โปแลนด์และยูเครนร่วมกัน ประณามการก่อวินาศกรรมต่ออนุสรณ์สถานสงครามยูเครน ในโปแลนด์
โปแลนด์และยูเครนออกแถลงการณ์ร่วม
"ประณามการกระทำที่เป็นการทำลายล้าง" อนุสาวรีย์ในโปแลนด์ซึ่งเป็นที่ระลึกถึงสถานที่ฝังศพของสมาชิกกองทัพผู้ก่อการร้ายชาวยูเครน (UPA) ที่เสียชีวิตในการต่อสู้กับโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
พวกเขากล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการกระทำที่ "จงใจยั่วยุซึ่งนอกจากอื่นๆ แล้ว ยังให้ประโยชน์แก่รัฐผู้รุกราน, รัสเซีย
และมีเป้าหมายเพื่อทำลายการเจรจาสร้างสรรค์ที่กำลังพัฒนาขึ้นระหว่างประเทศของเรามาหลายเดือนที่ผ่านมา"
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น Zlubaczowa.pl รายงานว่าผู้กระทำผิดที่ไม่ทราบชื่อได้ถอดป้ายที่เคยตั้งอยู่ที่อนุสาวรีย์ใน Monasterz ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์ใกล้ชายแดนกับยูเครน แล้วเปลี่ยนเป็นป้ายใหม่
ป้ายเดิมเขียนว่า (ภาษาโปแลนด์และยูเครน)
"หลุมฝังศพหมู่ของชาวยูเครนที่เสียชีวิตในการต่อสู้กับ KVD ของโซเวียตในป่า Monasterz ในคืนวันที่ 2-3 มีนาคม 1945"
อย่างไรก็ตาม ป้ายที่ติดตั้งใหม่เขียนว่า (เป็นภาษาโปแลนด์เท่านั้น)
"หลุมฝังศพหมู่ของชาวยูเครน สมาชิก UPA ผู้รับผิดชอบต่อการก่อการร้ายและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อประชากรชาวโปแลนด์ ยูเครน และยิวที่ไม่มีทางป้องกันตัวเอง
พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ โปรดเมตตาพวกเขาและอย่าถือโทษพวกเขาในสิ่งที่น่ากลัวที่พวกเขาได้กระทำต่อพี่น้องของพวกเขา
การให้อภัยไม่ได้หมายความว่าการลืม แต่เป็นการเยียวยาความเจ็บปวด"
ในขณะเดียวกัน รูปภาพของ tryzub ตราสามง่ามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของยูเครนที่ปรากฏบนอนุสาวรีย์, ถูกปกคลุมด้วยไม้กางเขนคริสเตียน
ภาพปก, อนุสาวรีย์ก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา) เหตุการณ์ (เผยแพร่โดยได้รับอนุญา จากZlubaczowa.pl)
อนุสาวรีย์ซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1990 นั้นเป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้ว เนื่องจาก UPA ซึ่งเป็นกลุ่มกองโจรชาตินิยมยูเครน มีความรับผิดชอบต่อการสังหารหมู่ชาวโปแลนด์และชาวยิว
*ส่วนหนึ่งของ UPA ยังร่วมมือกับนาซีเยอรมนีในบางช่วงของสงคราม
อนุสาวรีย์แห่งนี้เคยถูกทำลายมาแล้วก่อนหน้านี้ รวมถึงเมื่อป้ายก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุชื่อทหาร UPA ที่เสียชีวิตในพื้นที่
ถูกทำลายและถูกแทนที่ด้วยป้ายที่เพิ่งถูกลบออกในสัปดาห์นี้
เจ้าหน้าที่ยูเครนรวมถึงประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ระหว่างการเยือนโปแลนด์ในปี 2020 ได้เรียกร้องให้มีการบูรณะป้ายเดิมมานานแล้ว
พวกเขายังพยายามเชื่อมโยงปัญหานี้กับความต้องการของโปแลนด์ที่จะขุดศพของเหยื่อการสังหารหมู่ที่นำโดย UPA ในยูเครน โดยอ้างว่าเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น โปแลนด์ต้องปกป้องและเคารพสถานที่แห่งความทรงจำของยูเครนในดินแดนของตนอย่างเหมาะสม
ในฐานะการตอบสนองต่อเหตุการณ์ล่าสุดที่อนุสาวรีย์ ตำรวจในเมือง Lubaczów ใกล้เคียงบอกกับ Zlubaczowa.pl ว่าพวกเขากำลังสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและพยายามระบุตัวผู้กระทำผิด
ต่อมาในวันพุธ กระทรวงวัฒนธรรมของโปแลนด์และยูเครนได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน
"ประณามอย่างยิ่งการกระทำที่เป็นการทำลายล้างต่อหนึ่งในสถานที่อนุสรณ์ของยูเครนในโปแลนด์" และประกาศว่า
"แผ่นจารึกและป้ายที่วางไว้โดยผิดกฎหมายจะต้องถูกลบออกทันที"
พวกเขากล่าวเสริมว่า ในขณะที่การยั่วยุที่จงใจนั้นให้ประโยชน์แก่รัสเซีย ในการพยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างโปแลนด์กับยูเครน
ทั้งสองประเทศ
"ยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างแข็งแกร่งของเราในการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเราต่อไปและแก้ไขปัญหาที่ยังค้างอยู่ด้วยจิตวิญญาณแห่งการเจรจาและความเข้าใจซึ่งกันและกัน"
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีสิ่งที่โปแลนด์อธิบายว่าเป็นความก้าวหน้าในประเด็นการจัดการกับประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เป็นพันธมิตรกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่การรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบของรัสเซียเสื่อมลงมานาน
ยูเครนอนุญาตให้มีการขุดศพของเหยื่อชาวโปแลนด์จากการสังหารหมู่ในช่วงสงครามที่นำโดย UPA ซึ่งเคียฟได้ห้ามไว้ตั้งแต่ปี 2017 เพื่อตอบโต้การรื้อถอนอนุสาวรีย์ของ UPA ในโปแลนด์ การขุดครั้งแรกมีกำหนดจะเริ่มในวันนี้
การก่ออาชญากรรมเหล่านั้น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อการสังหารหมู่โวลินิยาและมีชาวโปแลนด์ประมาณ 100,000 คนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กถูกสังหาร
*ถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในโปแลนด์ แม้ว่ายูเครนจะปฏิเสธการใช้คำนั้น
ในอีกช่วงเวลาสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ ในปี 2023 เซเลนสกีและประธานาธิบดีโปแลนด์ อันเดรย์ ดูดาร่วมกันรำลึกถึงครบรอบ 80 ปีของการสังหารหมู่ประธานสภาผู้แทนราษฎรของยูเครนยังแสดงความเสียใจต่อเหยื่อและครอบครัวของพวกเขา
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
