14 ก.ย. 2019 เวลา 16:59 • ประวัติศาสตร์
รำลึกถึงงานวันโหรจรัญ 10 ปีก่อน
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเคยมีโอกาสได้เข้าร่วมงานเมื่อ 10 ปีก่อน จึงขอนำบทสรุปบรรยากาศและเนื้อหาโดยย่อเพื่อเป็นการรำลึกถึงงานรวมถึงผู้เกี่ยวข้อง เผื่อได้เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาโหราศาสตร์ ไม่มากก็น้อย โปรดอ่าน
โหราทาส
14 กันยายน 2562
สรุปบรรยากาศและเนื้อหางานวันโหรจรัญครั้งที่ 5 ประจำปี 2552 “เศรษฐกิจและโรคภัยไทย 2553”
วันที่ 13 กันยายน 2552
ผ่านไปอีกครั้งสำหรับงานวันโหรจรัญครั้งที่ 5 ที่จริงอาจารย์ทรงยศบอกว่าเป็นครั้งที่ 6 แต่ปกรายงานครั้งที่ 5 ดันพิมพ์ผิดเป็นครั้งที่ 4 ก็เลยเลยตามเลย งานครั้งนี้เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระแน่นมากๆ ด้วยวิทยากรด้านโหราศาสตร์ระดับครูหลายท่าน
ก่อนงานได้มีการลงทะเบียนก่อนเข้างาน ช่วงนี้เป็นช่วงที่นักโหราศาสตร์ด้วยกัน ได้มาทักทายกันหลังจากที่ 1 ปีกลับมาเจอกันครั้งหนึ่ง ชมดูหนังสือของค่ายต่างๆ ร้านหนังสือที่มาวางจำหน่ายได้แก่หนังสือของอาจารย์ประยูร พลอารีย์ นำโดยอาจารย์ปานใจ พลอารีย์ สำนักพิมพ์รัศมีจันทร์ ร้านนี้มีสาธิตโปรแกรมพร้อมกับดูดวงในตัวประกอบการสาธิตจุดเด่นของโปรแกรม และร้านของอาจารย์กิตตินันท์ เจนาคม ซึ่งมีหนังสือหลากหลาย หลายสาขาวิชา น่าสนใจ ต่อมาโหราศาสตร์โยคะซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์จรัญ พิกุลอีกท่านหนึ่ง ได้นำหนังสือฤกษ์สำเร็จรูป ใช้ง่ายไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้โหราศาสตร์ ก็ใช้เป็น มาแจกสำหรับท่านที่มาร่วมสัมมนา
ในกิจกรรมเสริมของการสัมมนาช่วงบ่ายทางskyclock ได้มีกิจกรรมเสริมโดยเปิดห้องพยากรณ์ในช่วงบ่าย เรียนเชิญนักโหราศาสตร์กิตติมศักดิ์ ซึ่งปกติไม่ได้รับดูดวงทั่วไป แต่ละท่านฝีมือระดับที่ลูกศิษย์ลูกหาใหญ่ๆโตๆ พึ่งพาเป็นร่มโพธิ์ไม่ให้ออกไปทำนายที่อื่น มีแต่จ่ายค่าเครื่องไปกลับพร้อมกับซองปัจจัย บางท่านไปเพื่อช่วยวิเคราะห์ในการทำมาหากินของลูกศิษย์ให้คล่องให้รวยยิ่งๆขึ้น ซึ่งในการดูหมอ(ตามศัพท์โหร)ครั้งนี้ เงินทั้งหมดเข้าชมรมskyclockเพื่อเป็นทุนในการจัดงาน ลูกค้าที่มาดูส่วนมากเป็นนักโหราศาสตร์ของแต่ละค่าย บางท่านมาดูเทคนิคการทำนายของskyclockว่าเป็นอย่างไร มีเทคนิคอะไรบ้าง อัดเทปเก็บไว้ฟังด้วย บางท่าน1คนแต่ขอจองนักโหราศาสตร์3 ท่านก็มี 3 ท่าน3เทคนิค คุ้มค่า
ดูหมอไปซักด้วยว่าดูอย่างไร คำพูดนี้มาจากดาวตัวไหน คุ้มค่าดูได้บำรุงชมรม ได้ดูดวง ได้วิชาติดกลับบ้านไปด้วย
รายนามนักโหราศาสตร์ที่มานั่งทำนายทายทักดังนี้
1.อาจารย์วรเชรษฐ ติยเกษม ลูกศิษย์อ.จรัญ พิกุลสายเชียงใหม่
2.อาจารย์ภารต ถิ่นคำ webmaster Astroclassical.com
3.อาจารย์หนุ่ม webmaster payakorn.com
4.อาจารย์ทรงยศ รัศมีพงศ์ ชมรมskyclock
5.อาจารย์กรองกาญจน์(Krongkarn Dhananaiyapergse)แห่งระเบียนโหรโรงแรมเอเชีย สมาชิกชมรมskyclock
เริ่มต้นงาน ดร.จรัสโรจน์ ทายาทอาจารย์จรัญ พิกุล กล่าวเปิดงานพร้อมกับให้เกียรติเป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์ ในช่วงรำลึกถึงอาจารย์จรัญ พิกุล
· อาจารย์ภารต ถิ่นคำ เริ่มต้นเปิดงานอาจารย์ภารตได้เล่าถึงประสบการณ์เรียนโหราศาสตร์ของตน จนกระทั่งมารู้จักอาจารย์จรัญสมัยทำยูเรเนียนสัมพันธ์ ราวปี 2524-2528 และเป็นลูกศิษย์ทางโทรศัพท์ ประทับใจที่อาจารย์จรัญมีผลงานต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่อาจารย์ภารตเป็นเด็กจนกระทั่งโต โดยเฉพาะได้นำเรื่องวงรอบตามแนวทางของอาจารย์จรัญไปใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างมาก
· อาจารย์รุจ ดุลยากร นำเสนอเรื่องโหราโยคะออกกำลังการเพื่อสุขภาพ อาจารย์เกริ่นตอนต้นว่าได้เทคนิคและวิธีการของอาจารย์จรัญไปประยุกต์ใช้กับโยคะในหลายเรื่องทั้งเรื่องวงรอบ ฟ้าเปิด-ฟ้าปิด จันทร์ทำมุม-ไร้มุม วันสำคัญ-อาทิตย์เข้ามุมสำคัญ เป็นต้น เสร็จแล้วก็นำออกกำลังกายด้วยท่าโยคะสมาธิ โดยเริ่มจากไหว้ครูด้วยบทสวดชุมนุมเทวดา ตามด้วยการเป่าสังข์ จากนั้นก็เริ่มแนะนำท่าโยคะออกกำลังกายให้คนในห้องทำตาม นับได้ 9 ท่าพอดี ดูเหมือนจะมีชื่อตามดาวนพเคราะห์ ปิดท้ายด้วยให้คนในห้องยืนสงบนิ่งกำหนดหายใจเข้าออกเพื่อแผ่เมตตาต่อตัวเองและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
1
· อาจารย์อารี สวัสดี ขึ้นมาบรรยายในหัวข้อ ปัจจัยทางดาราศาสตร์นำไปต่อยอดทางโหราศาสตร์ เริ่มจากการแนะนำหนังสือดาราศาสตร์และโหราศาสตร์โบราณ ทั้ง Tetrabiblos และ Almagest ของปโตเลมี ที่น่าสนใจมากคือ Recent Advance in Natal Astrology เป็นผลงานวิจัยเชิงลึกของเทคนิคทางโหราศาสตร์ที่ใช้กันอยู่ในอดีตถึงปัจจุบันโดยนักโหราศาสตร์ มีนาย Geoffrey Dean เป็นผู้รวบรวมแก้ไข ไม่รู้ว่าผู้สนใจจะไปหาได้อีกหรือเปล่าเพราะอาจารย์บอกว่าเก็บไว้ร่วม 10 ปี ที่บ้านจนเห็นปลวกขึ้นที่เก็บเป็นทางก็เลยเจอเล่มนี้ แล้วก็เข้าเรื่องซึ่งส่วนใหญ่เป็นการบรรยายเกี่ยวกับสุริยคราสที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2552 ที่นักดาราศาสตร์บอกว่านานที่สุดในศตวรรษที่ 21 แล้วก็ต่อยอดไปถึงสุริยุปราคาในอดีตที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 20 มิ.ย. 2498 ว่าเป็นครั้งที่นานที่สุดในศตวรรษที่ 20 และก็มีความสัมพันธ์กับครั้งล่าสุดคืออยู่ในวงรอบ Saros ที่ 136 เช่นเดียวกัน โดย 1 วงรอบ Saros จะใช้เวลา 1300-1500 ปี (ที่สุริยุปราคาจะเกิดตรงตำแหน่งเดิม) ก็ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเช่นก่อนเกิดสุริยคราส จะเกิดจันทรคราสก่อนและหลังประมาณ 1 สัปดาห์แต่เป็นจันทรคราสแบบเงามัว แต่นักโหราศาตร์ไม่ค่อยเอามาทำนายทายทักเพราะนักดาราศาสตร์ไม่ได้ประกาศออกไป และปรากฏการณ์อุปราคานี้ทางนักดาราศาตร์ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่นักโหราศาสตร์บางท่านชอบเอามาทำนายทายทักเป็นเรื่องร้าย อาจารย์กล่าวสรุปด้วยการยกข้อความตำราพิชัยสงครามของขงเบ้งที่เคยกล่าวไว้ถึงการจัดแบ่งประเภทขุนพลความตอนหนึ่งว่า “ขุนพลผู้ใดมีจิตภราดรภาพ มีเมตตากรุณาเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก มีสัจจะและศีลธรรมเป็นที่ยกย่องนับถือของประเทศเพื่อนบ้าน มีความเจนจบทางด้านดาราศาสตร์และรอบรู้ด้านภูมิศาสตร์ รู้จักใช้คนให้แสดงความสามารถ สร้างภราดรภาพขึ้นในสากลโลก ขุนพลเช่นนี้เรียกว่ายอดขุนพลผู้เกรียงไกรแห่งจักรวาล ซึ่งข้าศึกไม่อาจจะต้านทานได้”
· แพทย์หญิงศันสนีย์ เสนะวงษ์
หลังจากนั้นก็เข้าสู่การสัมนาเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการมาให้ความรู้ และนักโหราศาสตร์มาให้ทัศนะ เปิดการบรรยายโดยพญ.ศันสนีย์ ที่อธิบายชนิดของไข้หวัดใหญ่ที่มีทั้งไข้หวัดตามฤดูกาลและไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่วิตกกันอยู่ว่าเป็นคนละสายพันธุ์กัน อดีตของการเกิดการระบาดครั้งใหญ่ 7 ครั้งตั้งแต่ปีพ.ศ. 2432, 2443, 2461, 2500, 2511, 2552 โดยเฉพาะที่รุนแรงมากเกิดขึ้นในปี 2461 เรียกว่าไข้หวัดสเปนที่คร่าชีวิตคนไปมากในไทยมีคนป่วยกว่า 2.3 ล้านคนเสียชีวิต 8 หมื่นคนขณะที่เวลานั้นไทยมีประชากรเพียง 8.5 ล้านคน ส่วนไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 พบผู้ป่วยรายแรกในเม็กซิโก เดือนมี.ค. ,รายแรกในไทย วันที่ 3 พ.ค. และติดเชื้อภายในประเทศไทยคนแรกแต่เป็นคนที่ 7 ในไทย วันที่ 31 พ.ค. โดยแบ่งระดับความรุนแรงของการระบาดออกเป็น 3 ระยะคือ คนต่อคน, ติดต่อระดับประเทศ และติดต่อระหว่างประเทศ หากจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่พึงตระหนักว่าไม่สามารถป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ได้ แต่ช่วยลดการเกิดการกลายพันธุ์ การกลายพันธุ์สืบเนื่องมาจากหมู เนื่องจากหมูสามารถติดเชื้อได้ง่ายทั้งจากคนและจากสัตว์ปีก หมูจึงเป็นตัวแลกเปลี่ยนพันธุกรรมของเชื้อในคนและเชื้อในสัตว์ปีก การป้องกันควรสวมหน้ากากปิดปากจมูก ล้างมือบ่อยๆ เพราะเวลาไอจาม ฝอยเล็กๆไปไกลถึง 5 เมตรและแขวนลอยในอากาศ หากติดไข้หวัด ใช้ยาลดไข้ได้แต่ต้องเป็นพวกพาราเซตามอล และห้ามเด็ดขาดสำหรับแอสไพริน ควรหยุดงานจนกว่าหายไข้ แต่ถ้า 3-5 วันแล้วไข้ไม่ลด มีอาการไอมากขึ้น เจ็บหน้าอก หายใจเร็วต้องรีบพบแพทย์ การวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการจะใช้น้ำล้างโพรงจมูกได้ผลชัดที่สุด โดยใช้เวลาวินิจฉัย 6 ช.ม.ถึง 3 วัน การเจาะเลือดใช้เพื่อตรวจดูภูมิคุ้มกัน ไม่มีผลต่อการวินิจฉัยโรคแต่อย่างใด วัคซีนป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ปลายปีนี้ สุดท้ายพญ.ศันสนีย์ เน้นย้ำว่าอย่าเพิ่งลืมไข้หวัดนกที่มีความรุนแรงมากกว่า
· นายแพทย์สนธยา พรึงลำภู บรรยายเรื่องปัจจัยทางโหราศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด และคนไข้ที่เป็นโรคระบาดว่ามีปัจจัยทางโหราศาตร์ใดบ้างที่เกี่ยวข้อง โดยแนะนำว่าการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยใดๆควรพิจารณาความสัมพันธ์ทาง Latitude (Declination) ด้วยนอกเหนือไปจากพิจารณาความสัมพันธ์ทาง Longitude ที่ใช้พิจาณาความสัมพันธ์เชิงมุมกันอยู่โดยทั่วไป และจากการพิจารณาดวงสงกรานต์ปี 1918 ที่เกิดไข้หวัดสเปนพบว่า SA กุม NE ในราศีสิงห์ สนิทองศาทั้งทาง Longitude และ Latitude ซึ่งหมายถึงมีทุกข์จากการติดเชื้อ สำหรับปีนี้ แม้มีดาวไม่ดีกุมกันหลายดวง แต่ในเชิง Latitude ยังมีความห่างกันจึงไม่น่าส่งผลแรงเท่า และวิธีพิจาณาว่าโรคระบาดจะเกิดขึ้นที่ไหน โดยให้ดูว่าปัจัย UR, SA, NE พาดผ่านประเทศใด สำหรับปีนี้การกุมกันของ CH, NE และ JP ในราศีกุมภ์ พาดผ่านไทย ขณะที่ศูนย์รังสี CH, NE, JP ก็พาดผ่านประเทศเม็กซิโกแสดงถึงการระบาดในทั้ง 2 ประเทศ สำหรับอนาคตอันใกล้พบว่า SA/NE จะพาดผ่านสหรัฐ และอินเดีย ทำให้ทั้งสองประเทศนี้เสี่ยงต่อการระบาดในครั้งต่อไป นอกจากนี้ช่วงหลายปีนี้ SA จะจตุโกณกับ PL จึงต้องระวังการกลายพันธุ์ และยังพบ SA กุมกับเกตุสากล แสดงถึงจะมีการเจ็บป่วย ส่วนปี 53 ต้องระวังช่วงปลายเดือนก.ค.ที่ MA และ SA ย้ายเข้ามากุมกันในราศีตุลย์และเล็ง UR ในราศีเมษ ซึ่งต่างอยู่อยู่บนจุดตั้งต้นราศีทวาร
 
หลังจากนั้นอาจารย์ก็ยกตัวอย่างผู้ป่วยด้วยไข้หวัด 2009 เนื่องจากไม่ทราบเวลาเกิดจึงใช้ SU ในดวงกำเนิดเป็นหลัก เทียบกับดวงจรสุริยคติ และดวงจรปัจจุบัน ณ วันเกิดการติดเชื้อ พบว่า SUr มักสัมพันธ์กับ NE โดยในดวงตัวอย่างรายแรกมี SUv และ MAt ทำมุม 150 องศากับ NEr และ MAt , รายที่สองมี SUt=NEr, รายที่สามมี SUv=[MA/NE]r (หมายถึงภูมิคุ้มกันอ่อนแอ) เป็นต้น โดยสรุปหากมี SUt หรือ SUv ทำมุมกับ NEr มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื่อโดยเฉพาะเวลามี MAt เข้ามาสัมพันธ์ด้วย
· ดร.วินัย อวยพรประเสริฐ บรรยายในเรื่องปัจจัยทางโหราศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดเช่นเดียวกันโดยเริ่มจากนิยามไข้หวัดใหญ่ว่าคือไข้ขึ้นสูงทำลายปอด จากนั้นก็นำเสนอภาษาสัญลักษณ์ในลีลาของศรีกันย์ (ซึ่งเป็นนามปากกาของท่าน) ได้แก่
 
ความหมายและสัญลักษณ์ที่ใช้
 
ความหมาย สัญลักษณ์ ความหมาย สัญลักษณ์
ไข้หวัด MA, NE, AD ป่วย SA
ใหญ่ VU เฉียบพลัน UR
สายพันธุ์ NO ปอด JU
ใหม่ PL สูง KR
การผสมความหมาย
 
ไข้หวัด MA =NE =AD
ป่วยเฉียบพลันด้วยโรคมีผลต่อประชาชน SA =UR =NE =MO
 
สายพันธุ์ใหม่ NO =UR
 
โรคเฉียบพลัน SA =UR
 
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (MA=ME=AD) =VU =(NO=UR)
 
การฉีดวัคซีน AS =SA =NE
 
ไข้สูง MA =KR
 
โรคติดต่อ (AR =NE =MA), (SA =NE)
 
โรคติดต่อร้ายแรง (AR =HA =NE), (AR =HA =VU)
 
โรคระบาด (SU =HA =AP, SA =NE),
 
(HA =AP =MO, SA =NE =AR),
 
(SA =NE =UR)
 
การติดเชื้อ MA =NE
 
ติดเชื้อจากผู้อื่น MA =NE =AS
ตามด้วยการบรรยายถึงข้อควรพิจารณา ซึ่งได้แก่
 
• การใช้ดวงสุริยคราส [อาจบ่งบอกถึงโรคระบาดได้ดี] จากงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า การเกิดสุริยคราสทำให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าแปรปรวน และสนามแม่เหล็กไฟฟ้าก็มีความสัมพันธ์กับการแพร่กระจายของโรคระบาด
 
• การใช้ดวงอมาวสี ดวงปูรณมี [ไว้เจาะลึกเพื่อดูพัฒนาการของเรื่อง เช่นเริ่มติดเชื้อ กลายพันธุ์ ค้นพบวัคซีน เป็นต้น]
 
• จังหวะที่ SA เล็ง UR ถึง 3 ครั้ง ได้แก่ปลาย 2008, ต้น 2009 และช่วงนี้ [เกิดจากปัจจัยทั้งสองมีการสลับกันเดินถอยหลังในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะหมายถึงเหตุการณ์จะยืดเยื้อยาวนาน]
 
• การพิจาณา Galactic Center เป็นปัจจัยร่วมในการวิเคราะห์เนื่องจากมีพลังมากกว่าอาทิตย์
 
• การพิจาณาวงรอบจุดดับอาทิตย์ (Sunspot Cycle) ประกอบ เพื่อพิจาณาถึงช่วงเวลาที่ให้ผลแรง
1
หลังจากนั้นอาจารย์ได้ยกกรณีศึกษาขึ้นมาพิจารณาโดยเริ่มจากดวงสุริยคราสวันที่ 26 มกราคม 2009 เวลา 14:56 น.กรุงเทพฯ พบโครงสร้างที่สำคัญคือ
 
(1) ดูจุดเริ่มต้น
 
ความสัมพันธ์ ความหมาย
SA เล็ง UR การป่วยเฉียบพลัน
SA = AS กระทบประเทศไทย
UR โคจรไปสู่ VE กำลังย่างกรายสู่มนุษย์
SU กุม JU เกี่ยวกับปอด
T-Sqr ของ SA, UR มี MO เป็นแกน กระทบประชาชน
MO 120 กับ ME มีการแพร่ระบาด
MO 135 กับ JU มีปอดเป็นที่อาศัย
นอกจากนี้ GC เล็ง HA และสัมพันธ์กับ AP [เป็นเรื่องร้ายแรง, วิชามาร]
 
(2) ดูการพัฒนาการ
 
[พิจารณาจาก SA เล็ง UR สนิทองศา ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2009 และ 19 กันยายน 2009]
 
• วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2009 เวลา 18:00น. พบโครงสร้าง T-Square ของ SA, UR, MO และ SA เล็ง UR (ป่วยเฉียบพลัน) สัมพันธ์ MO (กระทบประชาชน) สัมพันธ์ ME (มีการติดต่อแพร่ระบาด) สัมพันธ์ JU (มีปอดเป็นที่อาศัย)
 
• วันที่ 15 กันยายน 2009 เวลา 19:50น. มี SA (ป่วย) กุม UR (เฉียบพลัน) สนิทองศาหมายถึงจะมีการระบาดอีกในระยะเวลาอันใกล้
 
[พิจารณาจากดวงดิถี]
 
• วันที่ 25 เมษายน 2009 เวลา 10:24น. (New Moon) พบโครงสร้าง
 
PL (การขยายพันธุ์) =MA (สัตว์) =VE (คน) หมายถึงมีการกลายพันธุ์
 
• วันที่ 9 พฤษภาคม 2009 เวลา 11:13น. (Full Moon) พบโครงสร้าง รูปว่าวสามเหลี่ยม SU =ZE =VE =MO เริ่มพบการติดเชื้อในคน
 
(3) ดูจุดสิ้นสุด
 
วันที่ 19 กันยายน 2009 เวลา 1:45น. (New Moon) พบโครงสร้าง T-Square ของ A, NE, SA ที่แสดงถึงการค้นพบวัคซีนและจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น นอกจากนี้การพิจาณาวงรอบจุดดับอาทิตย์พบว่ามีความเข้มมากที่สุดในปี 2003 ซึ่งเป็นปีที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนก โรคระบาดในปัจจุบันจึงมีระดับความรุนแรงน้อยกว่า
 
สรุป
คาดว่าภายในปีนี้จะมีการค้นพบวัคซีนป้องกันโรค ทำให้การแพร่ระบาดไม่น่ากลัว
 
หมายเหตุ:
 
1. เนื่องจากเวลาค่อนข้างจำกัดแต่มีประเด็นที่น่าสนใจ ข้อความใน [] จึงเป็นการขยายความของผู้สรุป
 
2. สัญลักษณ์ที่อาจารย์ให้ไว้เช่น A= B= C จะหมายถึงความสัมพันธ์เชิงมุมในรูปแบบไหนก็ได้ ทั้งปัจจัยโดด ศูนย์รังสี จุดอิทธิพล ดังนั้นจะรวมถึง A=B=C, A+B-C, A+B+C, A-B-C, A/B//C และอื่นๆ อย่างไรก็ตามอาจารย์เคยกล่าวว่าหลายครั้งเราพบความสัมพันธ์แรงๆในรูปแบบของปัจจัยโดด ที่ประกอบกันเป็นดาวเข้ารูป (Planetary Pictures) และผู้เรียบเรียงเข้าใจว่าในการบรรยายครั้งนี้อาจารย์จะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ในรูปของปัจจัยโดดเป็นหลัก
 
3. Galactic Center คือจุดศูนย์กลางของจักรวาลทางช้างเผือกที่อาทิตย์เคลื่อนที่หมุนรอบ หรือบางทีเรียกว่าเป็นดวงอาทิตย์ของดวงอาทิตย์ เป็นตำแหน่งศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงที่ดึงดูดดวงดาวในจักรวาลเข้าไว้ด้วยกัน ในจักราศีแบบฤดูกาล จุด GC จะโคจรตามจักราศีในอัตราเร็วปีละ 0.84 ลิบดา หรือ ประมาณ 71 ปีต่อ 1 องศา ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ องศาที่ 27 ราศีธนู
 
4. Sunspot Cycle เกิดจากปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์มีจำนวนผันแปรเป็นวัฏฏจักรที่มีคาบเฉลี่ยประมาณ 11 ปี ทำให้เกิดการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าไม่เท่ากัน และเกิดปรากฏการณ์สลับขั้วสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ซึ่งงานวิจัยในต่างประเทศพบว่ามีผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก
· อาจารย์เกษม ปาละวิสุทธิ์ มาบรรยายในหัวข้อการพยากรณ์ตามแนวทางโหราศาสตร์ยูเรเนียน อาจารย์ออกตัวว่าไม่ค่อยสบายหลัง NEv กุม SUr ทำให้เหงือกอักเสบ ทานยาแก้อักเสบแล้วแพ้ แล้วเผยเคล็ดลับว่าปากกับอวัยเพศในทางโหราศาสตร์เกี่ยวข้องกัน [พฤษภปกครองปาก, พิจิกปกครองอวัยวะเพศ] โชคดีที่ MAt ไม่เกี่ยวข้องทำให้ไม่เป็นอะไรมาก หลังจากนั้นได้เล่าถึงประสบการณ์การทำงานในฐานะนักโหราศาสตร์เริ่มตั้งแต่ออกดูตามหมูบ้าน จนถึงตั้งสำนักพยากรณ์ขึ้นมา 2 ครั้งซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จ อาจารย์ให้ข้อคิดที่สำคัญว่านักพยากรณ์ไม่ควรเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์และสถานที่ติดต่อเพราะทำให้สูญเสียลูกค้า ช่วงที่ตั้งสำนักงานมีอุปสรรคสำคัญคือค่าใช้จ่ายเนื่องจากรายได้ประเมินล่วงหน้าไม่ได้ เพราะความต้องการของลูกค้าเกิดขึ้นตามอารมณ์ อาจเปลี่ยนใจไม่มาดูทั้งที่นัดล่วงหน้าไว้แล้ว เคยพยากรณ์ตามโรงแรมโดยมีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คเป็นเครื่องมือผูกดวง พบว่าเพื่อนนักโหราศาสตร์อีกท่านที่ใช่จานหมุนและเขียนดาวด้วยมือกลับมีลูกค้าให้ความสนใจมากกว่า เลยได้ข้อคิดว่านักโหราศาสตร์ควรมีลักษณะเด่นจนลูกค้าลืมไม่ลง กรณีเป็นหัวหน้าทีมให้คำแนะนำว่าไม่ควรแย่งลูกค้ากับลูกทีม เล่าถึงประสบการณ์พยากรณ์ในห้างครั้งแรกมีการตั้งโต๊ะพยากรณ์อยู่ในร้านขายหนังสือแถวอิมพีเรียลาดพร้าว พบว่ามีลูกค้ามาก และไม่มีปัญหาเรื่องต้นทุนเพราะเจ้าของร้านหนังสือออกค่าใช้จ่าย พอมาเช่าพื้นที่เองเปิดห้องพยากรณ์กลับมีปัญหาเลยต้องกำหนดว่าลูกค้า 3 รายแรกควรเป็นของหัวหน้าทีมเพื่อสนับสนุนค่าเช่า กรณีร่วมงานในสำนักพยากรณ์ควรระวังการสูญเสียลูกค้าประจำ กรณีที่คิวเราไม่แน่นอนเพราะหัวหน้าสำนักมักมักจัดคนอื่นสลับกับเรา เล่าถึงประสบการณ์พยากรณ์ในห้องอาหารที่คุณโอฬาริกเปิดร้านคิวปิโดและพบกับอาจารย์อารีเป็นครั้งแรก ว่าต้องประชันกับคาราโอเกะ ทำให้ต้องใช้เสียงดังและหลังๆติดเรื่องเสียงดังมาด้วย ช่วงท้ายอาจารย์แนะนำวิธีพยากรณ์โดยไม่ต้องออกจากบ้าน ดังนี้ 1) แจกนามบัตร 2) ควรวิเคราะห์เหตุการณ์จรลูกค้าละเอียดระดับเดือน โดยเฉพาะการใช้ดวงอมาวสี และพยากรณ์รายเดือนให้ 1 เดือนแถมไปโดยไม่คิดเงิน หากทำนายถูก ลูกค้ามักกลับมาเอง 3)พยากรณ์พื้นดวงได้ถูกมีผลในการดึงลูกค้ากลับมาใช้บริการภายหลังได้น้อย 4) อย่าทิ้งจุดเด่นของยูเรเนียนที่มีการให้รายละเอียดอย่างมากมาย การพยากรณ์น้อยกว่า 1 ชั่วโมงอาจให้คุณภาพต่ำ จึงต้องยอมรับจุดอ่อนของยูเรเนียนที่ต้องใช้เวลาพยากรณ์นานเมื่อเทียบกับการพยากรณ์แขนงอื่น 3ดวงของยูเรเนียนอาจใช้เวลาเท่ากับ 10 ดวงของการพยากรณ์ประเภทอื่น
 
สุดท้ายอาจารย์ให้คำแนะนำว่ากรณีไม่มีเวลาเกิดแน่นอน การใช้โค้งร่วมกับ JUtและ SAt จะช่วยในการพยากรณ์ได้ แต่ก็ควรบอกลูกค้าถึงโอกาสคลาดเคลื่อน ถ้าลูกค้าไม่ยอมรับก็ควรยอมปล่อยลูกค้าให้กับนักโหราศาสตร์ท่านอื่นๆ
· อาจารย์ภารต ถิ่นคำ มาบรรยายเรื่องโหราศาตร์สมรสตามแนวสากล-ยูเรเนียน ด้วยวิธีการที่เรียกว่าสมพงษ์ดวงชะตา (Synastry) โดยอาศัยแนวทางอาจารย์จรัญ ที่จับคู่ดาวในดวงหญิงและชายเทียบกัน ตามด้วยการส่องรายละเอียดของดาวที่สนใจด้วยยูเรเนียน มีขั้นตอนที่สำคัญคือ (1) ดู SU และ MO ของทั้งสองฝ่ายเปรียบเทียบกันว่ามีมุมสัมพันธ์หรือไม่ ถ้าไม่มีจะไม่สามารถครองคู่กันเลย (2) มุมสัมพันธ์ที่ใช้พิจารณาได้แก่ 0, 15, 22.5, 30, 36, 40, 45, 60, 72, 80, 90, 108, 120, 135 ,140, 150, 160, 180 ยอมให้ระยะวังกระไม่เกิน +/- 1 องศา (3) กรณีสัมพันธ์ด้วยมุมแข็ง คือ 45, 90, 135 ,180 แม้ครองคู่กันก็ต้องอยู่ด้วยความขัดแย้งตลอดเวลา (4) ให้ดู VE และ MA ของทั้งสองฝ่ายเปรียบเทียบกันเพื่อบ่งบอกรสนิยมทางเพศและความพึงพอใจซึ่งกันและกัน มีเคล็ดลับว่าถ้า VE ของฝ่ายหนึ่งสัมพันธ์กับ PL ของอีกฝ่ายมักรักกันและได้เสียกันเร็วมาก (5) แม้ครองคู่กันก็ควรดูวิกฤตของอายุ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อดาวใหญ่จรทำมุมแข็งกับดาวใหญ่เดิม เช่นอายุ 21 (UR), 22 (SA), 28-30 และ 42-45 (SA, JU) เป็นต้น (6) เจาะลึกลักษณะของคู่ครองโดยใช้ศูนย์รังสี เช่น กรณีดูดวงฝ่ายชาย SU/MA บอกลักษณะของสามีว่าเป็นคนแบบไหน, SU/CU บอกลีลาการใช้ชีวิตครอบครัว, MO บอกว่าผู้หญิงที่ฝ่ายชายชอบมีลักษณะเช่นใด, MO/CU บอกว่าผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันมีลักษณะเช่นใด เป็นต้น (7) วิธีแก้ไข ดูจากจุดดึงดูดทางเพศ คือ VE/VU หรือ VE/CU แล้วปรับปรุงจากการแต่งกาย (ลัคนา) โดย VE + CU + AS อยู่ตรงไหน ควรแต่งกายตามนั้น เน้นย้ำว่าให้ใช้ +AS ไม่ใช่ -AS เนื่องจาก AS ที่ใช้ต้องเป็นดาวสะท้อน (สิ่งที่คนอื่นมองเห็น) หากต้องการมีโชค (JU) โดย VE + CU –JU อยู่ตรงไหนให้ทำตามนั้นครอบครัวถึงมีความสุข
· อาจารย์กิตตินันท์ เจนาคม บรรยายเรื่องดวงลูกหนังเริ่มจากให้นิยามธรรมชาติของกีฬาฟุตบอล ผู้ชนะคือผู้ที่ยิงประตูมากกว่า การชนะมีทั้งขาดลอยและไม่ขาดลอย ทีมมีทั้งทีมเป็นรองและทีมเล่นไม่เก่ง ต้องเข้าใจธรรมชาติตรงนี้ก่อน ดวงชะตาที่ใช้วิเคราะห์ประกอบด้วย (1) ดวงเมืองที่เป็นที่ตั้งของทีมนั้น โดยใช้ MC และ AS ท้องถิ่นของแต่ละเมือง ส่วน MC และ AS ท้องถิ่นจร จะใช้กรณีทัวร์นาเมนต์ โดยกำหนดให้จรจากวันแรกของการแข่งขันเท่ากับ 1 วันต่อ 1 องศา (2) ดวงวันเริ่มต้นหรือเปิดฤดูกาลจะใช้กรณี Leaque (3) ดวง ณ วัน/เวลาตอนเริ่มแข่งขัน ใช้กรณีเฉพาะเจาะจง เทคนิคเพิ่มเติม (1) ดวงผู้จัดการทีม ผู้รักษาประตูซึ่งนายอูโด้เคยแนะนำ หรือนักกีฬา แต่ต้องระวังการเปลี่ยนตัวระหว่างการแข่งขันและแปลความหมายผิด เช่น JU สัมพันธ์ดีกับผู้จัดการอาจหมายถึงดีใจกระโดดจนตัวลอยเวลาทีมยิงได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะชนะ ดวงนักกีฬามักบอกเฉพาะความรับผิดชอบและความโดดเด่นในวันนั้น และที่สำคัญเวลาเกิดอาจไม่มีหรือไม่แน่นอน (2) ถ้าดาวเดินช้ายังไม่สนิทองศา ใช้ดาวเร็วดูประกอบได้ แต่ถ้าใช้ดาวเดินเร็ว ศูนย์รังสี จุดอิทธิพล จะต้องสนิทองศากับ MC และ AS ท้องถิ่นช่วงที่กำลังแข่งขัน MOt น่าจะบอกอารมณ์ในช่วง 1องศา หรือ 2 ชั่วโมงได้ดี (3) มุมสัมพันธ์ใดๆ เช่น 7.5 ,22.5 ต้องทดลองดู แล้วเหตุการณ์จริงจะเป็นตัวพิสูจน์ว่าใช้ได้หรือไม่ได้ (4) ดูว่าฤดูกาลนี้ทีมไหนน่าเป็นแชมป์ให้ดูโครงสร้างใหญ่ของท้องฟ้าว่าทำมุมกับ MC และ AS ท้องถิ่นของใคร MC/AS ท้องถิ่น ยังใช้ดูเมืองที่น่าลงทุนได้อีกด้วย (5) อูโด้แนะนำให้ใช้จุดชนะ (winner points) สัมพันธ์ถึง SU ฝ่ายไหนมากกว่ากัน แต่อาจารย์เห็นว่าการใช้จุดแพ้/ชนะยังมีความไม่แน่นอนเพราะการตีความผิด รวมถึงอย่ายึดมั่นกับความหมายตามตำรามากไป จุดชนะที่สำคัญได้แก่ SU+MA-JU, MA/JU, ZE/KR (6) การหาว่าฝ่ายไหนมีโอกาสทำผิดพลาดมากที่สุด บางครั้งง่ายกว่าหาผู้ชนะ (7) โครงสร้างไหนรู้สึกสะดุดใจให้ใช้อันนั้น ให้ทำตัวเป็นผู้จัดการทีม แม้หลายโครงสร้างมีทั้งดีและไม่ดีและจะมีอันเดียวที่ให้ sense ของการแพ้/ชนะ
 
สุดท้ายอาจารย์ฝากเป็นข้อคิดว่า (1) ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคเดียวให้หาหลายๆเทคนิคประกอบกัน ขอให้เทคนิคที่ใช้สามารถตอบได้ว่าภายใน 2 ชั่วโมงของการแข่งขัน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองจนมั่นใจ (2) ระวังความรู้สึกจากปัจจัยภายนอก ทำให้ไม่เชื่อดวง เช่นเห็นทีมที่น่าชนะ(ตามดวง) เล่นห่วยหรือชอบ/ไม่ชอบทีมใดเป็นพิเศษ (3) ใครไม่รู้จักฟุตบอลจะทายให้แม่นยำได้ยาก
· ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ บรรยายเรื่องสภาวะเศรษฐกิจโลกกับสินค้าเกษตรไทยปี 53 อาจารย์พยายามที่จะตอบคำถาม 3 ข้อคือ (1) เศรษฐกิจไทยถึงก้นเหวแล้วยัง (2) ถ้าถึงแล้ว เด้งกลับแล้วยัง เป็นแบบไหน ตัว L หรือตัว V (3) การใช้ดวงดิถีดูชะตาบ้านเมือง ได้แก่ดวง Full Moon, New Moon, First Quarter, Last Quarter โดยเริ่มจากการวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยว่า ปัญหาการตกต่ำของเศรษฐกิจมาจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ทางด้านปัจจัยภายนอก เนื่องจากธนาคารกลางประเทศสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่นดำเนินนโยบายผิดพลาด ส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ ตามมาด้วยปัญหาคนว่างงาน การลดการบริโภค และการลดการนำเข้าและการเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ โดยประเทศไทยได้รับผลกระทบมากเนื่องจากเศรษฐกิจไทยกว่า 60-70% ต้องพึ่งพาการส่งออกและท่องเที่ยว ด้านโรงงานคำสั่งซื้อหายตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 51 และเกือบเป็นศูนย์ในเดือน ม.ค.-เม.ย. 52 ขณะที่ปัจจัยภายในเกิดจากความวุนวายทางการเมืองทำให้ไทยในช่วงต้นปีจัดลำดับเป็นประเทศอันตรายลำดับ 8 ของโลก อย่างไรก็ตามจากข้อมูลเศรษฐกิจประเทศไทยผ่านจุดเลวร้ายไปแล้วในเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนคำถามที่ว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นแล้วยังอาจารย์พิจารณาจากดัชนีเศรษฐกิจเดือนก.ค. 52 ซึ่งเป็นเดือนล่าสุดที่มีข้อมูล ทั้งตัวเลขการใช้กำลังการผลิต การบริโภคภาคเองชน และการลงทุนพบว่ายังมีการลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และติดลบในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนๆหน้า แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ถึงก้นเหว ยังคงดิ่งลงอยู่แต่ลงในอัตราที่ช้าลง แต่ที่ดูเหมือนกับว่าเศรษฐกิจฟื้นแล้วเนื่องจากการบริโภคมีสัญญานดีขึ้น เนื่องจากภาครัฐกู้เงินมาสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจารย์แสดงความวิตกว่าดัชนีเศรษฐกิจบางตัวแย่กว่าปี 2540 ขณะที่ดัชนีการนำเข้าเครื่องจักรวัตถุดิบติดลบมาโดยตลอด โดยเฉพาะเดือนล่าสุดก็ลบกว่า 21% อาจแสดงว่าภาคโรงงานอาจมีแผนลดการผลิตลงในอนาคต
 
สุดท้ายอาจารย์บรรยายถึงวิธีพิจาณาเหตุการณ์บ้านเมืองผ่านดวงดิถี (1 เดือนใช้ 4 ดวง) โดยแนะนำว่า(1) ให้ผูกดวงดิถีแล้วเพ่งเล็งไปที่ปัจจัยที่อยู่ใกล้ MC และ AS ของดวงดิถี (2) ดวงดิถีที่น่าพิจาณามากที่สุดคือดวงดิถีที่อยู่ก่อนและหลังดวงสงกรานต์ (3) ดวงดิถีมีโอกาสบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งก่อนหรือหลังเหตุการณ์สำคัญ ยกตัวอย่างเมื่อผูกดวงวันที่ 26 มี.ค.52 (New Moon) พบ MC กุม SA เล็ง MA ต่อมาก็เกิดกรณีจราจลของกลุ่มเสื้อแดง ส่วนอนาคตใกล้ๆลองผูกดวงดิถี วันที่ 26 Sep 09 (First Quarter) พบ SA กุม MC จึงน่าพิจาณาดูว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น
· อาจารย์วิโรจน์ กรดนิยมชัย บรรยายเรื่องภัยหวัด 2009 พิษเศรษฐกิจ และปัญหาการเมืองในประเทศไทย เริ่มต้นอาจารย์สันนิษฐานว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก น่าเกี่ยวข้องกับวงรอบ Saros ที่ 136 ซึ่งจะมีสุริยคราสทั้งสิ้น 72 ครั้ง เกิดขึ้นแต่ละครั้งกินเวลาประมาณ 18 ปี หลังจากนั้นได้ยกตัวอย่างโรคระบาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตพร้อมกับมุมดาวที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปี 1918 เปิดไข้หวัดสเปน พบ JU/NE กุม PL ฉาก UR ถัดมาปี 1919 JU+NE-NO = MC[ไทย] จึงเริ่มระบาดมาที่ประเทศไทย ครั้งล่าสุด 2009 ที่เกิดขึ้นที่เม็กซิโก พบ JU/NE = NO ซึ่งหมายถึงการระบาดใหญ่ (NE คือการฟุ้งกระจายหรือการระบาด, JU คือการขยายตัวหรือมหาศาล) และยังพบ SA สัมพันธ์กับ MC[เม็กซิโก], AS[สหรัฐ], MC[แคนาดา] และ AS[ไทย]ย้ำว่าในปี 53 ยังพบโครงสร้าง JU + NE –MO = M[ไทย] แสดงว่าประเทศไทยยังเสี่ยงต่อการระบาดในปีหน้า เวลาพิจารณาแนะนำว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นที่ไหนต้องดู MC และ AS ของประเทศนั้นๆควรสนิทองศาจากปัจจัยที่พิจารณา
 
ถัดมาอาจารย์บรรยายเรื่องพิษเศรษฐกิจ กล่าวว่าปี 52เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจของโลก (VE=15องศาราศีกุมภ์ตำแหน่งจุลทวาร, SU=พลูโต=มกร ราศีทวาร) ส่วนปี 53 เศรษฐกิจโลกยังไม่ดี (VE/PL =HA) สำหรับประเทศไทยการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกทำให้ประเทศไทยดีขึ้นในปี 54 (VE/PL = [MC/VE]ไทย) อาจารย์ย้อยกลับไปปี 51 เมื่อจุดเริ่มเศรษฐกิจตกต่ำเกิดขึ้นที่สหรัฐ เมื่อพลูโตย้ายเข้ามกร เป็นผลเสียต่อสหรัฐ เนื่องจากวันก่อตั้งธ.กลางสหรัฐ (ตั้งเพื่อให้เงินกู้ประเทศอื่นใช้) และวันชาติสหรัฐอยู่ในราศีกรกฎ (ดาวอยู่กับใคร คนนั้นได้) ประเทศในราศีมกรที่ได้ประโยชน์ได้แอฟริกา และอินเดีย (ราศีมกรเปรียบเสมือนภาคใต้ แขก และคนดำ) ส่วนจีนอยู่ในราศีตุลย์ก็ได้ประโยชน์ในฐานะที่เป็นตัวกลาง แต่ปี 53 SA ย้ายเข้าราศีตุลย์ จีนจะเริ่มรับผลกระทบ
 
สุดท้ายก็บรรยายเรื่องการเมื่องโดยยกตัวอย่างเรื่องวงรอบและการเกิดขึ้นซ้ำของเหตุการณ์เชิงอุปมาอุปไมยว่าแต่ละวงรอบมีเหตุการณ์คล้ายกันแต่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ได้ยกตัวอย่างวงรอบ 30 ปีโดยเปรียบเทียบช่วง 6 ต.ค.ปี 19 หลังเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา ต่อมาวันที่ 8 ต.ค. 19 เกิดการปฏิวัติและคุณธานินท์ กรัยวิเชียรขึ้นเป็นนายกฯ หลังสิ้นสุดตำแหน่งก็ได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นองคมนตรี ขณะที่ปฏิวัติ 19 ก.ย. 49 ก็ได้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ซึ่งเป็นองคมนตรีมารับตำแหน่งเป็นนายก อาจารย์ตั้งข้อสังเกตว่าถัดมาปี 2524 ช่วงขุดแก๊สในอ่าวไทยครั้งแรกการลงทุนเพิ่มตามมา ปี2554 การลงทุนในประเทศไทยก็น่าจะเพิ่มขึ้น สรุปท้ายว่าปี 53 ตลาดหุ้นกับทองคำยังเป็นฟองสบู่ยังคงต้องระมัดระวัง
 
เรื่องสุดท้ายอาจารย์บรรยายถึงปัญหาการเมืองไทย โดยใช้ดวงชะตาคุณอภิสิทธ์เป็นหลักพบว่า (1) วันที่ 17 ธ.ค. 51 คุณอภิสิทธ์ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกฯ พบโครงสร้าง SU + KR – VE ซึ่งเป็นจุดโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสัมพันธ์กับ Mr (SU + KR หมายถึงกษัตริย์, VE หมายถึงคน) แสดงว่าหลัง 17ธ.ค. 51 คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ (ตราบที่ยังไม่มีโครงสร้างร้ายแรงลบล้างโครงสร้างนี้?) (2) ต่อมาดวงสงกรานต์ 21 ธ.ค. 51 พบ MC = ZE = [MC/MO]อภิสิทธิ์ แสดงว่าอภิสิทธิ์ยังเป็นนายกฯในปี 52 เพราะ ZE หมายถึงความสามารถในการบังคับบัญชา ไม่ได้หมายถึงการเผาไหม้แต่อย่างใด (3) ดวงสงกรานต์ 22 ธ.ค. 52 พบว่า MC/KR = MCr แสดงว่าคุณอภิสิทธิ์ยังเป็นนายกในปี 53 (4) เกี่ยวกับอนาคตอันใกล้ ลองผูกดวง 19 ก.ย. 52 (New Moon) เทียบดวงคุณอภิสิทธ์ที่วิตกว่ามี SA, SU, MO, VE กุมกับ SUv แต่ SUv จะหมายถึงคนที่เกิดวันเดียวกับคุณอภิสิทธ์ไม่ใช่คุณอภิสิทธิ์ เนื่องจากคุณอภิสิทธ์มีเสาร์สันโดด เกิดต่างประเทศ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่เมืองนอก จึงใช้เสาร์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว และในช่วงเวลาดังกล่าวคุณอภิสิทธ์ไปยูเอ็นไม่ได้อยู่ในไทย ส่วนโครงสร้าง MA/UR ที่เล็ง [ASสะท้อนและMC]อภิสิทธ์ อาจหมายถึงพ่อแม่ ถ้าคุณอภิสิทธ์ไม่ได้ไปหาหมอให้เจาะเลือดก็อาจหมายถึงพ่อ-แม่คุณอภิสิทธิ์ป่วย ในโครงสร้างดวงคุณอภิสิทธิ์ยังพบว่า MEr+SAr-NEr = SUr อาจต้องมีการเดินทางทั้งชีวิต และในช่วงดังกล่าว SAt ที่แปลว่าไกลอยู่เรือนที่ 3 แสดงว่าอาจมีการติดต่อสื่อสารทางไกลผ่าน Video Conference มาประเทศไทย
 
อาจารย์กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่บางท่านเกรงว่าวันที่ 19 ก.ย. 52 อาจมีเหตุการณ์ปฏิวัติเหมือนที่เกิดเมื่อ 19 ก.ย. 49 นั้น โดยหลักการแล้ว (1) ไม่มีทฤษฎีใดๆกล่าวถึงวงรอบ 3 ปี (2) ดวง NEW MOON ไม่มีโครงสร้างปัจจัยที่แสดงเหตุการณ์รุนแรง ซี่งที่จริงดวงสงกรานต์ 21 ธ.ค. 51 ก็ได้ยืนยันแล้วว่าผู้นำสามารถจัดการได้ (3) ขอให้นอนหลับฝันดีทุกคน
· อาจารย์อดิเทพ ศรีรัตนไพฑูรย์ บรรยายเรื่องข้อสังเกตเกี่ยวกับภัยพิบัติ โดย (1) ตั้งข้อสังเกตว่าในดวงเมืองของกรุงเทพฯ (21 เม.ย. 2325 เวลา 6:54 น.) พบโครงสร้าง MA/NE ตั้งฉาก HA แสดงว่าประเทศไทยมีโอกาสเกิดน้ำท่วมหรือโรคระบาด (2) หาช่วงเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ เริ่มจากหาผลต่างโครงสร้าง MA+NE-HA (38องศา50ลิบดา) และ NO ที่เป็นจุดติดต่อของโรค (16องศา8ลิบดา) ได้ผลต่างเท่ากับ 22องศา40ลิบดา ดังนั้นจะเกิดเหตุการณ์ในปีที่โค้งเป็นจำนวนเท่าของผลต่าง ทดลองเอา 10 คูณผลต่างได้ค่าโค้งเท่ากับ 224 องศา ตรงกับโค้งของดวงทินวรรษปีนี้ และเชื่อว่าเหตุการณ์อาจรุนแรงในปี 54 เนื่องจากพบโครงสร้าง NE/VU=ASr (น้ำท่วม), NE/HA =MA+NE-HA =SUr (โรคติดเชื้อ) และ SA+NE =ARr (โรคระบาด)
หมายเหตุ
 
อาจารย์อดิเทพได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมหลังบทความนี้จัดพิมพ์ออกไป ดังนี้ครับ
 
“…….
ข้างล่างนี้เป็นงานวิเคราะห์ที่ผมทำไว้ครับ ลองศึกษากันดูนะครับ
 
น้ำจะท่วมกทม.หรือจังหวัดใกล้เคียง และจะเกิดโรคระบาดในปี พ.ศ.2555(ค.ศ.2012) หรือเปล่า
 
จากดวงกทม. พบว่า
MA/NE = HA = 90
หรือเขียนใหม่เป็น MA+NE-HA = HA
MA+NE-HA (โรคระบาด) มีตำแหน่งอยู่ที่ 38 องศา 50 ลิปดา จากจุดเมษ
NO (การติดต่อ) มีตำแหน่งอยู่ที่ 16 องศา 08 ลิปดา จากจุดเมษ
ทั้งสองตำแหน่งมีผลต่างเท่ากับ 22 องศา 40 ลิปดา
ค่าโค้งปัจจุบัน(ทินวรรษพ.ศ.2552) ของกทม.เท่ากับ 221:04
เอา10 คูณ 22:40 ได้ 224:00
นำค่า 224 ไปป้อนในช่องของค่าโค้ง จะตรงกับวันที่ 7 มีนาคม 2555
จากนั้น ให้ตั้งดวงทินวรรษ 2555
 
ข้อมูลบางส่วนจากดวงทินวรรษ พ.ศ.2555
1) (-NE) t = SUt/MOt = 0
2) [NE/VU] t = [NE/VU] v2 = ASr = 0
3) [MA+NE-HA] t = [MA+NE-HA] r = 0 error2 องศา 20 ลิปดา
4) [MO+HA-AD] t = [MO+HA-AD] r = 0 การถึงแก่กรรมของประชาชนเพราะโรคระบาด
= ADv1 = 90
= (-MOr) = 180
5) [MA+NE-NO] t = [MA+NE-NO] r = 0 แปลว่าการติดต่อของโรค
= [SU/HA] t = 180
= [AR/MO] r = 180
= [SU/UR] r = 180
= NOr = 135
6) [UR/NE]t = MCv1 = 180 = (-MC) t = 0
[UR+NE-MC] t = [UR+NE-MC] r = 180
= (-SUr) = 180 = [SA+NE-HA] r = 90
= (-MOr) = 90
แปลรวมว่า “เกิดวิกฤติในกทม. = โรคระบาดในหมู่ประชาชน”
7) [MA+SA-MC] t = [MA+SA-MC] v1 = 90 = MCv1 = 0
8) [SA/NE] t = HAt = AR
 
ดวงอมาวสี 22/3/2555
1) [MA+NE-HA] t = [MA+NE-HA] r = 0 error 3 ลิปดา
2) [NE/HA] t = SUr = 0 error 11ลิปดา
3) [NE/VU] t = [NE/VU] v2 = 0 error 1 องศา 6 ลิปดา= ASr = 0 error 44 ลิปดา
4) [SA/NE]t = HAt = 180 = ASr = 135
= SAv1 = 135
= เมษ = 90
5) ที่จุดอมาวสี = [ME/UR]t = 0
= [MA/SA]t = 180
= [MC/AS]t = 180
 
หากตั้งดวง เหมายัน 21/12/2555 พบว่า
1) [NE/VU] t = [NE/VU] v2 = ASr = 0
= MCt = 45
2) SUr = [NE/HA] t = 0 error 13ลิปดา
= [UR/AD] t = 0 error 13 ลิปดา
= APt = 180 = error 1 องศา 12 ลิปดา
 
ยังมีโครงสร้างสำคัญของ SUr ที่แสดงผลในช่วงเวลาเดียวกันด้วยกล่าวคือ
 
จากดวงกำเนิดของกทม.
SUr = [NE+VU-AD] r = 135
30:58 254:58
ทั้งสองมีผลต่างเท่ากับ 224 ด้วยเช่นกัน
 
NE+VU-AD แปลว่า “การเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารของสภาพความเป็นอยู่”
โครงสร้างนี้ บ่งบอกล่วงหน้า มาตั้งแต่ เหมายัน 22/12/2554
[NE+VU-AD] t = [NE+VU-AD]r = 135
= [NE+VU-AD] v1 = 90
 
อีกโครงสร้างหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงคือ
UR+ZE-HA แปลว่า “กำลังที่ทำให้เกิดการทำลาย เนื่องจากอำนาจธรรมชาติ”
ในหนังสือพระเคราะห์สนธิเขียนไว้ว่า เป็นพายุฝนฟ้าคะนอง แผ่นดินไหวในทะเล ซึ่ง
UR+ZE-HA = NO = 135
= PO = 135
= AR/MO= 180
= SU/SA = 90
 
อมาวสี 5/3/2554
1) SUt.MOt = SUv1 = 90
2) [UR+ZE-HA] t = [UR+ZE-HA] v1 = 0
3) [NE/VU] t = [NE/VU] v1 = 90 = URv1
= SolarDay = 90
 
อมาวสี 3/4/2554
PLt = [MA/SA] t = 0
= [UR/ZE] t = [UR/ZE] v2 = 90
= [SU.MO] t/ [MA.UR] t = 90
SUt.MOt = SAt.ZEt = 180
= MCt = ASt = 135
= [UR+ZE-HA] t = [UR+ZE-HA] v1 = 90
= ADr = 90
 
ทินวรรษ 2554
[UR+ZE-HA] t = [UR+ZE-HA] r = 135
และในช่วง เหมายัน 22/12/2554
[UR+ZE-HA] t = [UR+ZE-HA] v1 = 0
 
ยังมีโครงสร้างอื่นๆอีกมาก ที่อาจทำให้การแปลความหมาย จะต้องแปลไปในอีกทิศทางหนึ่ง
 
แต่ไม่สามารถ เขียนบอกกันในที่นี้ได้ครับ
 
คงตั้งเป็นประเด็นเรื่องน้ำท่วมและโรคระบาดไว้ก่อน
 
ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่ง "ในขณะนี้วงการแพทย์กำลังทดลองยาต้านไวรัสเอดส์ในมนุษย์"
 
เพื่อให้ สมบูรณ์มากขึ้น ผมขอรบกวนช่วยเพิ่มคำแปล ตัวสีแดง ต่อท้าย
 
อีกโครงสร้างหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงคือ
UR+ZE-HA แปลว่า “กำลังที่ทำให้เกิดการทำลาย เนื่องจากอำนาจธรรมชาติ” ในหนังสือพระเคราะห์สนธิเขียนไว้ว่า เป็นพายุฝนฟ้าคะนอง แผ่นดินไหวในทะเล ซึ่ง
UR+ZE-HA = NO = 135 แนวเขต
= PO = 135 king of an ocean
= AR/MO= 180
= SU/SA = 90
แปลรวมว่า "การอพยพประชาชนตามแนวชายฝั่ง" สาเหตุจาก UR+ZE-HA
... "
· อาจารย์หนุ่ม พยากรณ์ สาธิตโปรแกรม Uranus เริ่มจากการอธิบายปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังการจัดทำโปรแกรม ประกอบด้วย (1) เบื้องบนเป็นเช่นใดเบื้องล่างไซร้เป็นเช่นนั้น = โปรแกรมต้องสามารถจับคู่โครงสร้างดาวเข้ารูปที่ปรากฏบนฟ้าขณะนั้นเข้ากับโครงสร้างดาวเข้ารูปที่ปรากฏบนพื้นดวงชะตา (Same-As Planetary Picture) (2) อนาคต ปัจจุบัน เฉกเช่นกันกับอดีต หรืออีกนัยหนึ่งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเหมือนกันโดยอุปมาอุปไมย = โปรแกรมต้องสามารถคำนวณวงรอบด้วยวิธีต่างๆทั้งครึ่งโค้ง, โค้ง, สองเท่าโค้ง เป็นต้น (3) จำเป็นและพอเพียงเป็นข้อพึงพินิจ = สูตรดาวมีกว่า 5 พันสูตร ทำอย่างไรจึงสามารถดึงสูตรเฉพาะที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต้องใช้ออกมา โปรแกรมจึงมีความฉลาดในการพิจาณาความสัมพันธ์ของปัจจัย ด้วยการอ่านสมการจากการตั้งปัจจัยเป็นแขนดาวมาเปรียบเทียบกับโครงสร้างสมการในสารานุกรมพระเคราะห์สนธิ และสามารถดึงเอาเฉพาะโครงสร้างที่เกิดขึ้น ณ วัย และเวลาขณะนั้น (4) ดาวทำมุมต้องคิด ดาวมีสิทธิไม่ทำงาน = เป็นเรื่องของการครบวงจร จากแนวคิดที่ว่าโครงสร้างใดจะทำงาน ต้องสัมพันธ์และคล้องจองกันทั้งดวงเดิมและดวงจร อาทิเช่น เป็นความสัมพันธ์สลับ (Reciprocal) เช่นพฤหัสจรถึงเสาร์เดิม เสาร์จรต้องถึงพฤหัสเดิมด้วย, ความสัมพันธ์ Same-AS เช่น ปัจจัยใดๆที่แขนถึงแกนในดวงจร ต้องปรากฏปัจจัยนั้นมีแขนถึงแกนในดวงเดิมด้วย หรือแทนด้วยสมการ t A+B-C = r A+B-C, t A+B-C = v A/B//C เป็นต้น
 
จากนั้นอธิบายถึงเครื่องมือใหม่ๆที่อยู่ระหว่างการทำวิจัย ได้แก่ (1) โค้งจันทรยาตร์ (จันทรคติ) จจย.จค (V6) กำหนดให้ 1 วันจันทร์จรเท่ากับ 1 เดือนจันทรคติ (27.5 วัน) ซึ่งเป็นคนละตัวกับโค้งจันทรยาตร์ (สุริยคติ) จจย.สค (V3) ที่กำหนดให้ 1 วันจันทร์จรเท่ากับ 1 เดือนสุริยคติเหมือนตำราทั่วๆไป (2) Minor Meridian Progress (pMC or Mp) กำหนดให้ 1 วันเท่ากับ 361 องศา (3) โค้งเมอริเดียนหรือ Meridian Direction (pMC or Mp) V8 (4) ดาวเด่น หรือ Aspect Dominance ใช้ปัจจัยทำมุมกับจุดเจ้าชะตาสำคัญถ่วงน้ำหนักจากระยะคลาดเคลื่อน (วังกะ) ต่างกับวิธีของอาจารย์ประยูรที่มีการพิจาณาปัจจัยใน 1-4-7-10 ของเรือนชะตาเมอริเดียน
 
แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเห็นมากขึ้นได้แก่ ผ่านเว็ป, มีลูกเล่น, GUI เช่นหน้าจอ Touch Screen และใช้เป็น E-Learning ได้
 
Uranus Roadmap หรือแผนการพัฒนาโปรแกรมในอนาคตที่คิดจะทำประกอบด้วย (1) จานคำนวณ 2 ชั้นเพื่อรำลึกถึงอาจารย์จรัญ (2) Harmonics Dial ในทุกมุม (3) Uranian House (4) Classical Wheel (5) Graphical Ephemeris (6) Synastry Analysis (7) Report Generator (8) Atlas, Daylight Saving Time (9) Intelligence Close Circuit (10) GUI
 
New Feature สำหรับรุ่นปัจจุบัน (2.2.48) ประกอบด้วย (1) ! หมายถึงเกิดโครงสร้าง Reciprocal (2)!! หมายถึงเกิดโครงสร้าง Same-As Planetary Picture (3) | หมายถึง Planetary Picture
· คุณสมัคร บัวชู (อธิ อัฐกาล) สาธิตโปรแกรม Aries ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับนักโหราศาสตร์ยูเรเนียนที่ต้องการลดเวลาในการพิจาณาปัจจัย เช่นหมอดู 1900 และใช้ในการค้นคว้าวิจัย จุดเด่นของประแกรมประกอบด้วย (1) สามารถกำหนดพจนานุกรมสูตรพระเคราะห์สนธิได้จากหลายตำราทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ช่วยในการค้นคว้าถึงที่มาสูตรพระเคราะห์สนธิต่างๆ (2) แสดงโครงสร้างสูตรพระเคราะห์สนธิที่ให้ผลดี/ร้าย หนัก/เบาด้วยสี ช่วยลดเวลาพิจารณาปัจจัย (3) หน้าจอที่แสดง Dial Wheel สามารถแสดงเฉพาะโครงสร้างสูตรที่สำคัญที่กำลังพิจารณาอยู่ (4) Dial Wheel มีขนาดใหญ่ และเส้นกริดแสดงมุมสัมพันธ์ชัดเจนอ่านได้ง่าย (5) พูดได้ ในการบรรยายคุณสมัครลองผูกดวงเด็กแฝดที่เกิดห่างกัน 10 นาที แต่มีคนหนึ่งเสียชีวิตแล้ว โปรแกรมสามารถแยกโครงสร้างดี/ร้ายด้วยสีทำให้สามารถเห็นความแตกต่างของสองดวงชะตาได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว
· ดร.วินัย อวยพรประเสริฐ บรรยายเรื่องความสำคัญของสมผุสดาวที่ถูกต้อง เริ่มจากกล่าวถึงมูลเหตุจูงใจในการค้นหาวิธีคำนวณสมผุสดาวให้ถูกต้องและคลาดเคลื่อนน้อยที่สุดว่าเกิดจากความต้องการทางด้านปฏิบัติการพยากรณ์และด้านทฤษฏีการพยากรณ์ที่ต้องการความเที่ยงตรง ได้แก่
 
• การปรับแก้เวลาเกิดรายนาที [โดยเฉพาะเมื่อใช้กับความหมายประจำองศา อาทิ การใช้ Sabian Symbol]
 
• การปรับแก้ Vernal Equinox สำหรับพยากรณ์จรปัจจุบัน เนื่องจาก จุดวสันตวิษุวัตรหรือจุด Vernal Equinox มีการโคจรย้อนจักรปีละ 50.25ฟิลิบดา” หรือ 70 ปีต่อ 1 องศา ทำให้อ้างอิงตำแหน่งดาวไม่คงที่ [จุดเมษในดวงชะตาเดิมและดวงชะตาจรไม่ตรงกัน]
 
• การปรับแก้โดยโค้งสุริยยาตร์ เนื่องจาก 1 องศาจะเท่ากับ 1 ปี ดังนั้นหากตำแหน่งของปัจจัยที่พิจารณาคลาดเคลื่อนไป 5ลิบดา การเกิดขึ้นของเหตุการณ์จะคาดเคลื่อนได้เป็นเดือน หรือ 10 ฟิลิบดาต่อวัน อาจารย์ตั้งข้อสังเกตุว่าลูกค้าบางรายหากทายผิดไป 10 วันก็หาว่าไม่แม่นแล้ว
 
• ทฤษฏีพรมแดนสัมบูรณ์และระยะวังกะ 1 ลิบดา [แต่ละราศีและองศาต่างมีเขตแดนที่สมบูรณ์ ณ จุดสิ้นสุดแต่ละราศี หากเลยเพียง 1 ลิบดาก็ถือว่าย้ายราศี และความหมายเปลี่ยน โดยเฉพาะถ้าใช้ความหมายประจำองศา ปัจจัยคลาดเคลื่อนไป 1 ลิบดาก็เปลี่ยนความหมายแล้ว]
 
• ทฤษฏีระยะวังกะมุมสัมพันธ์ ง่ามมุมระหว่าง 2 ปัจจัยมีความหมายเฉพาะ [สามารถนำมาพยากรณ์ได้โดยใช้ความหมายประจำองศา]
 
• ทฤษฏีโหราศาสตร์ยุคใหม่ เช่น Parallax [การคลาดเคลื่อนของตำแหน่งดาวที่ปรากฏ เนื่องมาจากการเปลี่ยนตำแหน่งสังเกตการณ์บนโลกเมื่อเทียบกับตำแหน่งอาทิตย์]
 
อาจารย์เสริมว่าการเลือกสูตรดาวและที่มาตำแหน่งดาวจะพิจารณาจาก
• ความจำเป็นของทฤษฏีที่ใช้ [ทฤษฏีเก่าอาจไม่ต้องการความแม่นยำมาก แต่ทฤษฏีใหม่อาจต้องการ]
 
• ความแม่นยำของการกำหนดเวลาเกิดเหตุ ในระดับ ยุค/ปี/เดือน/วัน/ชั่วโมง/นาที/วินาที
 
• ที่มาของตำแหน่งดาว มีทั้งจากปฏิทินดาวและซอฟท์แวร์ [ซึ่งมีความแม่นยำต่างกัน]
 
• ความคลาดเคลื่อนของระบบ [เช่นหากต้องลงดวงชะตาด้วยมือ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนสูงอยู่แล้ว สูตรที่ใช้ก็ไม่ต้องการความยำมาก]
 
จากการทำวิจัย อาจารย์พบว่าตำแหน่งดาวที่แม่นยำที่สุดจะมาจากปฏิทินดาว The American Ephemeris ของ Neil F. Michelsen ขณะที่สูตรคำนวณตำแหน่งดาวที่ให้ความแม่นยำสูงเป็นสูตรของ Bretagnon/Simon และสูตรที่ใช้คำนวณดวงจันทร์เป็นของ Chapront ทำให้ปัจจุบันโปรแกรม PlaPlace [ที่พัฒนาโดยอาจารย์] มีความคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 10 ฟิลิบดา
 
หมายเหตุ: เนื่องจากเวลาค่อนข้างจำกัดแต่มีประเด็นที่น่าสนใจ ข้อความใน [] จึงเป็นการขยายความของผู้สรุป
· คุณพงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย (Pallas)
มาบรรยายเรื่องการกลับมาของเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ โดยใช้ดวงดิถีประกอบตัวอย่างการบรรยาย โดยเริ่มจากให้คำจำกัดความของเศรษฐกิจตกต่ำ (Depression) ว่าคือภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดเวลานานหลายปีและส่งผลกระทบไปหลายประเทศ จากนั้นได้บรรยายถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วง 1930s ว่าเริ่มจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงในสหรัฐ และซ้ำเติมด้วยนโยบายการเงินการคลังที่ตึงตัว หลังจากที่ UR (ดาวแห่งความพลิกผัน ตื่นตระหนก และความตรึงเครียด) จรเข้าราศีเมษและ กุม HA (ดาวแห่งทุกขเวทนาและความขนาดแคลน) ในปี 1928 และกุม AD (ดาวแห่งการหยุดชะงัก)ในปี 1929 และตามด้วยโครงสร้าง T-Square ของ SA, UR, PL ในจรราศีในปี 1930 หลังจากนั้นเศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุดในปี 1932 เมื่อโครงสร้างวิกฤตคลายตัวลง และกลับมาขยายตัวอีกครั้งเมื่อรัฐและธนาคารกลางประเทศต่างๆเปลี่ยนนโยบายมาเป็นแบบคลายตัวและอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ JU (ดาวแห่งเศรษฐกิจและการขยายตัว) เข้ากุม NE (ดาวแห่งความฟุ้งเฟ้อ) และ AP (ดาวแห่งการค้า) จากนั้นก็บรรยายถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในรอบนี้ เริ่มต้นจากฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐแตก หลังโครงสร้าง T-Square ของ SA, NE, AD ทำงาน ทำให้เกิดการตื่นตระหนกในตลาดการเงิน เมื่อ SA เล็ง UR ในปี 2008 จากนั้นรัฐบาลในหลายประเทศก็อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ (JU กุม NE แลกราศีกับ UR) ทำให้ดูเหมือนเศรษฐกิจฟื้นแล้ว แต่ปัจจัยทางโหราศาสตร์ได้บ่งชี้ว่าจุดต่ำสุดที่แท้จริงน่าอยู่ใน ปี 2010 เพราะเป็นช่วงที่โครงสร้าง Grand Cross ของ MA, SA, PL, JU, UR, HA เริ่มก่อรูปที่จุดทวาร ซึ่งจะเข้าสู่จุดวิกฤตในช่วงวันที่ 31 ก.ค. 2010 เมื่อ MA ดาวแห่งกิจกรรมและความไม่สงบ ข้ามากุม SA ที่จุดตุล ร่วมด้วย MO ที่เข้ากุมจุดเมษ ในช่วง 1-2 เดือนนั้นโลกคงเจอกับวิกฤติการณ์สำคัญทั้งทางเมือง เศรษฐกิจและสังคม ส่วนการคลี่คลายของเหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2010 เมื่อ SA จรออกจากตรียางค์แรกของบราศีตุลย์ ตามด้วย JU จรออกจากแกนวิกฤตินี้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2011 อย่างไรก็ตามอาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในปี 2012-2015 เมื่อ UR และ PL ซึ่งหมายถึงการปฏิรูปหรือการเปลี่ยนแปลงอย่างปุปปับฉับพลัน จะทำมุมฉากต่อกันถึง 7 ครั้งตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2012 ถึง 17 มีนาคม 2015 โดยเฉพาะต้นปี 2015 เกิดโครงสร้าง T-Square ของ UR, PL, NO โดยมี MA และ VE กุม UR และทำมุม 45 องศากับ AD ซึ่งอาจบ่งบอกถึงวิกฤตในตลาดหุ้น
 
สุดท้ายผู้บรรยายกล่าวสรุปว่าวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการกลับมาของเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ แม้จะมีความคล้ายคลึงกันหลายประการแต่ก็มีความต่างกัน และความแตกต่างที่สำคัญในเชิงโหราศาสตร์ คือช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ 1930s มีโครงสร้างวิกฤตหลายโครงสร้างเกิดขึ้นต่อเนื่องกัน ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบันมีช่วงผ่อนคลายที่ JU เข้ากุม NE ถึง 3 ครั้งในปี 2009
ปิดท้ายด้วยดร.จรัสโรจน์ บถดำริห์ทายาทของอาจารย์จรัญก็ขึ้นมากล่าวปิดงาน และเชิญอาจารย์อารี สวัสดี ให้เกรียติเพื่อแจกใบประกาศเกีรติคุณให้กับวิทยากรทุกท่านที่ยังคงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาตั้งแต่ช่วงเช้า ลำดับต่อมาถ่ายรูปร่วมกันกับสมาชิกผู้มาร่วมงานซึ่งเป็นประเพณีหรือธรรมเนียมของชมรมSkyclock เป็นที่ระลึกทุกครั้งที่จัดงานเป็นอันสิ้นสุดของงานสัมมนาที่จบลงไปได้โดยสะดวกราบรื่น แล้วพบกันใหม่ในปีหน้านะครับทุกท่าน
หมายเหตุ: หากมีการตกหล่นประเด็นที่สำคัญ หรือเกิดความผิดพลาดในการสรุปเนื้อหา อันเกิดจากความเข้าใจผิดของผู้สรุป ผู้สรุปก็ต้องขออภัยวิทยากรทุกๆท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
 
ด้วยความเคารพในศาสตร์แห่งการพยากรณ์
อุชุจาโร
15 กันยายน 2552 เวลา 20:32 น.
หมายเหตุ: เพื่อสะดวกต่อการทำความเข้าใจบทสรุป ผู้สรุปจะใช้สัญลักษณ์แทนความหมายปัจจัยต่างๆที่วิทยากรแต่ละท่านอ้างอิงถึง ดังต่อไปนี้
 
สัญลักษณ์ ความหมาย สัญลักษณ์ ความหมาย สัญลักษณ์ ความหมาย
AR จุดเมษ MA อังคาร CU คิวปิโด
AS ลัคนา JU พฤหัส HA ฮาเดส
MC เมอริเดียน SA เสาร์ ZE เซอุส
SU อาทิตย์ UR มฤตยู KR โครโนส
MO จันทร์ NE เนปจูน AP อพอลลอน
NO ราหู PL พลูโต AD แอดเมตอส
ME พุธ CH ไคร่อน VU วัลคานุส
VE ศุกร์ PO โพไซดอน
 
สัญลักษณ์ต่อท้าย ความหมาย
r ปัจจัยเดิม
t ปัจจัยจรประจำวัน
v ปัจจัยจรสุริยยาตร์
โฆษณา