกต่าง
แม้ว่า Trump จะมีความล้มเหลวทางธุรกิจมากมาย แต่เขาไม่เคยยอมแพ้และยังคงสร้างแบรนด์ของตัวเองต่อไป จนสามารถใช้ชื่อเสียงนั้นในการเข้าสู่วงการการเมือง
การที่ Trump ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาถึงสองครั้งทั้งที่มีประวัติล้มเหลวทางธุรกิจมากมาย เป็นเรื่องที่น่าทึ่งและแสดงให้เห็นถึงความเทพในการสร้างภาพลักษณ์ของเขา
1
แม้ว่าวิธีการของ Trump อาจจะมีข้อถกเถียง แต่ความไม่ย่อท้อของเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในชีวิตธุรกิจได้
การศึกษาเส้นทางธุรกิจของ Trump ทำให้เราเห็นว่าความสำเร็จไม่ได้วัดจากการไม่เคยล้มเหลว แต่วัดจากความสามารถในการลุกขึ้นใหม่หลังจากล้มลง
รวมถึงการรักษาภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในตนเองแม้ในยามที่ตกต่ำที่สุด นี่อาจเป็นบทเรียนที่มีค่าที่สุดที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องราวของเขานั่นเองครับผม
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา