1️⃣ ไม่นำสิ่งของใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับเข้าไปยังที่นอน
กำหนดเจาะจงสถานที่นอนหลับ ด้วยเหตุผล 2 ประการ
1 ความจำที่สามารถใช้งานได้จะถูกสร้างขึ้นขณะที่นอนหลับ และเราไม่ควรรบกวนและขัดขวางการทำงานนี้
2 แค่วางหนังสือหรือสมาร์ทโฟนไว้ สมองก็ตื่นตัว
ในขณะที่กำลังนอนหลับ สมองต้องการสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเพื่อฝึกฝนความจำ และกำจัดความจำที่ไม่ต้องการทิ้งไป
การกระตุ้นสมองส่วนการมองเห็น ส่วนการได้ยิน ส่วนภาษา ซึ่งกำลังจะเข้าสู่กระบวนการนอนหลับด้วยการนำสิ่งต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน หนังสือ เป็นการรบกวนระบบของสมองที่กำลังพยายามเจริญเติบโต
*สมองจะจดจำสถานที่และการกระทำเป็นเซตคู่กัน
เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงหลับฝัน (REM Sleep) เนื่องจากความสนใจจะมุ่งไปที่สิ่งรอบๆ ตัว เราจึงตื่นง่าย โดยเฉพาะเมื่อวางสิ่งของไว้บนที่นอน เราก็จะมุ่งความสนใจไปที่สิ่งนั้น ทำให้คุณภาพการนอนหลับต่ำลง
*อย่าเอาสิ่งของไปวางไว้บนเตียงหรือที่นอน -> สำหรับคนที่ติดนิสัยอ่านหนังสือก่อนนอน ให้หาโต๊ะหรือเก้าอี้วางไว้ข้างที่นอนแล้วอ่านหนังสือบนนั้น หลังจากอ่านเสร็จจึงวางหนังสือไว้ แล้วค่อยไปนอนบนที่นอน
*แม้แต่นาฬิกาปลุกก็ต้องวางไว้นอกที่นอน
*ท่องเวลาตื่นนอนในใจ 3 ครั้ง แล้วจะตื่นได้อย่างสดชื่น เรียกว่า วิธีการปลุกตัวเองให้ตื่น (self-awakening) เป็นการควบคุมเวลาหลั่งของฮอร์โมนคอติซอล โดยลองฝึกดูประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้กลไกการตื่นนอนในสมองให้เป็นประโยชน์มากกว่าคอยเพิ่งนาฬิกาปลุก
*ไม่ควรยึดติดการวัดผลของแอพพลิเคชันบันทึกการนอนหลับมากจนเกินไป หากมีอาการง่วงเหงาหาวนอน หรือรู้สึกอ่อนเพลีย เหม่อลอยหลังจากตื่นนอนแล้ว 4 ชั่วโมง แสดงว่า นอนหลับไม่เพียงพอ
*ไม่อ่านนิทานให้เด็กฟังบนที่นอน โดยหลักการเดียวกัน เราไม่ควรขัดขวางพัฒนาการของสมองโดยการอ่านหนังสือนิทานให้เด็กฟังบนที่นอน