Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ธรรม STORY
•
ติดตาม
24 ธ.ค. 2018 เวลา 14:21 • ประวัติศาสตร์
พาหุงบทที่ 8
ตอน พกาพรหม
ครั้นสมัยหนึ่ง ในยุคพุทธกาล...
พระพุทธเจ้าทับอยู่โคนต้นรังใหญ่ในสุภควัน ใกล้เมืองอุกกัฏฐา ทรงตรวจดูด้วยสัพพัญญุตญาณ ก็เห็นว่าท้าวพกาพรหม มีมิจฉาทิฏฐิ
หลงเชื่อว่าพรหมนี้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความไม่คลาดเคลื่อนเป็นธรรมดา และพรหมนี้ไม่ต้องเกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ การได้เกิดเป็นพรหมนี้เป็นการพ้นทุกข์
เหตุที่ท้าวพกาพรหมมีมิจฉาทิฏฐิ
ก็เนื่องจากสมัยที่ท่านเกิดเป็นมนุษย์
ได้บวชเป็นพระดาบส ประกอบกุศลกรรม และรักษาฌานสมาบัติ เมื่อสิ้นชีวิตแล้วจึงได้มาอุบัติในพรหมโลก
เมื่อแรกมาอุบัติในพรหมโลกนั้น ท้าวพกาพรหมอุบัติใน
#พรหมโลก
ชั้นที่ ๑๐ คือ...เวหัปผลาพรหม...
มีอายุได้ ๕๐๐ กัป
เมื่อจุติจากเวหัปผลาพรหมแล้วก็ไปอุบัติต่อใน
#พรหมโลก
ชั้นที่ ๙ คือ... สุภกิณหาพรหม...
มีอายุได้ ๖๔ กัป
เมื่อจุติจากสุภกิณหาพรหม
ก็ไปอุบัติต่อใน
#พรหมโลก
ชั้นที่ ๖ คือ... อาภัสราพรหม...
มีอายุอีก ๘ กัป
***รวมแล้วท้าวพกาพรหมเกิดเป็นพระพรหมมาแล้วกว่า ๕๐๐ กัป***
ด้วยกาลเวลาที่ยาวนานมากจนไม่อาจจดจำนี่เอง ท้าวพกาพรหมจึงหลงเข้าใจว่าพรหมนี้เที่ยง ไม่มีเกิด ไม่มีแก่ และดับ และสุขยิ่งกว่าพรหมไม่มีอีกแล้ว...
เมื่อพระพุทธเจ้าทราบวาระจิตของท้าวพกาพรหม พระองค์จึงหายกาย
ไปจากโคนต้นรังใหญ่ แล้วไปปรากฏในพรหมโลก...
เมื่อท้าวพกาพรหมเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมา ก็กราบทูลพระพุทธองค์ว่า :
“ดูก่อน ท่านผู้นฤทุกข์ เชิญท่านมาสู่พรหมโลกนี้เถิด พรหมโลกนี้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง แข็งแรง มีความไม่เคลื่อนเป็นธรรมดา พรหมโลกนี้ไม่ต้องเกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ สุขกว่าพรหมโลกไม่มีอีกแล้ว”
พระพุทธเจ้าทรงดำรัสตอบว่า :
“ดูก่อน พรหมผู้เจริญ ท่านกล่าวสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง กล่าวสิ่งที่ไม่ยั่งยืนว่ายั่งยืน กล่าวว่าสิ่งที่ไม่มั่นคงว่ามั่นคง กล่าวว่าสิ่งที่ไม่แข็งแรงว่าแข็งแรง กล่าวว่าสิ่งที่มีความคลาดเคลื่อนเป็นธรรมดาว่าไม่มีความคลาดเคลื่อน พรหมโลกนี้มีทั้งเกิด ทั้งแก่ ทั้งตาย ทั้งจุติ ทั้งอุบัติอยู่เป็นปกติ แต่ท่านกลับกล่าวว่าพรหมโลกนี้ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ ดูก่อนท่านผู้เจริญ ท่านกำลังหลงในอวิชชาแล้วหนอ”
ท้าวพกาพรหมกล่าวแย้งว่า :
“ข้าแต่พระโคดม พวกข้าพระองค์มี ๗๒ คน ล้วนได้ทำบุญมาดีแล้ว มีอำนาจเหนือคนเหล่าอื่น ก้าวล่วงพ้นจากความเกิด ความแก่ การเกิดเป็นพรหมนี้ชื่อว่าถึงพระเวทแล้ว ข้าแต่พระโคดม การเกิดเป็นพรหมนี้ เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย ความสุขยิ่งกว่าพรหมไม่มีอีกแล้ว”
ครั้งนั้นเอง
มารก็ได้เข้าสิงกายของพรหมบริวารผู้หนึ่ง แล้วกล่าวกับพระพุทธเจ้าว่า :
“ดูก่อนสมณะ ท่านอย่ารุกราน
ท้าวพกาพรหมนี้เลย พกาพรหมผู้นี้เป็นมหาพรหม เป็นพรหมผู้เป็นใหญ่ปกครองพรหมโลก เป็นผู้สร้างโลกและสรรพสัตว์ เป็นบิดาของสรรพสิ่งทั้งหลาย"
"ดูก่อนสมณะ... สมณะและพราหมณ์เหล่าใด
เป็นผู้ติเตียนดิน... เกลียดดิน
เป็นผู้ติเตียนน้ำ... เกลียดน้ำ
เป็นผู้ติเตียนไฟ...เกลียดไฟ
เป็นผู้ติเตียนลม...เกลียดลม
เป็นผู้ติเตียนสัตว์...เกลียดสัตว์
เป็นผู้ติเตียนเทวดา...เกลียดเทวดา
เป็นผู้ติเตียนพรหม...เกลียดพรหม
ว่าพรหมนี้ไม่เที่ยง สมณะและพราหมณ์ เหล่านั้นเมื่อกายแตกดับแล้ว ล้วนต้องไปเกิดในอบาย"
มารผู้สิ่งกายบริวารพรหม
กล่าวต่อ:
"ดูก่อนสมณะและพราหมณ์เหล่าใด เป็นผู้สรรเสริญดิน... ชมเชยดิน
เป็นผู้สรรเสริญน้ำ... ชมเชยน้ำ
เป็นผู้สรรเสริญไฟ... ชมเชยไฟ
เป็นผู้สรรเสริญลม... ชมเชยลม
เป็นผู้สรรเสริญสัตว์... ชมเชยสัตว์ เป็นผู้สรรเสริญเทวดา... ชมเชยเทวดา
เป็นผู้สรรเสริญพรหม... ชมเชยพรหม
สมณะและพราหมณ์เหล่านั้น เมื่อกายแตกดับแล้วก็จะได้ไปอุบัติในพรหมโลก ดูก่อนสมณะ เพราะเหตุนั้นท่านจงทำตามคำที่พกาพรหมบอกแก่ท่าน
เท่านั้น ท่านจงอย่าฝ่าฝืนคำของพกาพรหมเลย ”
พระพุทธเจ้าทรงทราบว่า
มารได้เข้าสิงสู่ในพรหม จึงมีพุทธดำรัสโต้ตอบมารว่า :
“นี่แนะมาร ท่านอย่าเข้าใจว่าเราไม่รู้จักท่าน เรานี้รู้จักท่าน และไม่อยู่ในอำนาจของท่าน ดังเช่นพรหมที่ท่านครอบงำอยู่”
มารเมื่อได้ฟังคำของพระพุทธองค์แล้วก็ตกใจกลัว จึงรีบเหาะออกหนีไปจากพรหมโลกทันที...
ส่วนท้าวพกาพรหมนั้นยังมีมิจฉาทิฏฐิอยู่ จึงได้พูดจาอวดอ้างฤทธานุภาพของตนว่ามีเหนือผู้ใด และท้าทายว่าจะหายตัวไปไม่ให้พระพุทธเจ้ามองเห็น...
แต่ไม่ว่าท้าวพกาพรหมจะพยายามหายตัวไปอยู่ที่ไหน อย่างไร พระพุทธเจ้าก็ทรงเห็นตลอดว่าท้าวพกาพรหมอยู่ที่ใด
พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงฤทธิ์
บ้าง โดยพระองค์ยังคงประทับ
อยู่ที่เดิม และทรงแสดงพระสัทธรรมด้วยพระสุรเสียงไพเราะ เสนาะใส แก่บรรดาพระพรหม แต่ไม่มีพระพรหมองค์ใดสามารถมองเห็นพระองค์ได้...
ขณะนั้นเอง...
พระพุทธเจ้าจึวทรงแสดงกุศลกรรมของท้าวพกาพรหมว่า :
“ดูก่อนพรหมผู้เจริญ เรานี้รู้ชาติอดีตของท่าน ก่อนนี้ในกัปหนึ่ง ท่านได้เกิดเป็นดาบส อยู่ในทะเลทรายที่กันดาร ได้เนรมิตน้ำให้พ่อค้าเกวียน ๕๐๐ เล่มที่หลงทาง นี่เป็นกุศลของท่าน”
เนื้อความมีอยู่ว่า :
ในอดีตชาตินั้น...อยู่มาวันหนึ่ง พ่อค้าพวกหนึ่งเดินทางไปถึง
ทะเลทรายที่กันดารน้ำ แต่ด้วยเกวียนที่มีจำนวนมาก ถึง ๕๐๐ เล่มนั้น
คนทั้งหลายไม่สามารถกำหนดทิศทางในการเดินทางได้ พวกเขาจึงพากันเสี่ยงดวงเดินทางออกไป
และหลังจากเดินทางไปได้ ๗ วัน
ก็ทำให้ เสบียงต่างๆ เริ่มทยอยหมดไปจนสิ้น และเมื่อน้ำกับอาหารหมดลง
พ่อค้าทั้งหลายจึงคิดว่า :
"บัดนี้ พวกเราทั้งหลายคงจักไม่มีชีวิตรอดแล้วหนอ..."
พวกพ่อค้าจึงได้พากันจอดพักเกวียน และรวมตัวกันล้อมรอบ
จับกันเป็นกลุ่ม เพื่อที่เกวียนนั้นจะได้ช่วยบดบังแสงแดดที่ร้อนแรงได้บ้าง และในแต่ละเกวียนนั้นต่างก็ได้ปลดปล่อยโคออกไปจากเกวียน
จากนั้นแล้ว พ่อค้าทั้งหลายต่างก็พากันนอนลงอยู่ใต้เกวียนของตน
เพื่อรอคอยวันสิ้นลมหายใจ...
ครั้งนั้นเอง ดาบส ก็ได้รำลึกไปเห็นด้วยจิตของตนว่าพ่อค้าเหล่านั้นกำลังมีความทุกข์ทรมานอยู่
แล้วจึงคิดในใจว่า :
"เมื่อเรานี้เห็นอยู่ ขอเหล่าคนทั้งหลายจงอย่าได้พินาศเถิด"
แล้วดาบสก็ได้บันดาลให้กระแสน้ำคงคาเกิดขึ้น เฉพาะหน้าของพวกพ่อค้าทั้งหลายที่กำลังใกล้จะตาย ด้วยอานุภาพในฤทธิ์ของตน
และได้เนรมิตไพรสณฑ์ (แนวป่า)
เพิ่มอีกแห่งหนึ่งไว้ในที่ๆไม่ไกล จากพ่อค้าทั้งหลายเหล่านั้น
จึงทำให้พวกพ่อค้าทั้งหลายได้ดื่มน้ำและอาบน้ำ ทำให้ให้โคทั้งหลายที่ไม่ได้กินหญ้าก็ได้กินจนอิ่มหนำสำราญ
หลังจากนั้นแล้ว พ่อค้าต่างก็ช่วยกันไปเกี่ยวหญ้า เก็บฟืนจากไพรสณฑ์ และพวกพ่อค้าเหล่านั้นก็สามารถกำหนดทิศทางที่จะออกจากสถานที่กันดารนี้ได้
ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกพ่อค้าทั้งหลาย รอดพ้นจากความตาย
และหลุดออกจากทะเลทราย
ที่ทุรกันดารนี้ไปได้โดยสวัสดิภาพ
ลำดับนั้น
พระพุทธเจ้าทรงแสดงกุศลกรรมของท้าวพกาพรหมต่อว่า :
“ก่อนนี้ ท่านเป็นดาบส อาศัยอยู่ชายป่า มีโจรลงมาจากเขา มาปล้นชาวบ้าน แล้วจับเอาคนจำนวนมากขึ้นไปบนเขา ท่านแปลงกายเป็นพระราชา พร้อมกองทหาร ขับไล่โจรไป แล้วช่วยชีวิตชาวบ้านไว้ นี่เป็นกุศลของท่าน”
เนื้อความมีอยู่ว่า :
ดาบสนั้นในชาติกาลต่อมาได้มาอาศัยอยู่แทบหมู่บ้านแถวชายแดนตำบลหนึ่ง เพื่อบำเพ็ญตบะ แล้วพักอยู่ที่
ไพรสณฑ์แห่งหนึ่งใกล้ๆ ฝั่งแม่น้ำ
ครั้นวันหนึ่ง...
ได้มีพวกโจรชาวเขาลงมาปล้นชาวบ้าน และจับเอาคนในหมู่บ้านจำนวนมากให้ขึ้นไปบนเขา และตลอดเส้นทางพวกโจรได้วางกำลังคนสอดแนมไว้ที่ระหว่างทางเพื่อไว้ดูลาดราว
จากนั้นโจรภูเขาได้นำกลุ่มชาวบ้านพาเข้าไปสู่ในซอกเขา ระหว่างทางก็ถูกโจรบังคับ ทำร้ายอยู่ตลอดทาง
ลำดับนั้น
ดาบสได้ยินเสียงร้องครวญครางของสัตว์ต่างๆ มีโคกระบือและเสียงของชาวบ้านทั้งหลายมีทั้งเด็กชายและเด็กหญิงเป็นต้น
จึงคิดว่า :
"เมื่อเราเห็นอยู่ ขอพวกเขาทั้งหลายจงอย่าพินาศเถิด"
แล้วจึงละอัตตภาพดาบส แล้วเนรมิตกายเป็นพระราชา แวดล้อมไปด้วยเสนามีองค์ ๔ ได้ให้ตีกลองศึกเคลื่อนไป ณ ภูเขาของกองโจรเหล่านั้น
ครั้นนั้นเอง...
พวกคนสอดแนมของโจรที่ซุ่มอยู่นั้น ก็ได้มองเห็นพระราชากำลัง ยกทัพมาทางที่พวกตนอยู่ จึงรีบกลับไปบอกข่าวแก่พวกโจรของตนโดยเร็ว
เพื่อปรึกษาหารือกัน...
พวกโจรทั้งหลายลงความเห็นกันว่า :
"พวกเราทั้งหลายไม่ควร ที่จะเข้าไปยุ่งหรือต่อกรกับพระราชา"
ดังนั้นโจรทั้งหลาย จึงพากันทิ้งเชลยไว้ แล้วรีบพากันหนีไปออกไปจากภูเขานั้นทันที
สุดท้ายนั้น
ดาบส ก็ได้นำพาคนทั้งหลายเหล่านั้น ให้กลับไปยังสู่ที่หมู่บ้านของตนจนหมดครบทุกคน
ลำดับนั้น
พระพุทธเจ้าทรงแสดงกุศลกรรมของท้าวพกาพรหมต่ออีกว่า :
“ก่อนนี้ ท่านเป็นดาบสอาศัยอยู่
ริมฝั่งน้ำ ชาวเรือได้ทิ้งเศษอาหารลงไปในน้ำ ทำให้พญานาคโกรธ และขึ้นมาจะทำร้ายเรือ ท่านได้แปลงเป็นครุฑ ขับไล่พญานาคไป นี่เป็นกุศลของท่าน"
เนื้อความมีอยู่ว่า :
ในอดีตกาลต่อมา ดาบสได้มาอาศัยพักอยู่ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำคงคา
ครั้งนั้น คนทั้งหลายได้พากันผูกเรือขนาน ๒-๓ ลำติดกัน แล้วสร้างมณฑปดอกไม้ไว้ที่ยอดเรือขนาน และนั่งกินนั่งดื่มกันอยู่ในเรือขนานนั้น
ในขณะที่เรือกำลังแล่นไปที่ฝั่งสมุทร พวกเขาพากันเทสุราที่เหลือจากดื่ม ข้าว ปลาอาหารและหมากพลูเป็นต้น ด้วยของที่เหลือจากที่กินไม่หมดแล้วทิ้งลงแม่น้ำคงคานั่นเอง
ด้วยเหตุนี้
จึงทำให้พญานาค นามว่า
***คังเคยยะ*** โกรธโมโห
ที่คนพวกนี้ได้โยนของที่เหลือกินลงเบื้องบนของเรา
จึงคิดหมายในใจว่า :
"เราจักรวบคนเหล่านั้นทิ้งให้จมลงในแม่น้ำคงคาหมดทุกคน"
ว่าแล้วพญานาคก็เนรมิตกาย
มีอัตภาพใหญ่ประมาณเท่าเรือโกลนลำหนึ่ง แหวกว่ายน้ำขึ้นมา แผ่พังพานลอยน้ำไปตรงหน้าคนเหล่านั้น
พวกคนเหล่านั้นพอได้เห็นพญานาคเท่านั้น ก็เหมือนจะถูกมรณภัยเข้าทำร้ายพวกตนเสียแล้ว จึงได้พากันส่งเสียงร้องลั่นขึ้นพร้อมกัน ด้วยความหวาดกลัว ในความตายที่มารออยู่เบื้องหน้า
ลำดับนั้น...
ดาบสได้ยินเสียงคร่ำครวญของพวกเขา ก็รู้ว่าพญานาคนี้กำลังโกรธโมโหมาก
จึงคิดว่า :
"เมื่อเราเห็นอยู่ ขอคนทั้งหลายจงอย่าพินาศเถิด"
แล้วจึงได้รีบเนรมิตอัตภาพเป็นพญาครุฑบินไปด้วยอานุภาพของตน โดยฉับพลัน ทำให้สามารถมาถึงหมู่ชนบนเรือได้ในทันที
ครั้นแล้ว
เมื่อพญานาคเห็น พญาครุฑนั้นแล้ว ก็เกิดหวาดกลัวความตายจึงได้รีบ แหวกว่ายดำดิ่งลงลึกไปในมหาสมุทร ทำให้พวกมนุษย์ทั้งหลายนั้นได้ถึงแก่ความสวัสดี
"ดูก่อนพรหมผู้เจริญ เรารู้บุญกรรมของท่านดุจนอนฝันแล้วตื่นขึ้น”
พระพุทธเจ้าทรงแสดงความไม่เที่ยงต่อไปว่า :
“ดูก่อนพกาพรหม ความจริงอายุของท่านนี้ไม่มากเลย ท่านอย่าสำคัญว่าอายุของท่านมาก อายุของท่านนั้น เหลือเพียง ๑๐๐,๐๐๐ นิรพุทะเท่านั้น”
***เรื่องระยะเวลาในพระพุทธศาสนานั้นมีเยอะมาก ยาวนานมากไว้แอดมินจะนำมาให้อ่านในภายหลังครับ***
เหตุนี้จึงทำให้พกาพรหม เกิดความสงบนิ่ง...
และทำให้พกาพรหมนั้นได้ระลึกถึงกรรมที่ตนได้เคยกระทำไว้เมื่อครั้งอดีต ตามพระดำรัสของพระศาสดาที่ได้ทรงตรัสไว้แล้ว...
เมื่อพรหมจะทำการสดุดีพระตถาคต
จึงได้กล่าวคาถาสุดท้ายไว้ว่า :
"พระองค์ทรงทราบอายุของข้าพระองค์นั่นได้แน่นอน แม้สิ่งอื่นพระองค์ก็ทรงทราบเพราะพระองค์ทรงเป็นพระพุทธเจ้าแท้จริง จริงอย่างนั้น พระรัศมีอันรุ่งโรจน์ ของพระองค์นี้ จึงส่องพรหมโลกให้สว่างไสวอยู่เช่นนี้ พระเจ้าข้า"
ลำดับนั้น...
พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงธรรม
แก่บรรดาพรหมทั้งหลาย
จนในที่สุดท้าวพกาพรหม
และพรหมบริษัท ต่างก็อัศจรรย์
ใจในพระพุทธานุภาพ ยอมรับฟังธรรมและกลับมาเป็นพรหมสัมมาทิฏฐิ
และพรหมอีก ๑๐,๐๐๐ องค์
ก็ได้บรรลุธรรม
เวลาต่อมา
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเป็น
ที่พึ่งของพระพรหมทั้งหลายด้วยประการอย่างนี้แล้ว จึงได้เสด็จจากพรหมโลกมายังพระเชตวันวิหาร แล้วทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่ภิกษุทั้งหลาย โดยทำนองที่พระองค์ได้ทรงแสดงแล้ว ในพรหมโลกเช่นนั้นแล...
... ชัยชนะของพระพุทธเจ้าที่มีต่อท้าวพกาพรหม พรหมผู้เป็นใหญ่แห่งพรหมโลก เพราะพรหมผู้นี้หลงผิดว่าพรหมนี้เที่ยงและมีความสุขที่สุด คาถาบทนี้นิยมใช้สำหรับการเอาชนะผู้ใหญ่ และผู้ที่มีทิฏฐิมานะ...
เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้
จบแล้วครับกับ บทพาหุงทั้ง ๘ บท
กระผมหวังว่าท่านทั้งหลายจะได้ประโยชน์ จากพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ
... ขอความสวัสดี จงมีแก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขอดวงตาเห็นธรรมจงบังเกิดแก่ท่านสาธุชนทั้งหลาย สาธุ...
อ้างอิง
อรรถกถา พกพรหมชาดก
หนังสือ พาหุง ชัยชนะแห่งพุทธะ
ภาพประกอบโดย แอดมินต้นธรรม เพจ ธรรม STORY
11 บันทึก
112
22
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
พาหุง (แปลเนื้อเรื่องสมบูรณ์)
11
112
22
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย