Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องนี้ต้องเเชร์
•
ติดตาม
7 ชั่วโมงที่แล้ว • ไลฟ์สไตล์
1. การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing)
หา "ของดีราคาถูก" คือ หุ้นหรือสินทรัพย์ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
ตัวอย่างนักลงทุน: Warren Buffett
ถือยาว ไม่หวั่นแม้วันตลาดตก
2. การลงทุนแบบเติบโต (Growth Investing)
ลงทุนในบริษัทที่โตเร็ว เช่น เทคโนโลยี, นวัตกรรมใหม่ ๆ
ราคาหุ้นอาจแพงหน่อย แต่คาดหวังว่ากำไรจะโตแรงในอนาคต
3. การลงทุนตามกระแส (Momentum Investing)
เล่นตามแนวโน้มที่ "กำลังมา" เช่น หุ้นที่ราคาขึ้นต่อเนื่อง
เน้นเกาะกระแสเร็ว ๆ ไม่สนใจพื้นฐานมาก
4. การกระจายความเสี่ยง (Asset Allocation)
ไม่เน้นเลือกหุ้นรายตัว แต่กระจายเงินไปหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น, ตราสารหนี้, อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
ลดความเสี่ยงจากการพลาดแค่จุดเดียว
5. การลงทุนแบบปันผล (Dividend Investing)
เลือกหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ
เน้น "กระแสเงินสด" มากกว่าการลุ้นราคาขึ้นแรง
6. การลงทุนเชิงรับ (Passive Investing)
ไม่พยายามเอาชนะตลาด เช่น การซื้อกองทุนดัชนี (Index Fund, ETF) แล้วถือตามยาว ๆ
ค่าธรรมเนียมถูก และมักได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับตลาดโดยรวม
ถ้าเปรียบเทียบง่าย ๆ
อยากลงทุนแบบ "ซื้อแล้วนอน" → Value หรือ Passive Investing
อยากโตเร็วแต่เสี่ยง → Growth หรือ Momentum Investing
อยากได้เงินสดเรื่อย ๆ → Income Investing
อยากเล่นไว เก็งกำไร → Speculative Investing
ข้อควรรู้นักลงทุนเก่ง ๆ หลายคน ผสมหลายสไตล์ เช่น ลงทุนหุ้นโต + หุ้นปันผล + กองทุนรวมไปพร้อม ๆ กัน
สรุป: แต่ละสไตล์มีข้อดี-ข้อเสีย ขึ้นอยู่กับ
ความเสี่ยงที่รับได้
เวลาที่คุณมีในการวิเคราะห์
เป้าหมายการเงินของคุณ (เกษียณ, รายได้เสริม, รวยเร็ว ฯลฯ)
คุณมีความคิดเห็นอย่างใร?
ขอดาวหน่อยย🌟 คะได้มาลงเรื่องดีๆเรื่อยๆ
การลงทุน
ไลฟ์สไตล์
ธุรกิจ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย