โสเภณีในอดีตมีมาตั้งแต่เมื่อใด ตอนที่ 1
‘เจาะเวลาหาอดีต’ จะพาท่านผู้อ่านตามหาร่องรอยบนประวัติศาสตร์ไทยเกี่ยวกับ
‘โสเภณี’ เริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อใด?
หากจะพูดถึงอาชีพหญิงขายบริการหรือโสเภณี มีมาตั้งแต่เมื่อใดกันแน่ ไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัด
แต่จากหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ไทยเกี่ยวกับโสเภณี ได้มีมาแล้วอย่างน้อยตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองต้นกรุงศรีอยุธยา
•หลักฐานจากกฏหมาย•
ซึ่งตราขึ้นไว้ในสมัย สมเด็จพระรามาธิบดีหรือพระเจ้าอู่ทอง พระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงสร้างกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 1904 ประมาน 659 ปี มาแล้ว (พ.ศ.2563 ปัจจุบัน) ได้กล่าวถึงหญิงโสเภณีว่า
" มาตราหนึ่ง ชายใดเที่ยวเอาหญิงคนขับคนรำเที่ยวขอทานเลี้ยงชีวิตและหญิงโสเภณีมาเลี้ยงเป็นเมียทำชั่วเหนือผัวก็ดี... ผัวรู้ด้วยประการใดใด พิจารณาเป็นสัจไซ้ท่านให้ผจานหญิงชายนั้นด้วยไถนา ส่วนหญิงอันร้ายให้ เอาเฉลวปะหน้า ทัดดอกฉบาทั้งสองหูร้อยดอกฉบาแดงเป็นมาไลยใส่ศรีษะใส่คอแล้วให้เอาหญิงนั้นเข้าเทียมแอกข้างหนึ่ง ชายชู้เข้าเทียมแอกข้างหนึ่งผจานด้วยไถนาสามวัน ถ้าแลชายผัวมันยังรักเมียมันอยู่มิให้ผจานไซ้
ท่านให้เอาชายผู้ผัวนั้นเข้าเทียมแอกข้างหนึ่ง หญิงอยู่ข้างหนึ่งอย่าให้ปรับไหมชายชู้นั้นเลย"
จากหลักฐานข้างต้นทำให้ทราบว่า สมัยโน้นต้องเสี่ยงภัยมากในการเที่ยวหญิงโสเภณี เพราะอาจจะต้องถูกเอาตัวเข้าเทียมแอกไถนาแทนควาย
จากหลักฐานที่กล่าวในกฎหมาย
เรื่องนำดอกไม้มาทัดหู หากท่านผู้อ่านเคยดูละครเรื่อง’บุพเพสันนิวาส’ฉากที่การะเกดนำดอกไม้มาทัดไว้ที่หูจนถูกคุณป้าตำหนิว่าทำตัวเหมือนหญิงโสเภณี ที่มาคือกฎหมายฉบับนี้
ด้วยเหตุนี้ผู้คนในสมัยนั้นจึงเปรียบคนที่นำดอกไม้ทัดหูว่าทำตัวเหมือนโสเภณี
นอกจากหลักฐานชิ้นนี้แล้ว ยังมีหลักฐานจากคำให้การ "ขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม" เอกสารจากหอหลวง ได้กล่าวถึงหญิงนคร
โสเภณีในปลายสมัยกรุงศรีกรุงอยุธยาก่อนกรุงแตก เมื่อ พ.ศ. 2310 ระบุว่า
"...มีตลาดบนบกนอกกำแพงพระนคร ตามชานพระนครบ้าง ตามฝั่งฟากกรุงบ้าง ติดแต่ในรอบบริเวณขนอนใหญ่ทั้ง 4 ทิศ รอบกรุงเข้ามาจนฟากฝั่งแม่น้ำตรงกรุง แลชานกำแพงกรุงนั้นด้วย รวมเป็น 30 ตลาดคือ...บ้านจีนปากคลองขุนละครไชย มีหญิงนครโสเภณีตั้งโรงอยู่ท้ายตลาด 4 โรง รับจ้างทำชำเราแก่บุรุษ ตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ใกล้ทางเรือแลทางบกมีตึกกว้างร้านจีนมาก ขายของจีนมากกว่าของไทย มีศาลเจ้าจีนศาลหนึ่งอยู่ท้ายตลาด1...”
•วิเคราะห์•
จากบันทึกดังกล่าวแสดงให้ทราบว่า
- ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หญิงโสเภณีอยู่ตามซ่อง แต่ในสมัยนั้นเรียกว่า’โรง’
- ตลาดนี้มีคนจีนอยู่อาศัยมากกว่าคนไทย พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเป็นถิ่นที่คนจีนอยู่คล้ายกับสำเพ็งในยุครัตนโกสินทร์
- ข้อสันนิษฐานว่าหญิงนครโสเภณีดังหลักฐานนอกจากจะเป็นคนไทยแล้ว อาจจะมีคนจีนอยู่ด้วย
คนจีนเรียกหญิงนครโสเภณีที่เป็นคนจีนว่า
"หยำฉ่า" ที่เขียนถึงหญิงโสเภณีในปลายสมัยอยุธยาข้างต้นมานั้น เป็นเพียงหญิงโสเภณี ที่อยู่นอกกำแพงพระนครเท่านั้น
ส่วนภายในกรุงศรีอยุธยาจะมีหรือไม่นั้น ยังมิอาจรู้ได้ เพราะในคำให้การของ "ขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม" ไม่ได้มีการบันทึกบอกไว้
แม้แต่บันทึก "ว่าด้วยเรื่องแผนที่กรุงศรีอยุธยา" ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงวินิจฉัยว่าผู้แต่งเกิดทันสมัยนั้นเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา ก็ยังไม่ได้กล่าวไว้
สันนิษฐานว่า คนในสมัยนั้นอาจจะมองหญิงนครโสเภณีว่าไม่ดี จึงไม่ยอมให้มีการตั้งโรงหรือซ่องชำเราบุรุษไว้ภายในกำแพงพระนคร
ส่วนในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์จากบันทึกก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีหญิงนครโสเภณีอยู่ในเขตกำแพงพระนครเช่นกัน แต่จะมีอยู่นอกกำแพงเช่นที่สำเพ็งเป็นต้น
ภาพเก่าย่านสำเพ็ง
ส่วนซ่องที่มีอยู่ในเขตกำแพงพระนครนั้น จากบันทึกพึ่งจะเริ่มมีมาในยุคปลายรัชกาลที่ 5 หรือช่วงต้นรัชกาลที่ 6 นี่เอง
ด้วยเหตุนี้มีซ่องที่ขึ้นชื่อลือนาม เช่น ซ่องยายแฟง ซ่องยายกลีบ ซ่องยายเต๊า ยายขาวและยายสุด จึงล้วนแต่อยู่ในเขตย่านสำเพ็งทั้งสิ้น
ภาพเก่าย่านสำเพ็ง
หากในสมัยกรุงศรีอยุธยามีซ่องโสเภณี
อยู่ที่”ตลาดบ้านจีน”ปากคลองขุนละครไชยและในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็มีซ่องหญิงโสเภณีอยู่ที่สำเพ็ง ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของคนจีนเช่นกัน
หากใครต้องการทราบว่า “ตลาดบ้านจีน” ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวญใดในจังหวัดอยุธยา
เชิญเข้าลิงค์>>
ขอบคุณคลิปจากยูทูป
ชาแนล: faiththaistory
สำหรับหญิงโสเภณีที่สำเพ็ง ชาวบ้านจะเรียกสั้นๆ ว่า "พวกสำเพ็ง" หากจะมีการเรียกอย่างเหยียดๆ ว่า "อีสำเพ็ง" แต่สมัยกรุงศรีอยุธยานั้นจะมีการเรียกพวกหญิงโสเภณีว่า "พวกตลาดบ้านจีน" ด้วยรึเปล่าอันนี้ไม่ทราบครับ
แม้ว่าหลักฐานที่เกี่ยวกับโสเภณีจะมีเพียงเล็กน้อยในประวัติศาสตร์ของไทย แต่บันทึกหลายชิ้นทางโบราณทั่วโลก มีการบันทึกบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโสเภณีมานานมาก
จนทุกวันนี้ไม่สามารถระบุเวลาได้อย่างแน่ชัดเจนว่าโสเภนีเริ่มมีมาแต่เมื่อใด
.......จบตอน 1
เมื่อพูดถึงโสเภณีแล้ว จะไม่พูดถึง
"โรคสำหรับบุรุษนักเที่ยว" หรือเรียกสั้นๆว่า "โรคบุรษ" หรือ "กามโรค" คงจะไม่ได้
ตอนหน้า...ตอนที่ 2 "โรคบุรุษ"
อย่าลืมติดตามกันนะครับ
🙏ขอบพระคุณที่ติดตามกันนะครับ ชอบกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ🙏❤️
- 35
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
