28 พ.ย. 2018 เวลา 10:09 • ธุรกิจ
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตอนที่ 6 : Silicon Valley Effect
ก่อนจะปิดเทอมภาคฤดูร้อนในอีก สองถึง สามสัปดาห์ข้างหน้า ตอนนี้ ทีมงาน thefacebook ต้องทำงานตัวเป็นเกลียว จนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน รวมถึงต้องขาดเรียนในบางวิชา เพราะตอนนี้ thefacebook กำลังเติบโตอย่างพุ่งกระฉูด จนหยุดไม่อยู่แล้ว และมันเติบโตเร็วมาก ๆ จากกระแสปากต่อปาก ในมหาลัยทั่ว สหรัฐอเมริกา
Silicon Valley Effect
จำนวนผู้ใช้งานตอนนี้นั้น พุ่งไปแตะ ที่ 150,000 คนแล้ว โดยกระจายไปกว่า 30 มหาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการคำนวนไว้ว่า จะถึง 100 มหาลัย เมื่อหมดฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ทางทีมจึงต้องมีการขยายทีมงานอย่างเร่งด่วน มีการรับโปรแกรมเมอร์เพิ่มขึ้นมาจากชมรมคอมพิวเตอร์ของ ฮาร์วาร์ด เพราะใครก็อยากร่วมงานกับ thefacebook จึงได้มือดีเข้ามาช่วยงานอีกสองถึงสามคน
thefacebook เริ่มกระจายไปในมหาลัยทั่วอเมริกาแล้ว
แถมข่าวของ facebook ดังถึงขนาดว่า มีนักลงทุนหลายราย มาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ในมหาลัย เพื่อตามหาตัวมาร์ค เพื่อจะลงทุน ใน thefacebook ซึ่งตอนนั้น มีข้อเสนอตัวเลขถึง 7 หลักเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่มีข้อเสนออะไรที่ชัดเจนมากนัก แต่ เอดูอาร์โด ก็เริ่มเห็นมูลค่าของ thefacebook ที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงพร้อมที่จะลงทุนเพิ่มขึ้นไปอีก โดยเงินส่วนใหญ่นั้นทั้งที่จ้าง programmer หรือ ค่า server ต่าง ๆ ก็มาจาก เอดูอาร์โด เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะรู้อยู่ว่ามาร์ค นั้นแทบจะไม่มีเงิน
VC เริ่มเข้าหา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เพื่อขอร่วมลงทุน
และ thefacebook ก็เริ่มปรับรูปแบบให้เป็นบริษัทที่ชัดเจนมากยิ่ง มีการจดทะเบียนบริษัทใหม่ใน ฟลอริด้า ซึ่งเป็นที่อยู่ของครอบครัว เอดูอาร์โด และทำการจัดสรรปันส่วนหุ้นใหม่ โดย มาร์คลดลงเหลือ 65% และแบ่งให้ ดัสติน มอสโกวิทช์ 5% ส่วนสัดส่วนของ เอดูอาร์โด นั้นยังคงเดิมที่ 30%
และแม้เอดูอาร์โด จะไม่ค่อยสนับสนุนแผนการที่มาร์ค จะพาทีมงานไปบุกซิลิกอน วัลเลย์ ซักเท่าไหร่ แต่ ทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว มาร์ค จองบ้านเช่าใกล้ มหาลัยสแตนฟอร์ดไว้เรียบร้อย  ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วน เรื่องฝึกงานของ เอดูอาร์โดนั้นก็ถูกจัดการไว้หมดเรียบร้อยแล้วเช่น เอดูอาร์โดจึงต้องยอมมาร์ค โดยได้ใส่เงินให้มาร์คเพิ่มขึ้นไปอีกรวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดที่ ซิลิกอน วัลเลย์ด้วย เอดูอาร์โด ลงทุนเพิ่มไปอีกเป็น 18,000 เหรียญสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ  ที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว
แม้จะมีความกังวลอยู่บ้างแต่เค้าก็คงไม่คิดว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้มากมาย เพียงแค่ 2-3 เดือน และที่สำคัญ การห่างกันนั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานซักเท่าไหร่ เพราะมี internet เชื่อมต่อเพื่อคุยงานกันได้อยู่แล้ว และก็เป็นหนทางที่ตัวเองต้องการอยู่แล้วกับการไปฝึกงานที่บริษัทวาณิชธนกิจใหญ่ ๆ ในนิวยอร์ค เป็นทางเลือกไว้เผื่อสุดท้ายหากโปรเจค thefacebook มันไม่เวิร์คจริง ๆ ขึ้นมาเค้าก็ยังทางที่จะเดินต่อไปได้
Silicon Valley Effect
การพาทีมเข้ามาสู่ ซิลิกอน วัลเลย์ เพื่อซึมซับ บรรยากาศ ของการสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่ การสร้างสตาร์ทอัพ รวมถึงเป็นสถานที่ ๆ บริษัทใหญ่ ๆ ที่เริ่มก่อตั้งในโรงรถ ได้แจ้งเกิดกลายเป็นบริษัทพันล้าน หมื่นล้านเหรียญมาแล้วหลายราย ตัวอย่างเช่น yahoo , google หรือ แม้กระทั่ง apple เองเคยทำได้
จากตอนที่แล้ว ที่ ฌอน ปาร์คเกอร์ ได้สัญญากับมาร์ค ไว้ว่าจะนัดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งทั้งคู่ก็ได้แลกเปลี่ยน email ติดต่อกัน เพื่อหาโอกาสที่จะเจอกันอีกครั้ง โดยมีการนัดแนะกันไว้ ว่าจะเจอกันในงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิค ที่ลาสเวกัส ในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึง
แต่เหมือนทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้ว ฌอน นั้นได้มาพักอยู่กับแฟนสาว ซึ่งเรียนปีสุดท้ายอยู่ที่ มหาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่ง บังเอิญเหลือเกินที่บ้านหลังนั้นอยู่ห่างจากบ้านที่มาร์ค เช่าไว้เพียงไม่กี่บล็อค ซึ่งในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็ได้เจอกันอีกครั้ง
บ้านที่มาร์คเช่า กับ บ้านของแฟนสาว ฌอน นั้นห่างกันไม่กี่บล็อค
เหมือนชะตาลิขิตให้ทั่งคู่ต้องมาร่วมงานกัน แฟนสาวของฌอน นั้นก็ต้องย้ายกลับบ้านไปในอีก 1 อาทิตย์ ซึ่งหลังจากนั้น ฌอนก็ไม่มีที่สิงสถิตย์แล้ว การเจอกับมาร์คอีกครั้งนั้น มันเป็นการเหมือนเติมไฟความฝันที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของ ฌอน เพราะเค้ารู้ตั้งแต่แรกเห็นว่า thefacebook นั้นจะต้องกลายเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน
ฌอนอยากมีส่วนร่วมกับมาร์คมาก ๆ ซึ่งไม่ต้องพูดถึงมาร์คเลย เพราะมาร์คนั้นมองฌอนเหมือนเทพเจ้า ที่ตัวเองต้องเดินตามรอยให้ได้ มันจึงเป็นอะไรที่ลงตัวมาก มาร์คนั้นแทบจะไม่ต้องเอ่ยปากชวน ก็รู้ว่าทั้งสองนั้นต้องการที่จะร่วมมือกัน และพา thefacebook ข้ามไปอีกขั้นให้ได้
สุดท้าย มาร์ค ก็ชวนฌอน ให้มาอยู่ด้วยกัน เมื่อ ฌอน ไปถึงบ้านที่มาร์คเช่าไว้ และพบทีมงานของมาร์ค ก็ทำให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปตอนที่สร้าง napster ใหม่ ๆ อีกครั้ง บรรยากาศทุกอย่างมันใช่เลย ทีมงานที่นั่งเขียนโปรแกรมตลอดทั้งวันทั้งคืน ถาดพิซซ่าที่วางอยู่เต็มบ้าน เครื่องเล่นเกมส์ ที่วางอยู่เรียงราย มันใช่เลยจริง ๆ
กับเหล่าทีมงานใน silicon valley
ทีมงานโปรแกรมเมอร์ที่มาร์ค พามาจากชมรมคอมพิวเตอร์ ก็ล้วนแล้วแต่อัจฉริยะแทบทั้งสิ้น นี่แหละคือส่วนผสมที่ลงตัวที่สุด ที่ ฌอนไม่ได้พบเจอมานานแล้ว บริษัทนี้แหละจะกลายเป็นบริษัทในตำนานแห่งความสำเร็จที่่ยิ่งใหญ่ในซิลิกอน วัลเลย์ยุคใหม่นี้ได้อย่างแน่นอน
ฌอนแปลกใจอย่างเดียวที่ไม่เห็น เอดูอาร์โด ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานที่หนักหนาสาหัสเหล่านี้ มาร์ค บอกกับฌอนว่า เอดูอาร์โดต้องไปนิวยอร์ค เพื่อไปฝึกงานในวาณิชธนกิจ การไม่มี เอดูอาร์โดมาที่ ซิลิกอน วัลเลย์นั้น ทำให้ ฌอน แทบจะตัดเขาออกไปจากการมีส่วนร่วมกับความยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นที่นี่
ทั้งที่ตัวฌอนเองในขณะนั้นยังไม่ได้มีหุ้นส่วนอะไรเลยใน thefacebook แต่ ฌอน มั่นใจว่า เอดูอาร์โด นั้นได้พลาดการมีส่วนร่วมในการก้าวข้ามไปอีกระดับของบริษัทนี้อย่างแน่นอนแล้ว  ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตลอดที่ซิลิกอน วัลเลย์แห่งนี้ การไม่ได้มาที่นี่มันแสดงให้เห็นถึงความไม่มีความทะเยอทะยาน ที่จะสร้างอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ มันต้องเป็นแบบมาร์ค ที่หายใจเข้าออกเป็น thefacebook ใช้เวลาทุกนาทีในทุก ๆ วันอยู่กับ thefacebook
สถานะของเอดูอาร์โด ใน thefacebook เริ่มสั่นคลอนแล้ว
ดูเหมือนถึงตอนนี้สถานการณ์ของ เอดูอาร์โด ใน thefacebook เริ่มสั่นคลอนแล้ว แม้เค้าจะเป็นผู้ลงทุนเงินทั้งหมด และถือหุ้นอยู่ 30% แต่ที่นี่คือซิลิกอนวัลเลย์ ดินแดนแห่งทุนนิยม ที่พร้อมจะอัดฉีดเงินได้ไม่อั้น ให้กับ สตาร์ทอัพที่พร้อมจะเติบโตสร้างกำไรให้กับเหล่านักลงทุนในอนาคต และมีนักกฏหมายด้านการลงทุน ที่พร้อมจะพลิกแพลงบริษัท หรือ ยึดบริษัทที่รู้ไม่เท่าทัน เหมือนที่ ฌอน ปาร์คเกอร์ นั้นได้เคยโดนถีบส่งจากบริษัทที่ตัวเองสร้างกับมือ มาแล้ว
และ การที่ ฌอน ปาร์คเกอร์ ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางแห่ง ซิลิกอน วัลเลย์ ที่มี คอนเน็คชั่นมากมายกับเหล่านักลงทุนทั่ว ซิลิกอนวัลเลย์เข้ามาร่วมชายคาเดียวกับมาร์คแล้วด้วยนั้น มันจะส่งผลให้เกิดอะไรขึ้น กับ หุ้นส่วนคนแรก ผู้ซึ่งร่วมสร้าง thefacebook มาตั้งแต่ก้าวแรก ฝ่าฝันต่อสู้กับมาร์คมาโดยตลอด อย่าง เอดูอาร์โด ซาเวริน โปรดติดตามตอนต่อไป
อ่านตอนที่ 7 : ConnectU
Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา