18 ม.ค. 2019 เวลา 17:47 • ประวัติศาสตร์
สัญลักษณ์ดาวอังคาร พฤหัส เสาร์ทางโหราศาสตร์สากล
อังคาร ซ้ายมือ
สัญลักษ์
วงกลม+ลูกศร
= ร่างกาย + พลังงาน
= การกระทำที่ไร้ความผิดชอบชั่วดี
คือไม่มีการตัดสินใจกำกับ คือพรวดพราดตามสัญชาตญาณนั่นเอง ตรงกับ Id ของจิตวิเคราะห์
พฤหัส ตรงกลาง
ที่สัญลักษณ์คล้ายเลข 4 ที่จริงคือส่วนโค้ง (จิตใจ) ที่วางอยู่เหนือกากบาท(วิญญาณ) คือพฤหัส หมายถึงความคิด/อารมณ์มีอำนาจเหนือการตัดสินใจ เทียบเท่า Ego ทางจิตวิเคราะห์
เสาร์ ขวามือ
ที่คล้ายเลข 5 หรือ h มันคือส่วนโค้ง(จิตใจ)ที่อยู่ใต้กากบาท(วิญญาณ) คือเสาร์หมายถึงการตัดสินใจ มีอำนาจเหนือความคิด/อารมณ์ หรือ Super Ego ทางจิตวิเคราะห์
บางท่านอาจอ่านแล้วงง เพราะไทยไม่มีคำศัพท์ที่มีความหมายตรงกับคำศัพท์ละตินในยุคกลาง สำหรับคำที่มีความหมายเชิงนามธรรมผูกกับคริสตศาสนา
สัญลักษณ์ส่วนโค้งมีที่มาจากพระจันทร์
หมายถึง ความคิด (ทั้งใช้เหตุผลและไม่ใช้เหตุผล) + อารมณ์ (ทั้งตื่นและฝัน) ปัจจุบันรวมเรียกกันว่าการทำงานของมันสมองตามประสาทวิทยา
สัญลักษณ์วงกลมมีที่มาจากพระอาทิตย์หมายถึงร่างกาย ปัจจุบันหมายรวมถึงระบบการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ไม่ได้ถูกสั่งการจากระบบสมอง บางคนแปลไทยใช้คำเรียกว่าสัญชาตญาณ ซึ่งคำนี้มักให้ความหมายไม่ตรงกัน ตั้งแต่สัญชาตญาณดิบของสัตว์ (ตอบสนองเชิงรูปธรรม) และของคน (ตอบสนิงเชืงนามธรรม)
สัญลักษณ์กากบาท แปลให้ถูกตามความหมายภาษาไทยที่เข้าใจง่ายควรแปลว่าการตัดสินใจ แต่จะตัดสินใจบนความรู้สึกผิดบาป(Sin) หรือจิตอิสระ(freewill) เป็นเรื่องของยุคสมัย
คำนี้มีที่มาจากวิญญาณ ตามคัมภีร์ไบเบิ้ลของคริสตศาสนาที่เชื่อว่ามนุษย์มีองค์ประกอบ 3 ส่วนคือ กาย จิต วิญญาณ ส่วนที่ตีความยากที่สุด คือวิญญาณ เพราะแต่เริ่มแรกพวกคริสต์ไม่เชื่อว่ามนุษย์มีวิญญาณไปเกิดมาเกิด ทุกคนเกิดหนเดียวตายหนเดียว เกิดอีกครั้งจะกลายเป็นอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อรอการพิพากษาในวันสุดท้ายของโลก
พอมาในยุคกลาง ศาสนจักรเริ่มมีอำนาจ ต้องการคุมคน เลยขยายความรวมถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในใจ ในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยี มนุษย์ต้องพึ่งพาธรรมชาติ หนาวจัด ร้อนจัด น้ำแล้ง โรคภัย เป็นสิ่งที่ต้องประสบแทบทุกปี มนุษย์มีความรู้สึกทุกข์มากกว่าสุข รู้สึกผิดบาปขึ้นในใจ ต้องการการไถ่บาป จึงเป็นยุคที่ความเป็นดาวเสาร์มีอิทธิพลมาก การตัดสินใจของมนุษย์ยุคนั้นเกิดจากการรู้สึกผิดบาปนำ ไม่ได้แสดงออกอย่างเป็นอิสระถึงอารมณ์และความคิด เพราะกลัวเป็นเครื่องมือของซาตาน ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยการกระทำตามกฏระเบียบที่สังคมชุมชนกำหนดไว้ตามแต่ละขั้นและฐานะทางสังคม
ต่อมาเมื่อมนุษย์รู้จักพึ่งพาเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น มีการเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ ระบบชลประทาน สาธารณูปโภค ที่ดีขึ้น คนเริ่มกินอิ่ม มีเวลาคิด เกิดแรงงานอิสระ ช่าง บรรดานักอะไรต่ออะไร เริ่มมีความคิดสร้างสรรค์ คิดถึงอิสรภาพ เป็นยุคที่ความเป็นดาวพฤหัสมีอิทธิพลมาก อารมณ์มนุษย์เป็นสุขกว่าแต่ก่อน สงบระงับมากขึ้น น้อยคนรู้สึกว่าตัวเองดำเนินชีวิตด้วยความรู้สึกผิดบาป เริ่มเชื่อตัวเอง เริ่มสงสัยในพระเจ้าและกฏระเบียบที่เก่าแก่คร่ำครึ ศาสนาจักรเริ่มเสื่อมอิทธิพล เริ่มยอมรับความหมายวิญญาณ ว่าคือจิตอิสระของมนุษย์ที่เลือกจะตัดสินใจอย่างไรก็ได้ (freewill) ไม่ได้เกิดจากการดลใจของพระเจ้าหรือการครอบงำล่อลวงจากซาตานแต่อย่างไร
การตีความทางโหราศาสตร์ของดาว 3 ดวงผ่านยุคสมัยต่างๆ โดยเฉพาะผ่านนักโหราศาสตร์ที่มีมโนทัศน์พื้นฐานแตกต่างกัน (อิทธิพลเสาร์เด่น -อิทธิพลพฤหัสเด่น) ทำให้เกิดการแปลความหมายแตกต่างกัน จนโหราศาสตร์ถูกแยกเป็นสองสายหลักโดยสุดขั้ว
คือพวกที่เน้นพยากรณ์เหตุการณ์ (Event prediction) ที่เชื่อว่าโลกมีกฎระเบียบแน่นอนตายตัว เราสามารถรู้ได้ว่าเหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นกับมนุษย์ในอนาคต
กับอีกพวกที่เน้นพยากรณ์แนวโน้มของมนุษย์ตามศักยภาพที่มีอยู่ (Potential of human being) คือไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการใดๆแน่ขึ้นกับมนุษย์แต่เชื่อว่ามนุษย์แต่ละคนมีศักยภาพที่รอการพัฒนาอยู่ขึ้นอยู่กับทางเลือกที่มีอยู่ในดวงชะตา และการตัดสินใจจากจิตอิสระที่จะเลือกและพัฒนาศักยภาพที่เลือกนั้นขึ้นมา
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา