เปิดประวัติ Stephen Curry สุดยอดมือสามแต้ม ตำนานที่ยังมีลมหายใจ Ch.2
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เราจะมาต่อบทความกันจากตอนที่แล้ว ที่ทาง Steph ได้ต่อสัญญาสี่ปี มูลค่า 44 ล้านเหรียญออกไป และได้คู่หูอย่าง Klay Thompson มาช่วยกันยิง จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปครับ
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ฤดูกาล 2014-2015 ที่สำคัญของ Warriors โดยได้ทำการเปลี่ยนโค้ชจาก Mark Jackson ที่ทำทีมแพ้แก่ LA Clippers ใน Pay off รอบแรก และโค้ชคนใหม่ก็ตกเป็นของ Steve Kerr คนที่เป็นมือปืนสามแต้มสมัย Chicago Bull ของ Michael Jordan นั่นละครับ
ยอดมือสามแต้มจะมาเป็นยอดโค้ชให้ Steph ของเราแล้ว
ซึ่งนอกจากจะเป็นอดีตผู้เล่นแล้ว Kerr ยังครองความแม่นในแง่ของ % การชู้ตสามแต้มมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตลอดการเล่นอาชีพด้วยค่าเฉลี่ยถึง 45.4% อีกด้วย
เอาละครับยอดอดีตมือสามแต้ม มาเป็นกุนซือให้ผู้เล่นที่ยิงสามแต้มแม่นที่สุดแห่งยุค ซึ่งในตอนแรกนั้นนักวิจารณ์ก็ไม่ได้มีความเชื่อมั่นซักเท่าไหร่เพราะเป็นการทำงานครั้งแรกในฐานะโค้ชของเค้า
แต่ก่อนหน้านั้น Kerr เคยชิมลางฝ่ายบริหารมาก่อนในฐานะ President of basketball operations ควบ General manager ที่ Phoenix Suns ในช่วงปี 2007-2010 ซึ่ง Kerr ก็ได้ช่วย Robert Sarver ผู้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Southwest Value Partners ในการเข้าซื้อทีม Phoenix Suns สำเร็จ และได้ลาออกมาเป็นผู้บรรยายเกมส์อยู่ช่อง TNT จนกระทั่งได้รับการติดต่อมาเป็นโค้ชให้ Warriors
หลังจาก Kerr ได้รับการแต่งตั้งก็กลบเสียงนักวิจารณ์ได้ ด้วยผลงานสุดอลังการ ชนิดพลิกฟื้น Warriors เลยทีเดียว สถิติของทีมชนะไปถึง 67 เกมส์มากที่สุดของ NBA ในปีนั้น
และส่งผลให้ Kerr สร้างสถิติการเป็นโค้ชรุกกี้ที่ทำทีมชนะมากที่สุดอีกด้วย นอกจากด้านผลงานของทีมจะดีขึ้นตัว Steph ก็ยิ่งเล่นดีขึ้นไปอีก โดยแต้มค่าเฉลี่ยเพิ่มเป็น 23.8 แต้ม พร้อมกับได้เป็น MVP ในฤดูกาล และได้เข้าชิงแหวนแชมป์ NBA กับ Cleveland Cavaliers
เกมส์ที่ 1 Warriors แม้จะเล่นในบ้านแต่ก็ต้องเจอฟอร์มอันร้อนแรงของ Lebron James ที่กดไป 44 แต้ม และต้องไปเอาตัวรอดในช่วงต่อเวลา และชนะไปได้ด้วยสกอร์ 100-108 (OT) โดย Steph ของเรากดไป 26 แต้ม 8 แอสซิส
เกมส์ที่ 2 Lebron James ระเบิดซูเปอร์ฟอร์มยิ่งกว่าเกมส์แรก อัด Triple Double ไป 39 แต้ม 11 แอสซิส 16 รีบาวด์ ส่งผลให้ Cavaliers ตีเสมอซีรี่กลับเป็น 1 ต่อ 1 เกมส์ แถมเป็นการขโมยเกมส์ในบ้าน Warriors อีกต่างหาก
เกมส์ที่ 3 Warriors งานเข้าต่อเนื่อง James ยิงแตะเลขสี่ ที่ 40 แต้มอีกแล้ว พา Caveliers คว้าชัย ซึ่ง Steph ของเราทำไป 27 แต้ม 6 แอสซิส แต่นั่นก็ไม่มากพอให้ทีมชนะ
ทำให้ Cavaliers ออกนำซีรี่เป็นหนแรกที่ 2:1
เกมส์ที่ 4 Warriors โชว์สปิริตขโมยเกมส์กลับในบ้าน Cavaliers โดย Steph ทำไป 22 แต้ม 7 แอสซิส พาทีมตีเสมอซีรี่ที่ 2:2 ทันที
เกสม์ที่ 5 Lebron James ระเบิดซูเปอร์ฟอร์มอีกครั้งทำ Triple Double ในรอบชิงครั้งที่สองของซีรี่ทำไป 40 แต้ม 11 แอสซิส 14 รีบาวด์ แต่นั่นกลับไม่ช่วยให้ Cavaliers คว้าชัย เพราะ Steph ของเราก็ไม่น้อยหน้ากดไป 37 แต้ม และพาทีมชนะไปที่คะแนน 91-104 พร้อมขึ้นนำซีรี่ 3:2 จ่อคว้าแชมป์ โดยนัดหน้าจะออกไปเยือนบ้าน Cavaliers ถ้าคว้าชัยนั่นหมายถึงแชมป์แรกในรอบ 40 ปี
เกมส์ที่ 6 เป็นไปตามความคาดหมาย แม้ James จะเกือบทำ Triple Double อีกหน แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน Warriors ได้ โดย Steph ชู้ตไป 25 แต้ม ชนะไปด้วยคะแนน 105-97 เป็นอันปิดฉากฤดูกาล โดยเป็นแชมป์ครั้งแรกของ Steph ในฐานะผู้เล่น Kerr ในฐานะโค้ช และของทีม Warriors ในรอบ 40 ปี ตามพล็อตที่วางไว้ทุกประการ ซึ่งทุกอย่างในตอนนั้นดูสวยหรูไปหมด
แชมป์นี้ที่รอคอยมานาน
เข้าสู่ฤดูกาล 2015-2016 ทั้งฟอร์มทั้งความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม เปิดฤดูกาลมาในเดือนตุลาคม 2015 Steph ระเบิดฟอร์มทันทีด้วยสกอร์ 40 แต้ม แถมยังเป็น 24 แต้มใน Quarter 1 สร้างสถิติใหม่ของตัวเองกับการยิงมากที่สุดในชีวิตการเล่น Quarter 1
เท่านั้นยังไม่พอเกมส์แรกว่ายิงเยอะ แล้วเกมส์ที่สามเยอะยิ่งกว่า ยิงไปอีก 53 แต้ม รวมสามเกมส์ทำไป 118 แต้ม สูงที่สุดในสามเกมส์เปิดฤดูกาลเทียบเท่า Michael Jordan ทำได้ในฤดูกาล 1998-1990
ย่างเข้าเดือนมกราคม 2016 Steph ทำ Triple Double เป็นหนที่สองในฤดูกาลด้วย 39 แต้ม 12 แอสซิส และ 10 รีบาวด์ ในเกมส์กับ Indiana Pacers
พอถึงกุมภาพันธ์ กลับมาทำแต้มเกิน 50 อีกครั้ง โดยทำไป 51 แต้ม และเป็นสามแต้ม 10 ลูก เอาชนะ Orlando Magic ซึ่งนับเป็นครั้งที่สามในฤดูกาลแล้ว เทียบชั้นผู้เล่นชั้นยอดอย่าง Lebron James ที่ทำคะแนนมากขนาดนี้ได้ในฤดูกาล 2008-2009
เข้าเดือนเมษายน ด้วย 27 แต้มของ Steph ทำให้ผ่าน San Antonio Spurs ไปได้ คว้าชัยชนะนัดที่ 70 ซึ่งเป็นทีมที่สองใน NBA ที่ทำได้ และท้ายที่สุดปิดฤดูกาลไปที่ชัยชนะ 73 ครั้งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA ผ่านยอดทีมในตำนานอย่าง Chicago Bulls ที่เก็บชัยชนะ 72 ครั้งในฤดูกาล 1995-1996
ส่วนตัวของ Steph ก็คว้า MVP ไปตามระเบียบ นับเป็นคนที่สองในฐานะผู้เล่นตำแหน่งการ์ดที่คว้า MVP สองปีติด เมื่อเข้ายุค 2000 ต่อจาก Steve Nash (2004-2005, 2005-2006) ของ Phoenix Suns
เข้าสู่รอบ Play off เกือบดวงแตก เพียงรอบแรกจากการเจอกันเองของสายตะวันตกกับ Houston Rockets พี่ Steph ของเราก็ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ได้ซะแล้ว แต่ยังดีที่ทีมประคองตัวผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ส่อเค้าลางไม่ดีมาแต่ไกล
เข้าสู่ Play off รอบที่สอง Steph ออกสตาร์ตจากการเป็นสำรองในเกมส์ที่สี่เจอกับ Portland Trail Blazers และโชว์พลังทำแต้มทันที โดยเก็บไปถึง 40 แต้ม ชนะในการต่อเวลา และ 17 แต้มที่ทำได้ในตอนต่อเวลานั้นนับว่าเป็นการสร้างสถิติของการทำคะแนนรอบต่อเวลาเลยทีเดียว เรียกว่าเจ็บไปแทบไม่มีผลต่อฟอร์ม
ในรอบชิงสายตะวันตกเจอกับ Oklahoma City Thunder โดนตบไปก่อน 3-1 เกมส์ และด้วยพลังของ Steph และทีมงานสามารถพลิกกลับมาชนะได้ 4-3 เป็นการเข้าชิงแหวนแชมป์ครั้งที่สอง พร้อมความหวังของคนทั้งเมือง
แต่อะไรที่ว่าดี มันดันดีไม่สุด จะว่าอาถรรพ์มีจริงก็เป็นไปได้ ทั้งจากการที่ Steph ต้องย้ายบ้านหนี Cleveland Cavaliers ตั้งแต่ยังเด็ก หรืออาการบาดเจ็บที่เริ่มตั้งแต่รอบแรก โดยที่ยื้อกันถึงเกมส์เจ็ด และ Warriors ก็ได้กลับมาเล่นในบ้านตัวเอง เนื่องจากสถิติในฤดูกาลปกติที่ดีกว่า (Warriors WIN 73, Cavaliers WIN 57) แต่ในเกมส์นั้นกลับต้องเจอ Lebron James ระเบิดฟอร์มร่วมกับ Kyrie Irving เอาชนะไปในที่สุด ส่งผลให้ Warriors เป็นทีมแรกที่แพ้ในรอบชิง จากการขึ้นนำไปก่อน 3-1 เกมส์
(๋James ได้เป็น MVP รอบชิงตามระเบียบครับ)
โฉมหน้า MVP, LBJ
ลองไปดูความเขี้ยวของ James เกมส์สุดท้ายกันใน VDO ครับ
บทความนี้ขออนุญาตจบที่ตอน Steph ของเราต้องพบกับอุปสรรคในชีวิต หลังจากอุตส่าห์มีฤดูกาลอันสุดแสนเพอร์เฟคแต่กลับต้องมาเจอ Lebron James หักอกไปในวินาทีสุดท้าย
แล้วมาดูกันครับว่า Steph ของเราจะก้าวผ่านฝันร้าย และกลับมาได้ใหม่หรือไม่ในฤดูกาลถัดไป
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
