30 ต.ค. 2019 เวลา 03:39 • การศึกษา
มิติต่างๆ คืออะไร ?
ลองมาทำความเข้าใจกันตั้งแต่มิติที่ 1 ไปจนถึง มิติที่ 11 กันเลยดีกว่าครับ
😆😆😆
ถ้าพูดถึงมิติต่างๆ มันคงดูเป็นอะไรที่บ้าคลั่ง และทำความเข้าใจยากเอามากๆ
วันนี้เราเลยจะมาอธิบาย อีกหนึ่งแนวทาง ของเรือง มิติต่างๆจากหลายๆแนวทาง ให้ทุกคนได้เข้าใจกันแบบง่ายที่สุดดูครับ😆
🔸เริ่มกันที่มิติที่ 1 มิตินี้มีเพียงแค่ ความยาวเท่านั้น
หากนึกไม่ออก ให้นึกภาพว่า เรากำลังมอง วัตถุหนึ่ง ผ่าน สลิต หรือช่องแคบๆที่มองเห็นเพัยงเส้นตรงเท่านั้น
เราไม่สามารถบอกได้เลยว่า วัตถุนั้นรูปร่างเป็นอย่างไร
เราสามารถบอกได้เพียง ความยาวของวัตถุที่เปลี่ยนไปเมื่อมันเคลื่อนที่เท่านั้น
บอกได้แค่ความยาวของวัตถุที่เปลี่ยนไป
🔸มิติที่ 2 มิตินี้ประกอบไปด้วย ความยาวและความสูง เราสามารถเห็นรูปร่างของวัตถุได้
แต่ไม่สามารถบอกรูปทรงของมันได้
สามารถบองรูปร่างของวัตถุได้
🔸มิติที่ 3 มิตินี้ประกอบไปด้วย ความยาว ความสูง และความลึก มิตินี้คือมิติที่สามารถมองเห็นกันโดยปกติทั่วไป
เราสามารถบอกได้ทั้งรูปร่าง รูปทรง รวมไปถึงระยะใกล้ ไกล เราก็สามารถมองและแยกมันออกได้เกือบจะทันทีด้วยสายตาของเรา
สามารบอกรูปทรงของวัตถุได้
❎มิติที่ 3 นี้ คือคนละอย่าง กับ 3 มิติ หรือ 3 D ในภาพยนตร์อยู่นิดหน่อย
โดยที่ในจอภาพยนตร์ปกตินั้น คือภาพสองมิติ ที่มีแค่ความกว่าง และความสูง
แต่ 3D นั้นจะเพิ่มความลึก ระหว่างหน้าจอ และสายตาของเรา ด้วยวิธีการต่างไป ทางแสงสี
หนัง 3D ทะลุจอ
🔸มิติที่ 4 นอกจาก ความกว้าง,ยาว,ลึก แล้ว มิตินี้ยังมีเรื่องของเวลามาเกี่ยวข้อง 🤔🤔
***เอาล่ะครับ มาถึงตรงนี้ชีวิตจะเริ่มวุ่นว่ายแล้วนะครับ อยากจะให้ทุกคนค่อยๆอ่าน และนึกภาพตามช้าๆนะครับ
1
เรื่องมิติที่ 4 นี้ ถ้าจะพูดกันง่ายๆเลยก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่าง สเปส กับ สเปส และสเปสกับเวลา
ยกตัวอย่างเช่น วัตถุ หนึ่ง เปลี่ยนตำแหน่ง เมื่อเวลาผ่านไป
ทำให้ตำแหน่งแรก เกิดที่ว่าง ส่วนตำแหน่งที่สองมีวัตถุอยู่แทน
❎มิติที่ 4 นั้นต่างกับ 4มิติ หรือ 4D ของภาพยนตร์โดนสิ้นเชิง
เนื่องจากมิติที่ 4 นั้นพูดถึง สถานที่และเวลา
แต่ 4D นั้นจะพูดถึง ประสบการณ์ทางประศาสตร์สัมผัสที่เพิ่มขึ้นมา ระหว่างการรับชมภาพยนตร์
ไม่ว่าจะเป็น การสั่น กลิ่น และละอองน้ำ
🔸มิติที่ 5 พูดถึงโลกอีกหนึ่งใบ ที่ทับซ้อนอยู่กับโลกของเราอยู่
ไม่ใช่โลกคู่ขนาน แต่เป็นอีกหนึ่งความเป็นไปได้ของโลก ที่จะเกิดขึ้น จากความเป็นไปได้ทั้งหมด ที่มีค้นกำเนิดเดียวกัน
🔸มิติที่ 6 พูดถึง มิติในแนว ระนาบทั้งหมดที่เกิดขึ้น โลกทั้งหมดที่มีความเป็นไปได้ ณ ตอนนั้น ที่มีจุดเริ่มต้น จากจุดเดียวกัน
ไม่ใช่อดีต หรืออนาคต แต่คือ โลกปัจจุบัน ในแบบต่างๆ
🔸มิติที่ 7 จะพูดถึง อีกจักรวาลหนึ่ง ที่มีจุดเริ่มต้นที่ต่างกันออกไป โลกที่มีความเป็นไปได้ที่หลากหลาย มากยิ่งขึ้นไปอีก
🔸มิติที่ 8 พูดถึง มิติในแนวลึก อดีต ปัจจุบัน อนาคต
มิติต่างๆ ทั้งแนวระนาบ แล้วแนวลึก ตัดผ่านกัน โลกทุกใบ และทุกเวลาถูกเชื่อมต่อกัน
ในมิตินี้ คุณจะเดินทางไปที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีขีดจำกัดเรื่องของเวลามาเกี่ยวข้อง
🔸มิติที่ 9 10 และ 11 ซึ่งตั้งแต่มิติที่ 9 เราก็ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยกฎทางฟิสิกส์ใดๆ
ในปัจจุบัน มิติต่างๆ แผ่ขยายออกไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด
อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ความเป็นไปได้ต่างๆมากมาย ที่ถูกบรรจบเข้าด้วยกัน ทั้งมิติแนวราบ และแนวลึก ไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ปวดหัวกันไหมเอ่ย ?
ตัวผมเอง ขณะที่เขียนเรื่องนี้ ก็ยังหาข้อมูลอยู่หลายวัน และเรียบเรียงอยู่หลายรอบ 😳😳
2
หวังว่า ทุกๆคนจะเข้าใจ ถึงที่มาที่ไป ของมิติต่างๆมากขึ้น ไม่มากก็น้อยนะครับ
สุดท้ายนี้มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนกันได้ที่ช่องคอมเม้นด้านล่าง
และอย่าลืมกดว้าว เพื่อบอกเราว่าอ่านมาถึงบรรทัดสุดท้ายนครับ 😆😆😆
Reference :
🔸https://medium.com/@Ella_alderson/the-ten-dimensions-simplified-b261e54fc31c
🔸https://www.quora.com/What-is-5-dimension
🔸https://www.universetoday.com/48619/a-universe-of-10-dimensions/
วิทย์นิดนิดเรียบเรียง 28/10/2562
☀️บทความนี้คือบทความที่ตั้งเวลาล่วงหน้า ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านและติชิมล่วงหน้านะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา