พ.ศ. 2328 ภายหลังการจัดการบ้านเมืองให้เรียบร้อยเป็นปกติสุขจากการเสียราชธานีกรุงศรีอยุธยา ศึกสงครามกับพม่าเเละการเมืองภายในช่วงเปลี่ยนผ่านเเผ่นดินธนบุรี ก็ถึงเวลาเเห่งการเฉลิมฉลองสมโภชพระนครเเห่งใหม่ ท

พ.ศ.2328 ณ ท้องพระโรง พระบรมหาราชวัง "การข่าวจากกองลาดตระเวณเเจ้งเข้ามาว่า พระเจ้าปดุง ทรงเตรียมการยกทัพใหญ่เข้ามาหลายทัพหลายทาง พวกมันคงจะหวังทุ่มกำลังไพร่พลซึ่งมีจำนวนมากกว่าเรา เข้าหักเอาพระนครในคร

พ.ศ.2328 ณ สมรภูมิทุ่งลาดหญ้า เมื่อทัพของสมเด็จกรมพระราชวังบวรยกมาถึงทุ่งลาดหญ้า ทรงให้ตั้งค่ายที่เชิงเขาบรรทัดเป็นหลายค่าย ชักปีกกาถึงกันสกัดทางที่พม่าจะยกเข้ามา ที่ลาดหญ้าเป็นทุ่งกว้างใหญ่ต่อเนื่องก

พ.ศ.2328 พลับพลาที่ประทับในค่ายหลวง

17 กุมภาพันธ์ 2328 "พวกเจ้าเป็นไพร่ ข้าเป็นพระราชวงศ์ แต่เจ้ากับข้าเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเราเป็นคนไทย เป็นเจ้าของแผ่นดินนี้เหมือนกัน"

พ.ศ. 2328 สมรภูมิทุ่งลาดหญ้า เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าเจ้าอยู่หัวได้ปรึกษาข้อราชการงานสงครามกับสมเด็จพระอนุชาธิราชถึงศึกทุ่งลาดหญ้าเเล้ว ทรงเล็งเห็นพ้องต้องกันว่าพม่าเริ่มอ่อนกำลังลงมาจากการขาดเส

10 มีนาคม 2328 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคยกทัพหลวงจำนวน 30,000 คน ขึ้นสมทบทัพไทยทางเหนือที่กำลังขับไล่พม่าข้าศึกอยู่ โดยทรงตั้งกองทัพหลวงชั่วคราวอยู่ที่เมืองอินทร์บุรี

พ.ศ. 2328 ทัพของ "อนอกเเฝกคิดหวุ่น" ซึ่งพระเจ้าปดุงให้คุมไพร่พล 10,000 คน เข้ามาทางด่านบ้องตี้เพื่อตีเมืองราชบุรี ไม่ทราบข่าวว่าค่ายพม่าที่ทุ่งลาดหญ้าถูกทัพไทยตีเเตกพ่ายไปหมดเเล้ว รวมถึงไม่ทราบข่าวที่

พ.ศ. 2328 "เกงหวุ่นเเมงยี" ผู้คุมกองทัพของพม่าเข้าตีหัวเมืองปักษ์ใต้ฝั่งตะวันตก ได้ลงมาตั้งประชุมกองทัพที่เมืองมะริด จึงมีคำสั่งให้ "ยี่หวุ่น" คุมกองทัพเรือจำนวน 3,000 คน เข้าตีเมืองถลาง ส่วนตัวเกงหวุ