2 ม.ค. 2019 เวลา 15:59 • กีฬา
เปิดประวัติ Stephen Curry สุดยอดมือสามแต้ม ตำนานที่ยังมีลมหายใจ
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้จะมาขอเชิญท่านผู้อ่านมารับชมบทความกีฬาชิ้นที่สองของผมกันครับ โดยครั้งนี้จะเขียนถึงประวัติบุคคลหนึ่งที่เป็นสุดยอดมือสามแต้มแห่งศึกบาสเก็ตบอล NBA และเป็นคนที่ทำให้ผมต้องกลับมาดู NBA อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ดูมานานหลายปี หลังจากยุค Michael Jordan ซึ่งเค้าผู้นั้นก็คือ Stephen Curry นั่นเองครับ
เหตุที่ต้องกลับมาดู NBA นี่เพราะไปเจอคลิปของ Stephen หรือชื่อเล่นที่ใครหลายๆคนเรียกเค้าว่า Steph ครับ หลังจากดูจบ แล้วผมเลยต้องมาติดตาม Golden State Warriors ต่อจนทุกวันนี้ละครับ ด้วยฝีมือการเลี้ยง การจ่ายที่ไม่ธรรมดา และเหนือไปยิ่งกว่านั้นคือเครื่องหมายการค้าของเค้าการยิงสามแต้มขั้นเทพเท่าที่ NBA จะมีแล้วครับ (ขอใช้คำนี้ด้วยสถิติตอนยิงสามแต้มในหนึ่งฤดูกาลด้วยจำนวน 272 ลูก ในฤดูกาล 2012-2013 สร้างสถิติใหม่ให้กับ NBA แล้วก็เป็นเค้าที่ทำสถิติมาลบของเดิมของตัวเองต่อด้วยสามแต้ม 286 ลูกในฤดูกาล 2014-2015 และสามแต้ม 402 ลูกในฤดูกาล 2015-2016 เขียนเองก็สร้างใหม่เองครับ)
สถิติสามแต้มยิ่งยิงยิ่งเยอะ
ความเทพของสามแต้มของ Steph นี่ผมให้ได้สั้นๆเลยว่า ชู้ตไว ชู้ตแม่น เพราะปัญหาของสามแต้มก็คือระยะ ซึ่งนักบาสส่วนมากก็ต้องใช้เวลาเล็ง กับการสะสมพลังมากกว่าปกติในการที่จะชู้ต ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นการใช้แผนส่งไปมาจนกระทั่งมือสามแต้มในทีมว่างถึงจะส่งไปปิดสกอร์ แต่ Steph ของเรานี่อาศัยวิ่งวนไปมาป่วนเกมส์รับคู่แข่ง พอได้บอลกะว่าคู่แข่งวิ่งมาช้า หรือมีเพื่อนสกรีนนิดหน่อย คือคำว่าช้ากับนิดหน่อยนี่คือโอกาสแค่เสี้ยววินาทีเองนะครับ Steph อาศัยจังหวะแค่นั้นละครับกระโดดชู้ตเข้าไปเลย หรือไม่บางครั้งที่คู่แข่งเผลอประกบห่าง ซึ่งผมเป็นคู่แข่งก็ไม่ได้คิดว่าห่างเท่าไหร่หรอก เพราะส่วนใหญ่มือปืนสามแต้มนี่จะอาศัยหาพื้นที่แถวๆขอบเส้นเพื่อร่นระยะการยิงให้ใกล้ที่สุด แต่ระยะทำการของ Steph มันดันไกลกว่านั้นครับ คือห่างออกไปอีกสองสามก้าวจากเส้นขอบสามแต้มก็ยังเป็นระยะยิงของพี่แกนะครับ คือเผลอไปประกบห่างคิดว่า Steph จะมาเซ็ตบอลให้เพื่อนนี่ พี่แกกระโดดยิงเข้าเฉยเลยครับ นี่ยังไม่นับช่วงจะหมดเวลาของแต่ละ Quarter อีกนะครับที่ปกติเราจะเห็นนักบาสขว้างๆไปก่อนแล้วไปลุ้นดวงเอา เพราะดีกว่าไม่ได้ชู้ตครับ อันนี้พี่ Steph ของเราก็ดันทำได้บ่อยๆอีกนะครับ คือระยะทำการคุณพี่นี่มันกว้างขนาดไหนกันแน่ครับ
1
พูดไปก็ไม่เห็นภาพครับ ลองดู VDO ประกอบตามลิงค์ด้านล่างดีกว่าครับ
แอบปลื้มพลังการยิงสามแต้มพี่แกไปเยอะครับ ขอเบรคกลับมาประวัติดีกว่าครับ
Stephen Curry ของเรานี่เกิด 14 มีนาคม 1988 ครับ ปัจจุบันอายุ 30 ปี ตรงกับหมายเลขเสื้อพอดีครับ บางคนก็ดูจากหมายเลยเสื้อแล้วเอาชื่อกับนามสกุลมาย่อเป็น SC30 นะครับ ชื่อเล่นที่เราจะได้ยิงนักพากษ์พูดบ่อยๆก็ตามที่ผมเขียนข้างต้นคือ Steph ครับ คล้องกับเสียง Step ที่แปลว่าการก้าวพอดี ซึ่งมีท่าหนึ่งที่ Steph ใช้บ่อยคือหลอกจะเลี้ยงขึ้นหน้า แล้วถอยเท้ากลับมาให้เลยเส้นสามแต้มแล้วชู้ตครับ
โดยตอน Steph ของเราเกิดนี่คุณพ่อ Dell Curry ซึ่งเป็นนักบาส NBA เก่าทีม Cleveland Cavaliers ทีมของ Lebron James นั่นละครับ ก็เปลี่ยนไปเล่นให้ Charlotte Hornets แทนในฤดูกาลถัดไปและต้องย้ายบ้านไปพร้อมกับครอบครัว ดวงไม่ถูกกับ Cavaliers ตั้งแต่เกิดครับ
จริงๆ Steph ของเราก็ได้สายเลือดนักบาสมาตั้งแต่เด็กนะครับ สมัยเด็กประมาณชั้นมัธยมเคยสร้างฤดูกาลไร้พ่ายให้ทีม Queensway Christian College มาแล้ว แต่ดันเจอปัญหาเดียวกับ Messi (คนเดียวกันกับนักบอลขั้นเทพที่อยู่บาร์ซ่าครับ) คือขนาดตัวไม่ได้ ผมว่าวงการกีฬาสมัยที่จะเริ่มเทิร์นโปรนี่ ดูรูปร่างเป็นสำคัญนะครับ คือให้ความได้เปรียบของขนาดและพลังมาก่อนเทคนิค น่าจะเชื่อว่าเทคนิคมันสร้างภายหลังได้ แต่ขนาดรูปร่างมันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยากครับ ปัญหานี้ก็เลยทำให้ Steph ของเราไม่ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยดังๆใน NCAA เลย (เจ้า NCAA นี่มันลีกก่อนเทิร์นโปร NBA นะครับ คือใครเล่นดีนี่โอกาสได้ Draft ตัวสูงมากๆครับ)
กับทีมสมัยมัธยมครับ แอบตัวเล็กเหมือนกันครับตอนนั้น
เมื่อโอกาสไม่มา Steph ของเราก็เลยต้องหันหน้าเข้าสู่รั้ว Davidson College ซึ่งยื่นโอกาสมาให้ครับ โดยที่นี่ไม่ได้มีชื่อเรื่องบาสซักเท่าไหร่ แต่อย่างว่าครับโอกาสไม่มา ก็สร้างเองซะเลย โดย Steph ทำแต้มเฉลี่ยสูงเกิน 20 คะแนนตลอดที่อยู่ที่นั่น (21.5 แต้ม 2006-2007, 25.9 แต้ม 2007-2008, 28.6 แต้ม 2008-2009) และฟอร์มอันบรรเจิดด้วยการทำแต้มที่สูงลิ่วตอนอยู่ปีสามก็สามารถพาทีมเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศระดับประเทศได้ จากมหาวิทยาลัยที่ไม่มีชื่อทางด้านนี้ด้วยซ้ำ
กรุยทางเองที่ Davidson College และเสื้อเป็นเบอร์นำโชคเดียวกับตอนนี้ครับ
นั่นทำให้ทีมจาก NBA ต้องมา Draft ตัว Steph ไปในรอบแรก โดยเป็นผู้เล่นคนที่เจ็ดที่ถูก Draft ในปีนั้น และทีมที่มา Draft ได้ Steph ของเราไปก็มีชื่อว่า Golden State Warriors ทีมที่ Steph ยังเล่นให้อยู่ถึงทุกวันนี้
จากนั้น NBA ฤดูกาล 2009-2010 เป็นปีที่ Steph ได้เข้าสู่ชีวิตการเทิร์นโปรจริงๆตามความฝัน และยังนับเป็นการออกสตาร์ตที่สวยหรูสำหรับรุกกี้อีกด้วย โดยจบฤดูกาล Steph ได้รับการเลือกให้เป็นรุกกี้อันดับสอง (runner-up for the NBA Rookie of the Year Award) และยังได้ติดทีม NBA All-Rookie First Team อีกด้วย โดยปีนั้นทำค่าเฉลี่ยไป แต้ม 17.5 จ่าย 5.9 รีบาวด์ 4.5 แถมด้วยทำลูกสามแต้มไปอีก 166 ลูก มากที่สุดในประวัติศาสตร์รุกกี้ของ NBA อีกต่างหาก
แต่พอถึงฤดูกาล 2011-2012 Steph ก็ต้องพบกับความโชคร้าย โดยเค้าได้รับบาดเจ็บที่เข่าขวาและต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งนั่นเป็นปีที่แต้มค่าเฉลี่ยตกต่ำที่สุดในชีวิตการเล่นที่ 14.7 แต้ม
แต่หลังจากเจ็บพอถึงฤดูกาล 2012-2013 ก็นับว่ามีข่าวน่ายินดีมาทดแทน โดยทางทีม Warriors ได้ต่อสัญญาสี่ปีมูลค่า 44 ล้านเหรียญให้กับ Steph ซึ่งนักวิจารณ์ตอนนั้นก็ได้วิจารณ์ถึงความเสี่ยงของสัญญาฉบับดังกล่าวเนื่องจากอาการบาดเจ็บของเค้า นอกจากนั้นทางทีม Warriors ก็ยังหาคู่หูคือ Klay Thompson มาช่วย Steph ของเราทำแต้มอีกด้วย ซึ่งในภายหลังทั้งสองได้ถูกตั้งฉายาว่า Splash Brothers อันเนื่องจากความสามารถในการยิงสามแต้มที่เฉียบคมของทั้งคู่ โดยทั้งสองช่วยกันยิงสามแต้มไปถึง 484 ลูกในฤดูกาลเดียวและทำลายสถิติ NBA ลง พร้อมกับกลบเสียงนักวิจารณ์ด้วยการทำดีกว่าพูดด้วยค่าเฉลี่ยแต้มที่ 22.9 ซึ่งในภายหลัง ค่าเฉลี่ยของ Steph ก็มากกว่า 20 ตลอดมา ซึ่งคงไม่ต้องคิดแล้วว่าสัญญาฉบับนั้นคุ้มหรือไม่
คุ้มไหมครับ
3 แต้มของ Splash Brothers นี่แม่นจนต้องมาแข่งกันเองตาม VDO ในลิงค์ครับ เป็นทีมคู่ต่อสู้นี่เซ็งแน่นอนครับ
บทความนี้ขออนุญาตจบที่ตอน Steph ของเราได้ต่อสัญญารอบที่หนึ่งก่อนนะครับ
แล้วบทความหน้ามาเจอกับจุดเปลี่ยนที่สำคัญของทีม Warriors กับการเปลี่ยนโคช ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับตำนานคนหนึ่งในวงการ NBA
แล้วมาดูกันครับว่า Steph ของเราจะปรับตัวได้หรือไม่ แล้วพบกันใหม่ครับ
โฆษณา