Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฐานเศรษฐกิจ_Thansettakij
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 11:30 • ข่าวรอบโลก
จีนเมินเจรจาภาษีทรัมป์ - นานาชาติยื้อ 90 วัน ขั้วการค้าโลกส่อพลิก?
จีนปัดเจรจาสหรัฐฯ สหภาพยุโรปยื้อเวลา 90 วันก่อนตอบโต้ ขณะที่แคนาดา-สหราชอาณาจักรเปลี่ยนเกม ด้านอินเดียเดินหน้าเจรจา ส่วนไทยชะงักงัน ต้องจับตาท่าทีขั้วการค้าโลกใหม่
หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับมานั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ เป็นสมัยที่สอง นโยบายภาษีศุลกากรหรือ "ภาษีตอบโต้" ที่ทรัมป์ผลักดันในยุคแรกได้หวนคืนมาอีกครั้ง และครั้งนี้ดูเหมือนว่าความตึงเครียดทางการค้าจะปะทุรุนแรงยิ่งกว่าเดิม หลายประเทศมหาอำนาจเริ่มขยับหมากทั้งชะลอเจรจาและเดินหน้าตอบโต้ กลายเป็นสัญญาณเตือนว่าภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ
หนึ่งในประเทศที่ถูกจับตามากที่สุดคือ "จีน" คู่แข่งทางเศรษฐกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่มีการเจรจาทางการค้าอย่างเป็นทางการใดๆ กับสหรัฐฯ ตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวอ้าง โดยเฉพาะประเด็นการลดภาษีนำเข้าสินค้า
ท่าทีนี้สะท้อนชัดว่าจีนไม่ต้องการให้เกิดภาพลวงตาว่าอ่อนข้อต่อสหรัฐฯ ในขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า แม้การเจรจาจะไม่เกิดขึ้นในเชิงสาธารณะ แต่ก็อาจมีการทาบทามเบื้องหลังในลักษณะ "การทูตเงียบ" เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายหนักต่อเศรษฐกิจทั้งสองประเทศในระยะยาว
ฝั่ง "สหภาพยุโรป" ก็ไม่นิ่งนอนใจ หลังจากทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปในอัตรา 25% ยุโรปก็ได้อนุมัติมาตรการตอบโต้ในวงเงินสูงถึง 18 พันล้านยูโร อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อชะลอมาตรการตอบโต้เป็นเวลา 90 วัน เปิดโอกาสให้มีการเจรจาอย่างจริงจัง ลดแรงกดดันที่อาจซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง
ในขณะที่ "สหราชอาณาจักร" ซึ่งเดิมเคยหวังบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ กลับลดความคาดหวังลงอย่างเห็นได้ชัด รัฐมนตรีอาวุโสออกมายอมรับตรงไปตรงมาว่า "ไม่รีบร้อน" และจะให้ความสำคัญกับการทำข้อตกลงใหม่กับสหภาพยุโรปแทน โดยเฉพาะการลดขั้นตอนตรวจสอบสินค้าและขยายความร่วมมือด้านความมั่นคง สะท้อนว่าความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรการค้าสำคัญเริ่มสั่นคลอน
ด้าน "แคนาดา" ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรเก่าแก่ของสหรัฐฯ เลือกตอบโต้ทันทีด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในอัตรา 25% มูลค่ารวมกว่า 20 พันล้านดอลลาร์ และประกาศเตรียมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองหากสหรัฐฯ ยังเดินหน้าบีบบังคับต่อไป ความขัดแย้งนี้ไม่เพียงกระทบเศรษฐกิจ แต่ยังสะเทือนถึงการเมืองภายในของแคนาดา เมื่อกระแสชาตินิยมหนุนหลังนายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ให้แข็งกร้าวต่อสหรัฐฯ มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น "อินเดีย" กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังคงเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมีการหารือเพื่อเปิดตลาด ลดภาษี และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การรักษาความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับอินเดียในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ และดันตัวเองขึ้นเป็นศูนย์กลางห่วงโซ่อุปทานใหม่ของโลก
รัฐบาล "ญี่ปุ่น" ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ได้ประกาศมาตรการเศรษฐกิจฉุกเฉิน 5 ด้าน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อการส่งออกและเศรษฐกิจภายในประเทศ มาตรการดังกล่าวรวมถึงการสนับสนุนทางการเงินแก่ภาคธุรกิจ การลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลลง 10 เยนต่อลิตร และการขยายวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ในด้านการเจรจาการค้า ญี่ปุ่นได้เริ่มต้นการเจรจากับสหรัฐฯ โดยมีการพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กระบวนการเจรจายังคงซับซ้อนและอาจใช้เวลานาน เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องหารือหลายด้าน
1
"เกาหลีใต้" ได้ยื่นคำร้องต่อสหรัฐฯ เพื่อขอผ่อนปรนภาษีที่กำหนดไว้ โดยเสนอความร่วมมือในด้านการต่อเรือ พลังงาน และการแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางการค้า แม้ว่าการเจรจาจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงที่เป็นไปได้
ในกลุ่มประเทศ "อาเซียน" มีท่าทีที่หลากหลายต่อมาตรการภาษีของสหรัฐฯ มาเลเซียได้ประกาศว่าจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการแสดงท่าทีที่แตกต่างจากแนวทางร่วมของอาเซียน ขณะที่เวียดนามได้เริ่มต้นการเจรจาแบบทวิภาคีกับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษี
ในทางกลับกัน อินโดนีเซียมองว่ามาตรการภาษีของสหรัฐฯ เป็นโอกาสในการปรับกลยุทธ์เศรษฐกิจและหาตลาดใหม่ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษี อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการสร้างแนวร่วมของอาเซียนยังคงเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากแต่ละประเทศมีผลประโยชน์และแนวทางที่แตกต่างกัน
สำหรับ "ไทย" สถานการณ์กลับไม่สู้ดีนัก การเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ ดูเหมือนจะหยุดชะงักลง หลังจากสหรัฐฯ ต้องการให้ไทยแก้ไขประเด็นข้อพิพาทบางประการที่เกี่ยวข้องกับการค้าในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายภายในของไทย นี่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยในอนาคตหากความสัมพันธ์ทางการค้ายังคงตึงเครียดเช่นนี้
เมื่อมองภาพรวม สถานการณ์สงครามภาษีที่กำลังปะทุขึ้นใหม่ในยุคทรัมป์ 2.0 กำลังส่งสัญญาณถึงการปรับขั้วอำนาจทางการค้าโลกอย่างชัดเจน ทั้งจีนที่แข็งกร้าว สหภาพยุโรปที่เลือกใช้เวลา สหราชอาณาจักรที่หันกลับไปหายุโรป อินเดียที่ก้าวหน้า และแคนาดาที่แข็งขืน แต่ละประเทศต่างวางหมากของตัวเองอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่อาจคาดเดาได้
สงครามภาษีครั้งนี้จะจบลงที่การเจรจา หรือบานปลายสู่ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจโลกอีกระลอก ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเดิมพันครั้งนี้สูงกว่าที่เคย
thansettakij.com
จีนเมินเจรจาภาษีทรัมป์ - นานาชาติยื้อ 90 วัน ขั้วการค้าโลกส่อพลิก?
จีนปัดเจรจาสหรัฐฯ สหภาพยุโรปยื้อเวลา 90 วันก่อนตอบโต้ ขณะที่แคนาดา-สหราชอาณาจักรเปลี่ยนเกม ด้านอินเดียเดินหน้าเจรจา ส่วนไทยชะงักงัน ต้องจับตาท่าทีขั้วการค้าโลกใหม่
1 บันทึก
2
1
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย